ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 258

ฉินซูโหรวโกรธมากจนนอนไม่หลับทั้งคืน นางได้แต่พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง

“คุณหนูหากท่านยังไม่นอนอีกจะเช้าแล้ว รีบนอนเถิด”

“อืม”

“นอนได้แล้ว”

อาเซียงชักชวนนางด้วยเสียงแผ่วเบา เมื่อถึงยามห้า[1] คุณหนูยังต้องลุกไปเปลี่ยนผ้าให้นายท่าน

แม้การที่ผู้หญิงช่วยเปลี่ยนผ้าให้สามีจะเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับนายท่านของนางแล้ว นี่นับเป็นครั้งแรก!

อาเซียงไม่เคยคิดฝันว่าวันหนึ่งนายท่านจะสามารถควบคุมคุณหนูได้ นางไม่กล้าพูด ไม่กล้าถาม คุณหนูไปไหน นางเพียงแค่ติดตามไป

ตื่นนอนตอนเช้า

ฉินซูโหรวมายังเรือนของเซียวเฉวียน

ขณะที่นางกำลังจะเข้าไป ไป๋ฉี่ซึ่งเฝ้าประตูอยู่ก็หยุดนาง “คุณหนูฉินโปรดรอสักครู่ นายท่านกำลังยุ่งอยู่”

ไป๋ฉี่ไม่ได้เรียกนางว่าฮูหยินเซียว ดวงตาฉินซูโหรวเป็นประกาย คนเหล่านั้นที่อยู่รอบกายเซียวเฉวียนอาจไม่ถือว่านางเป็นภรรยาของเซียวเฉวียน

อาเซียงขมวดคิ้ว “คุณหนูกำลังตั้งครรภ์ จะให้ท่านยืนรอได้อย่างไร ท่านจะเหนื่อย!”

ใบหน้าไป๋ฉี่ไร้ความรู้สึก นับตั้งแต่ฉินเฟิงทำเรื่องเช่นนั้น ไป๋ฉี่นึกไม่ชอบตระกูลฉินเป็นอย่างมาก เขายังคงนิ่งเงียบปล่อยให้ฉินซูโหรวและสาวใช้ยืนต่อไป ไม่ว่าพวกนางจะเหนื่อยอย่างไรมันก็ไม่เกี่ยวอันใดกับเขา

“เจ้า...” อาเซียงกำลังจะด่าไป๋ฉี่ แต่ฉินซูโหรวหยุดนางไว้ “ช่างเถอะ ข้ารอนานได้ ไม่เหนื่อยเกินไป”

“คุณหนู!”

อาเซียงรู้สึกกังวลเล็กน้อย การดูแลนายท่านนับเป็นเรื่องหนึ่ง แต่คุณหนูก็ไม่อาจละเลยสุขภาพของตนได้

หายากที่ฉินซูโหรวจะมีนิสัยว่านอนสอนง่าย นางเพียงแค่ส่ายหัวและส่งสัญญาณให้อาเซียงหยุดพูด

เพราะใบหน้าของไป๋ฉี่เย็นชาจนไม่มีสีหน้าใดๆ เลย

ท่าทีของผู้อารักขา นั่นคือท่าทีของเซียวเฉวียน ฉินซูโหรวจะถามหาปัญหาไปเพื่อสิ่งใด?

ภายในเรือน

ชายคนหนึ่งกำลังคุกเข่าตัวสั่นอยู่ในลานเรือน ปากของเขาถูกยัดด้วยผ้า เขายังคงอ้อนวอนขอความเมตตาจากเซียวเฉวียน แต่เซียวเฉวียนกลับรู้สึกรำคาญ จากนั้นเขาก็ปิดปากอีกฝ่าย

เจียงหูเค่อที่สังหารคู่สามีภรรยาถูกจับได้แล้ว

เซียวเฉวียนจ้องมองเจียงหูเค่ออย่างเย็นชา เขายังคงจำได้ว่าก่อนที่เขาจะหมดสติไป พ่อผู้ชราของทั้งคู่บอกให้เขาลืมเรื่องนี้ไปเสีย

ช่างเถอะ? ฆ่าคนต้องชดใช้ชีวิต มันเป็นเพียงเรื่องธรรมดา!

เจียงหูเค่อจะได้รับผลด้วยชีวิตของมัน!

เว่ยชิงต้องขออภัย!

ขออภัยแล้วชดใช้ด้วยชีวิต!

ไม่เช่นนั้นเขาคงจะเสียใจกับหญิงสาวผู้ใจดีคนนั้น ขออภัยต่อเด็กในท้องของนาง!

เซียวเฉวียนโบกมือ “ขังมันไว้แล้วรอการตัดสิน!”

ถึงอย่างไรยามนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะใช้เจียงหูเค่อผู้นี้

เจ้าเก้าผู้มีร่างสูงใหญ่ยกคนขึ้นราวหิ้วไก่แล้วหายตัวไปจากลานเรือนในทันที

ความเร็วของเจ้าเก้าทำให้ฉินหนานที่ยืนอยู่ไม่ไกลตกใจมากจนตัวสั่น เหตุใดผู้อารักขาของพี่เขยถึงดีกว่าของคนอื่นๆ เช่นนี้?

แม้แต่ผู้อารักขาของฉินหนานเอง ไม่ต้องพูดถึงไป๋ฉี่และเหมิงเอ้า เกรงว่าพวกเขาจะเอาชนะเจ้าเก้าไม่ได้ด้วยซ้ำ

น่ากลัว พี่เขยน่ากลัวมาก

“พี่เขย ท่านเรียกหาข้าแต่เช้าเช่นนี้มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?” ฉินหนานกังวลเล็กน้อย หรือว่าพี่เขยอยากจะทวงถามสิ่งที่เกิดขึ้นในวันส่งท้ายปีเก่า?

ฉินเฟิงเป็นพี่ชายของเขา ย่อมสมเหตุสมผลที่พี่เขยจะตำหนิเขา

“ตื่นตระหนกทำไม? ที่เรียกเจ้ามาเพราะมีเรื่องให้เจ้าสอน”

สอน?

ฉินหนานโบกมือ “ไม่กล้า ไม่กล้า! พี่เขยมีความสามารถมาก ทั้งยังโดดเด่นรอบรู้ทั้งอดีตและปัจจุบัน ยังเป็นศิษย์ของปีศาจกวี ข้าจะกล้าสอนพี่เขยได้อย่างไร?”

ฉินหนานพูดอย่างจริงใจ เซียวเฉวียนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับคำชม “พี่เขยของเจ้าไม่ได้รู้ทุกเรื่อง ข้าแค่อยากถามเจ้าถึงเรื่องของตราประทับเหวินอิ้น”

เดิมทีเซียวเฉวียนคิดว่าการเดินทางข้ามเวลาเข้าร่างเซียวติ้งนั้นตัวเขาเข้าใจต้าเว่ยดีแล้ว เป็นผลให้ในภายหลังเขาไม่ทันระวังตัว ไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้า ประชันกลอนหรือตราประทับเหวินอิ้นก็ตาม

สิ่งที่ทุกคนในต้าเว่ยรู้ เซียวเฉวียนไม่รู้

ครั้งต่อไปไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีก

ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงตามตัวฉินหนานมาเพื่อสอบถาม

“พี่เขย...” ฉินหนานเอื้อมมือออกไปแตะหน้าผากเซียวเฉวียน “ท่านสับสนหรือเปล่า?”

“ทำไม?”

“ท่านไม่รู้เกี่ยวกับเทพเจ้า ประชันกลอนและตราประทับเหวินอิ้นจริงๆ หรือ?” ฉินหนานตกใจมากจนดวงตาเขาแทบหลุดออกมา “ข้ายังคิดว่าท่านแค่แกล้งทำ! ข้าคิดว่าท่านแสร้งเป็นหมูเพื่อหลอกกินเสือ[2]!”

“ยามนี้ข้ารู้จักเทพเจ้า ประชันกลอนรวมถึงรากเหง้าการฝึกตน ส่วนตราประทับเหวินอิ้น ข้าเพิ่งได้ยินเรื่องนี้”

ฉินหนานมองพี่เขยผู้มีอำนาจอย่างว่างเปล่า มันเหมือนกับว่าพี่เขยของเขารู้สิ่งที่ลึกซึ้งและยากที่สุดในโลก แต่เขาไม่รู้วิธีปอกไข่

ทุกคนปอกไข่ได้ แต่พี่เขยผู้เป็นอัจฉริยะกลับทำไม่ได้!

พี่เขยยังเป็นศิษย์ของปีศาจกวี! ปีศาจกวีที่อยู่สูงกว่าเรา!

สถานการณ์ของพี่เขย นั่นไม่ใช่เพียงการขาดสามัญสำนึกหรอกหรือ!

ในที่สุดฉินหนานก็ค้นพบความรู้สึกที่เหนือกว่าต่อหน้าเซียวเฉวียน อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น เขาจับมือของเซียวเฉวียนทันที “พี่เขยไม่ต้องกังวล! ท่านอยากรู้อะไร! ข้ารู้ทุกเรื่องและจะบอกท่านในทุกสิ่ง!”

เซียวเฉวียนยิ้ม “มาเถอะ มาคุยไปกินไป”

เซียวเฉวียนต้องเข้าใจเรื่องของตราประทับเหวินอิ้น ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้จะก่อปัญหาในการจัดการกับเว่ยชิง

คำพูด?

เซียวเฉวียนนึกถึงช่วงเวลาที่ไป๋ฉี่แปลงสัญชาติ ในเวลานั้นสวีซูผิงซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐมนตรีการคลังในขณะนั้นได้อ่านข้อความหนึ่ง

“ไป๋ฉี่! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะกลายเป็นพลเมืองของต้าเว่ย! ต้าเว่ยขอแจ้งให้เจ้าทราบว่า หวังว่าเจ้าจะปฏิบัติตามกฎหมายและปกป้องต้าเว่ย! ปกป้องฮ่องเต้! รักประชาชน! ปกป้องตระกูลเซียวของผู้เป็นนาย! เพื่อให้บรรลุความปรารถนาของเจ้า เจ้าจงสาบานว่าจะต่อสู้จนตาย ยินดีลงน้ำลุยกองเพลิง สู้ไม่ถอย และต่อสู้จนตัวตาย!”

“พี่เขยคำพูดเหล่านั้นไม่ใช่คำสาบานของผู้อารักขาต่อเจ้านาย แต่เป็นคำสาบานของผู้อารักขาต่อเทือกเขาคุนหลุน”

การกล่าวคำสาบานนี้เทียบเท่ากับทาสคุนหลุนที่สาบานต่อเทือกเขาคุนหลุน จากนั้นเป็นต้นมาเขาและเจ้านายจะเชื่อมโยงกัน แบ่งปันทั้งชีวิตและความตาย

หากผู้เป็นนายเชื่อมต่อกับผู้อารักขา แม้ผู้อารักขาจะเป็นนักรบ เขาก็จะถูกตราประทับเหวินอิ้นปราบปราม

หากตราประทับเหวินอิ้นบดขยี้ปัญญาชนจนตาย ผู้อารักขาก็จะตายเช่นกัน

หากไม่มีความเกี่ยวข้องกับเทพเจ้า ผู้อารักขาสามารถหลีกเลี่ยงการตราประทับเหวินอิ้นได้

แต่เมื่อผู้อารักขาและเจ้านายเชื่อมโยงกัน ทันทีที่ปลดตราประทับผู้เป็นนายจะตาย ผู้อารักขาย่อมได้รับผลกระทบจากตราประทับและตายทันที

ภายใต้สถานการณ์ปกติ หากผู้เป็นนายเสียชีวิตในการต่อสู้ระหว่างปัญญาชนหรือสถานการณ์อื่นๆ ตราบใดที่ไม่ขัดต่อกฎ ผู้อารักขาจะไม่ตาย และไม่จำเป็นต้องตายอย่างผู้พลีชีพ

แต่ทันทีที่ปลดตราประทับ ผู้เป็นนายสิ้นชีพ ผู้อารักขาจะสิ้นตามอย่างไม่ต้องสงสัย

เซียวเฉวียนนึกกลัว “ทันทีที่ตราประทับของเว่ยชิงถูกปลด นอกจากข้าแล้ว ไป๋ฉี่กับเหมิงเอ้าก็จะตายด้วยหรือ?”

“ใช่” ฉินหนานพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

ด้วยเหตุนี้ราชวงศ์จึงควบคุมปัญญาชนและผู้อารักขาอย่างเข้มงวดได้อยู่เสมอ ไม่มีใครกล้าฝ่าฝืนราชวงศ์อย่างง่ายดาย

เซียวเฉวียนรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยในใจ ไม่แปลกเลยที่หลี่มู่ปกป้องเว่ยชิงด้วยชีวิต

นี่เป็นสูตรโกงที่ทรงพลังอย่างยิ่ง!

เว่ยชิงแข็งแกร่งมากไม่ต่างจากฝ่าพระหัตถ์ของพระพุทธเจ้าที่ไม่ว่าซุนหงอคงจะทรงพลังเพียงใด ทันทีที่ตราประทับเหวินอิ้นถูกปลดออก ไม่ว่าลิงฟ้าจะเก่งแค่ไหนก็ไม่สามารถกระโดดหลบได้

“มีวิธีจัดการกับตราประทับเหวินอิ้นหรือไม่?”

ทันทีที่คำพูดของเซียวเฉวียนออกมา ฉินหนานก็ปิดปากเขาทันทีแล้วมองไปรอบๆ “ไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือ! พูดเช่นนี้ได้อย่างไร?”

ตราประทับเหวินอิ้นนี้ แม้แต่ปีศาจกวีก็ยังไม่สามารถรับมือกับมันได้!

เซียวเฉวียนต้องสู้กับเว่ยชิง แต่เกรงว่าจะไม่มีโอกาสชนะ!

อีกทั้งพี่เขยยังบอกด้วยว่าเขาจะแย่งชิงองค์หญิงจากเว่ยชิง ซึ่งก็ไม่ต่างจากการฝันกลางวัน!

สู้ไม่ไหวหรอก!

..........

เชิงอรรถ

[1] ยามห้า ช่วงเวลาตั้งแต่ 03:01 - 05:00 น.

[2] แสร้งเป็นหมูเพื่อหลอกกินเสือ แสร้งทำเป็นคนอ่อนแอ เพื่อหลอกลวงให้ศัตรูตายใจ หรือแกล้งทำเป็นว่าโง่ให้ฝ่ายตรงข้ามตายใจ แล้วฉวยโอกาสคว้าชัยชนะในตอนท้าย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย