ค่ำคืนทีเงียบสงบ เจียงหูเค่อหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่ไกลจากนั้นมีเจ้าเก้ากำลังกัดผลไม้หนึ่งคำเฝ้ามองอยู่ นายท่านเดาถูก ตอนนี้เกิดความขัดแย้งภายในรังของเว่ยชิงแล้ว
นายท่านพูดไว้ไม่มีผิด เจียงหูเค่อไร้สมองคนนี้ ต้องถูกเว่ยชิงฆ่าตายแน่ ๆ
แต่เจียงหูเค่อยอมกบฏเพื่อครอบครัว!
นายท่านกล่าวว่าต้องจับตัวเจียงหูเค่อให้ได้ !ถ้านายท่านอยากให้คนผู้นี้สารภาพผิดเอง ก็ต้องเชือดไก่ให้ลิงดู ทำให้จอมยุทธิ์ทุกคนหวาดกลัว!
หึ!
เจ้าเก้าโยนเม็ดทิ้ง ร่างสูงใหญ่ที่แข็งแรงดแต่พลิ้วไหวเหมือนใบไม้ ไล่ตามเจียงหูเค่อไปตลอดทาง
วันที่สอง
จวนราชองครักษ์
เซียวเฉวียนที่เงียบสงบมาตลอดช่วงนี้กลับขยันมาเป็นพิเศษ มาเช้ากลับช้าทุกวัน รอให้เอกสารราชการอนุมัติเมื่อไหร่ เขาไม่ยอมปล่อยให้เอกสารราชการของหลี่มู่และคนอื่นหลุดลอยไปแน่
เซียวเฉวียนทำงานทุกอย่างในกองราชองครักษ์เพียงลำพัง ขยันจนหลี่มู่พอใจมาก
ไม่เพียงแค่นี้ เซียวเฉวียนยังชอบอ่านข้อมูลอีกด้วย กององครักษ์เกี่ยวข้องกับเอกสารด้านประวัติศาสตร์ของทาสคุนหลุน เขาอ่านมันทั้งหมด
แต่เอกสารด้านประวัติศาสตร์ยังน้อยเกินไป มีแค่ตำราบาง ๆ ไม่กี่เล่ม เนื้อหาง่าย ๆ บอกถึงที่มาของทาสคุนหลุน พอได้อ่านตำราเล่มนี้ เซียวเฉวียนจึงรู้ว่ามีผู้อารักขาหญิงอยู่ด้วย
น่าเสียดายที่เขากลับไม่เคยเจอเนาง มีแต่เหล่าอาวุโสของไป๋ฉีวนเวียนอยู่ข้างกายเต็มไปหมด
“ยังมีตำราเล่มอื่นอีกไหม?”
ช่วงนี้เซียวเฉวียนไม่ชอบอ่านตำราและเขียนตัวอักษรอย่างไม่ทราบสาเหตุ เขาหยิบพู่กันขึ้นมา แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกกระสับกระส่ายจนพูดไม่ออก ระหว่างที่หยิบตำราขึ้นมาท่อง ทันใดนั้นก็มีพลังกลุ่มหนึ่งแผ่กระจายมาบริเวณหน้าอก ทำให้เขาหายใจไม่สะดวก
หลี่มู่บอกว่ารากเหง้าการฝึกตนที่เพิ่งจะเติบโตมักจะเป็นเช่นนี้
หลายคนมีรากเหง้าการฝึกตนมาตั้งแต่กำเนิด ได้ร่ำเรียนมาตั้งแต่เด็ก ความรู้สึกนี้สำหรับคนหมู่มากแล้ว มันเหมือนกับลมหายใจ ไม่มีทางจับกระแสของพลังได้
“ดังนั้นข้าจึงให้ยากับเจ้า หลีกเลี่ยงไม่ให้เจ้าขาดอากาศหายใจตาย”
“พรวด.....” นัยน์ตาของเซียวเฉวียนเบิกกว้าง “ร้ายแรงถึงเพียงนี้เลยหรือ?”
“อื้อ เจ้ากินยาแล้วใช่ไหม?” หลี่มู่พยักหน้า สถานการณ์นี้เป็นเรื่องปกติสำหรับเซียวเฉวียน แต่พอมียา ลมหายใจก็คงที่มากขึ้น
จ๋อม จ๋อม....
ข้างหูของเซียวเฉวียนกลับมีเสียงฟองอากาศของขวดยาที่จมลงไปในโอ่งน้ำดังขึ้น ซึ่งแฝงไปด้วยการเยาะเย้ยละคนไร้ความปรานี
“อะไรนะ? เจ้าทิ้งไปแล้ว?”
หลี่มู่กุมขมับ “เจ้ารู้ไหมว่ายาเม็ดหนึ่งมีค่าเป็นพันเหรียญทองเชียวนะ ! ในนั้นมีอย่างน้อยสิบเม็ด!”
อีกอย่างหาซื้อไม่ได้ตามตลาด มีแค่ในราชวงศ์เท่านั้น!
หลี่มู่กระทืบเท้าอย่างไม่สบอารมณ์ “ช่วงนี้เจ้าอย่าทะเลาะกับใครอีกล่ะ ห้ามลงแข่งแต่งกลอนด้วยเข้าใจไหม? แล้วก็ยกเลิกความคิดที่จะไปลานประลองของเจ้าได้เลย”
“ทำไม?”
“ถ้ามีคนทำร้ายเจ้า ไม่เป็นการรนหาที่ตายเองเหรอ?”
“ไม่มีทาง ครึ่งเดือน เจียงหูเค่อบาดเจ็บปางตาย ไม่มีทางทำร้ายข้าได้หรอก”
เซียวเฉวียนเชื่อมั่น นัยน์ตาเปล่งประกาย
สิ้นสุดเสียง
ลมเย็นระลอกหนึ่งก็พัดผ่านไป
เซียวเฉวียนและหลี่มู่หันกลับมา ไป๋ฉีปรากฏตัวขึ้น “นายท่าน มีคนเข้ารอบสุดท้ายและได้รับดาบจิงหุนแล้ว ตอนนี้ตาท่านแล้ว”
พูดปุ๊ปมาปั๊ป!
เซียวเฉวียนตบปาก มั่นใจดีนัก !อวดเก่งดีนัก!ปากเสีย!ปากเสีย!
“จอมยุทธิ์ที่ไหนถึงได้ร้ายกาจเช่นนี้?”
เซียวเฉวียนสะบัดแขนเสื้อ ระยะเวลากว่าครึ่งเดือนนี้ นี่คือคนแรก
“เป็นผู้อารักขาคนหนึ่งชื่อว่าเตงงาย” นัยน์ตาของไป๋ฉีดูเป็นกังวล
ผู้อารักขา?
นัยน์ตาของหลี่มู่เปล่งประกาย “เป็นผู้อารักขาของเว่ยชิง เตงงาย?”
ผู้อารักขาที่มีอิทธิพลผู้นี้ หลี่มู่จำได้ขึ้นใจ
“ใช่” ไป๋ฉีพยักหน้า ในตอนที่เตงงายเข้ามารายงานตัว ไป๋ฉีสังเกตเห็นว่าเตงงายมีจิตสังหารแข็งแกร่งแค่ไหน
เตงงาย?
เซียวเฉวียนพยายามค้นหาชื่อนี้ในหัวสมอง
เตงงาย เป็นแม่ทัพผู้มีชื่อเสียงในยุคสามก๊กของฮวาเซี่ย เชี่ยวชาญด้านการรบ ฉลาดปราดเปรื่อง เทียบได้กับสุมาอี้นักการทหารและเป็นนักยุทธศาสตร์ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในสมัยโบราณ เขาลักลอบข้ามน้ำข้ามทะเลเข้ามาปลงพระชนม์ของจ๊กก๊กจนเป็นมีชื่อเสียงโด่งดังในประวัติศาสตร์ฮวาเซี่ย
เขาสังหารทหารนับสิบอย่างกล้าหาญ เป็นผู้ชนะสิบทิศ เป็นแม่ทัพที่เข้าอกเข้าใจราษฎร์ รักและเมตตาทหารด้วยกัน
แต่สุดท้ายก็ต้องตายเพราะความเชื่อมั่นและชอบลำพองใจตัวเอง
“เซียวเฉวียน เจ้าสู้ไป๋ฉีไม่ได้ เข้าใจไหม?” หลี่มู่รั้งเขาไว้ “เจ้าไม่กินยา เจ้าตายแน่!”
“ต้าหลี่” เซียวเฉวียนตีมือของเขา “ถ้ายามันสำคัญขนาดนั้น คราต่อไปเจ้าก็ต้องให้ความสำคัญมากว่านี้ พูดให้ชัดกว่านี้”
ทำแบบนี้อย่าว่าแต่เจือยาพิษเลย ต่อให้เป็นยาพิษอย่างสมบูรณ์ เซียวเฉวียนสำลักอย่างไม่ลังเล
ยังมีคราต่อไปอีกหรือ?
หลี่มู่ขมวเคิ้วแน่น “เจ้ารับปากข้าแล้ว ว่าเจ้าจะไม่ฆ่าเว่ยชิง”
“ข้าฆ่าผู้อารักขาของเขาก็ไม่ได้ใช่ไหม?”
“ไม่ได้!เจ้านายของเขาคือเว่ยชิง เจ้าบุกไปฆ่าผู้อารักขาของเขา ก็เท่ากับเจ้าทำผิดฐานลบหลู่เบื้องบน!”
“ไปสู้กันบนเวทีสิ” เตงงายตอบกลับเสียงเรียบ มีคนตั้งเวทีประลอง ก็ต้องมีคนขึ้นประลองสิ แบบนี้ไม่เห้นจะแปลกตรงไหน
วันนี้เขามาเพื่อสังหารเซียวเฉวียน
นกจากหลางจุนเสิ่นหยางแล้ว เตงงายเป็นคนที่สองที่อยากจะฆ่าเซียวเฉวียนจนออกนอกหน้านอกตา
ช่างกล้าหาญยิ่งนัก เซียวเฉวียวแสยะยิ้มเย็นชา
ตอนที่เตงงายกำลังพูดนั้น ท่าทางเย็นชาและเคร่งขรึมเต็มไปด้วยความภูมิใจในตัวเอง สมแล้วที่เป็นคนของรัฐไป๋ลู่
เตงงายชำเลืองมองแวบหนึ่ง “ไม่ทราบว่าใต้เท้าหลี่มีคำชี้แนะหรือไม่? วันนี้ข้าไม่ได้ขึ้นประลองบนเวทีในฐานผู้อารักขา แต่ข้าชื่นชมดาบจิงหุนมานานแล้ว จึงมาที่นี่เพื่อสิ่งนี้”
“เจ้าชนะคนเหล่านี้แล้ว ดาบจิงหุนเป็นของเจ้าแล้ว เจ้าไปได้” ในน้ำเสียงของหลี่มู่แฝงไปด้วยคำสั่ง
เตงงายนั้นเฉลียวฉลาดแต่กลับเพ่งเล็งไปยังเซียวเฉวียน “ใต้เท้าเซียว เจ้าหยุดเล่นได้ไหม?”
ชิ!
ไม่มีผู้ชายคนไหนทนการเยาะเย้ยนี้ได้
ผู้อารักขาทีมีความคิดนั้นต่างกัน
เซียวเฉวียนกระโดดขึ้นเวทีประลอง “ข้าพูดคำไหนคำนั้น คนที่ชนะไปถึงรอบสุดท้าย ค่อยมาสู้กับข้า”
“เจ้ายังอยากให้ไป๋ฉีขึ้นมาสินะ” สีหน้าของเตงงายแฝงไปด้วยความดูถูก “ข้าสู้กับไป๋ฉี ไม่ถือว่ารังแกใต้เท้าเซียวหรอกนะ”
“ถ้าเจ้าแพ้ ข้าจะชดเชยให้เจ้าด้วยเนื้อชามนี้”
เซียวเฉวียนโบกมือไปมา เหมิงเอ้าถือเนื้อที่ผสมยาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนเข้ามา
เตงงายรู้ว่าเป็นยาพิษตั้งแต่แวบแรก นัยน์ตาของเขาเคร่งเครียด ไม่พูดไม่จา
“ถ้าเจ้าชนะ ข้าก็จะยกเนื้อชามนี้ให้เจ้าเช่นกัน ผู้อารักขากว่ายี่สิบกว่าคนที่นี่ต่างก็อยู่ที่นี่ เจ้ากินเสร็จแล้วค่อยไปก็ได้”
เซียวเฉวียนยิ้มเล็กน้อย รอบตัวของเขาเต็มไปด้วยความตาย เขายังจะสู้อีกเหรอ?
เตงงายตะลึงงัน และพูดอย่างไม่เข้าใจว่า “ใต้เท้าเซียว กฎของท่านไม่ถูกต้อง”
“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนมีคำอธิบาย ทุกอย่างล้วนมีกฎของมัน” เซียวเฉวียนดูเข้าอกเข้าใจ “หากมีตรงไหนที่เจ้าไม่อยากร่วม ไม่ต้องเข้าร่วมกิจกรรมนี้ก็ได้นะ อิสระได้เต็มที่”
“มาเถอะ”
คาดไม่ถึงว่า เตงงายจะไม่มีท่าทีจะถอยแต่อย่างใด
นัยน์ตาของเซียวเฉวียนเย็นยะเยือก เมื่อเห็นเว่ยชิงก็ออกคำสั่ง ถ้าเซียวเฉวียนไม่ตายไม่เลิกรา
คนโบราณเอะอะก็ฆ่า เซียวเฉวียนส่ายหน้า คนที่มีวัฒนธรรมอย่างเขาก็ยังกระหายเลือด
เซียวเฉวียนเลียริมฝีปาก “ชิ หยุดสู้กันได้แล้ว”
เตงงายเป็นคนดีคนหนึ่ง เตงงายคนนี้จะไปไหนเสีย เซียวเฉวียนอดฆ่าเขาไม่ได้เช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...