ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 257

สายตาฉินซูโหรวจ้องไปที่เซียวเฉวียน นางรอคำขอบคุณจากเซียวเฉวียน

ครั้งนี้ หากไม่มีนาง เซียวเฉวียนจะมีชีวิตรอดได้อย่างไร?

นางเข้าไปขอยาในวัง ซึ่งเร็วกว่าหลี่มู่อยู่มาก

หลี่มู่เป็นเพียงขุนนางระดับสี่ในราชสำนัก หากต้องการพบฮ่องเต้จะต้องทูลแจ้งหลายครั้งหลายครา และยังต้องรอคอยอีกนานแสนนาน

แม้ฮ่องเต้จะอายุยังน้อย แต่ลำดับอาวุโสกลับมากกว่าฉินซูโหรวหนึ่งรุ่น เพียงนางออกปากว่าต้องการพบท่านน้าชาย ซึ่งเป็นฮ่องเต้ ก็จะมีช่องทางเข้าพบโดยตรงและเร็วกว่าหลี่มู่อยู่มาก

ท่าทางสูงส่งของฉินซูโหรว ไม่เหมือนอย่างที่อาเซียงว่าไว้เลย ห่วงใยและเป็นห่วงเซียวเฉวียนงั้นรึ?

ทำดีหวังผล ประโยคนี้ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย

“ว่ามาเลย เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไร?”

เซียวเฉวียนไม่อ้อมค้อม สตรีชอบพูดจาวกไปวนมา ช่างน่ารำคาญ

ในใจของเขานึกขอบคุณฉินซูโหรว เพราะอย่างไรเขากินยาเข้าไปแล้ว อาการก็ดีขึ้น เขาไม่ใช่คนที่เอาเปรียบใคร ในเมื่อฉินซูโหรวช่วยเขาไว้ครั้งหนึ่ง และฉินซูโหรวก็มีเรื่องร้องขอ เขาก็จะพยายามทำให้อย่างสุดความสามารถ

แต่คำว่าสุดความสามารถ ก็ต้องดูว่าเรื่องที่ฉินซูโหรวร้องขอนั้น เซียวเฉวียนยินยอมหรือไม่

คงไม่ใช่ว่าฉินซูโหรวให้เขาไปกินอึ แล้วเขาต้องทำตามหรอกนะ

“เจ้าเย็นชากับข้าเช่นนี้เลยรึ?”

ฉินซูโหรวขมวดคิ้วที่สวยสดงดงาม นางพูดว่าเซียวเฉวียนเช่นนี้ เซียวเฉวียนไม่กล้ามีน้ำโหอีกเลย

“เจ้าคิดว่าสตรีอย่างพวกเจ้านี่เป็นอะไรกัน? นั่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ได้ หรือว่าที่เจ้าช่วยข้า เพราะเห็นข้าเป็นสามีใช่ไหม? ดังนั้น เจ้าไม่ได้มีเรื่องให้ข้าทำใช่หรือไม่ เพียงแค่เจ้ามีน้ำใจที่ดีต่อข้างั้นรึ?”

เซียวเฉวียนมีแผนซ้อนแผน เขารู้อยู่เต็มอกว่าฉินซูโหรวมีเรื่องขอร้องเขา เขาเปิดปากเอ่ยชื่นชมความไม่เห็นแก่ตัวของนาง “นึกไม่ถึงว่าภรรยาของข้าจะเป็นผู้มีคุณธรรมและแสนดีเช่นนี้! เจ้ายอมลดทิฐิความเป็นคุณหนูลงเพื่อข้า และไปขอยามารักษาข้า สามีอย่างข้าซึ้งใจมาก ซึ้งใจอย่างที่สุด”

ฉินซูโหรวหน้าเปลี่ยนสี นางกำลังจะอ้าปาก เซียวเฉวียนกลับไม่มีโอกาสให้นางได้พูด “ข้ารู้ดี! ภรรยาที่มีคุณธรรมเช่นนี้ ข้ากลับมัวแต่ครุ่นคิดพิจารณาว่าเจ้ามีแผนการอื่นซ่อนเร้น ข้าเองที่ใช้ความคิดเห็นที่เลวทราม ไปคาดเดาคนที่มีคุณธรรมสูงส่ง”

ฉินซูโหรวลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย “ข้า...”

เซียวเฉวียนตบไปที่ไหล่ของนาง “เจ้าไม่ต้องอธิบายแล้ว ใจของเจ้า สามีอย่างข้าเข้าใจดี”

“สามีเช่นข้าต้องซาบซึ้งใจมากอยู่แล้ว”

“วันหน้า ข้าจะเอ่ยชื่นชมจวนฉินที่มีจิตใจเมตตากับข้า ต่อหน้าของฝ่าบาท เป็นอย่างไรล่ะ? เอาตามนี้แล้วกันนะ ข้ามีธุระต้องทำ ข้าขอตัวก่อน!”

เซียวเฉวียนสะบัดชายแขนเสื้อ หันหน้าเดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผย

ลดเกียรติและศักดิ์ศรีของคุณหนูใหญ่เพื่อขอยาให้เขา แลกมาด้วยคำกล่าวชื่นชมที่งดงามต่อหน้าฝ่าบาทงั้นรึ?

ไม่ นี่ไม่ใช่ความปรารถนาของฉินซูโหรว

เซียวเฉวียนทอดขายาวเดินออกไปอย่างสบายอกสบายใจ ฉินซูโหรวพุ่งตัวตามออกไปไวเหมือนจรวด “เจ้ารอข้าก่อน ข้ามีเรื่องจะขอร้อง!”

ราวกับว่าฉินซูโหรวมีความมุ่งมั่นอย่างมาก พูดจาเสียงดังหนักแน่น กลัวว่าหากพูดช้าไปเพียงนิด เซียวเฉวียนจะบินออกไปอย่างไรอย่างนั้น

“พูดมาสิ”

“เจ้า...” ฉินซูโหรวเห็นว่าเขาพยักหน้าอย่างว่าง่าย เซียวเฉวียนจงใจงั้นรึ?

นางทั้งโกรธทั้งรีบ เท้าข้างหนึ่งของเซียวเฉวียนอยู่ที่ธรณีประตู ครึ่งออกครึ่งเข้า หากฉินซูโหรวยังคงอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เหมือนกับเหล่าสตรีอื่น ๆ เขาคงจะยกเท้าเดินหนีไป

เวลากว่าสิบวินาทีที่แสนยาวนาน ในที่สุดฉินซูโหรวก็ปริปากพูด “เซียวเฉวียน เจ้าปล่อยฉินเฟิงไปเถอะนะ”

คืนก่อนวันปีใหม่ ฉินเฟิงดาบแทงเข้าไปที่กระดูกสันหลังของเซียวเฉวียน พลาดอีกนิดเดียวก็จะทำให้เซียวเฉวียนถึงแก่ความตาย ฉินซูโหรวรู้เรื่องนี้ดี

เซียวเฉวียนไม่ยอมกลับบ้าน หลังจากที่นางไปอาละวาดที่ศาลาคุนหวู่แล้ว จึงรีบกลับมาถามฉินเฟิงทันที

แต่ผลสุดท้าย ให้ตายอย่างไรฉินเฟิงก็ไม่ยอมพูด ฉินซูโหรวจึงเค้นถามฉินหนาน นางซักไซ้ฉินหนานอยู่ทั้งวัน ฉินหนานจึงยอมพูดเรื่องคืนก่อนวันปีใหม่อย่างตัวสั่นงันงก

ฉินซูโหรวทึ่งจนรู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจ นางไม่ถูกโฉลกกับเซียวเฉวียน แทบอดไม่ได้ที่จะตีกับเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่หากให้ฆ่าเขาจริง ๆ...

ฉินซูโหรวคงไม่ยอม

เรื่องนี้ฉินเฟิงทำเกินกว่าเหตุไปมาก ฉินซูโหรวคิดหาโอกาสคุยกับเซียวเฉวียนมาตลอด แต่ก็หาโอกาสไม่ได้เสียที

ต่อมา เซียวเฉวียนประชันกวีกับพวกเตงงาย นอนขาดใจเกือบตายอยู่บนถนน...

“เดี๋ยวก่อน” เมื่อเซียวเฉวียนฟังถึงตรงนี้ “ข้าไม่ได้ขาดใจ จู่ ๆ ข้าก็สลบไป เจ้าสั่งให้คนมาทำให้ข้าสลบสินะ”

“ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนี้!”

ที่โรงเหล้ามีผู้คนมากมายวุ่นวายสายตา เขามีสิ่งของมากมายที่ไม่ควรให้ใครพบเห็น และที่ศาลาคุนหวู่ ก็มีคนของเว่ยเจี้ยนกั๋วคอยจับตาดูอยู่ตลอด ในตอนนี้มีเพียงจวนฉินที่ปลอดภัยที่สุด

เซียวเฉวียนคิดเองว่าข้อแลกเปลี่ยนนี้ไม่มากเกินไป สมเหตุสมผล

“เจ้า…ฝันไปเถอะ!”

ฉินซูโหรวโมโห พร้อมสะบัดแขนเสื้อ ปิ่นปักผมอันสวยบนหัวก็สั่นกรุ๊งกริ๊งไปตามอารมณ์โกรธ “ตอนนี้เจ้าก็หายดีแล้ว! ข้าก็หายามาให้เจ้าแล้ว! เจ้ามีดีอะไร มาให้ข้าต้องปรนนิบัติรับใช้?”

นางเป็นคุณหนูใหญ่ที่มือไม่เคยแม้แต่เปื้อนดินโคลน มีเพียงคนรับใช้ที่คอยดูแลปรนนิบัติ แม้แต่ตะเกียบสักคู่ นางยังไม่เคยต้องจับเองเสียด้วยซ้ำ!

“เช่นนั้นข้าก็จะไม่เอ่ยคำสรรเสริญเยินยอต่อหน้าฝ่าบาทแล้ว และข้ายังเผลอพูดเรื่องนั้นด้วย ในคืนก่อนวันปีใหม่ พี่ชายใหญ่ของเจ้า เขา...”

“หุบปากเดี๋ยวนี้นะ! เซียวเฉวียน เจ้าไม่มีที่พึ่งแล้ว! ปีศาจกวีก็ไม่สนใจศิษย์อย่างเจ้าแล้ว! เหตุใดเจ้ายังกล้าอวดดีได้เช่นนี้?”

เซียวเฉวียนกลอกตามอง ฉินซูโหรวโกรธจนกำปั้นน้อย ๆ สีอมชมพูแทบชกลงที่อกของเขา

เซียวเฉวียนไม่คิดเช่นนั้น “ในเมื่อคุณหนูใหญ่ฉินไม่พอใจ เช่นนั้นข้าไปล่ะ! เสียเวลา!”

เซียวเฉวียนเดินไปสามก้าว

สี่ก้าว

ห้าก้าว

“ก็ได้! ข้ารับปากเจ้า!”

ฉินซูโหรวฉินที่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี นางกระทืบเท้า ราวกับเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์ “ข้ารับปากเจ้าก็ได้!”

เซียวเฉวียนยิ้มเบา ๆ

ยกนี้ เซียวเฉวียนชนะ

ลูกเขยแต่งเข้า เพียงแค่ต้องอดทน ยืนหยัดพยายาม จะต้องมีสักวันที่พลิกชีวิตได้

​“เช่นนั้นข้ากลับบ้านข้าล่ะ พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้า ดูแลเรื่องเสื้อผ้าของข้าด้วย!”

“รอตอนรับคุณหนูใหญ่ฉิน เป็นความกรุณาที่มาเยือน”

เซียวเฉวียนหัวเราะร่า สาวเท้าก้าวเดินฉับ ๆ

ฉินซูโหรวบีบกำปั้นไว้ ดีเลยสิ เซียวเฉวียนมีโอกาสก็ฉีกหน้านางเสียทันที!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย