ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 256

วันนี้เถ๋าจี๋ได้ตะโกนไปทั่วท้องถนน พูดว่าเซียวเฉวียนนั่นพูดใส่ร้ายว่าความตน แม้ว่าคนของทหารหยู่หลินจะอธิบายสั้นๆ แต่ทว่าสามัญชนคนนั้นคือผู้ใดกัน?

คนทั่วไปเป็นเพียงแค่คนนอก แค่อยากสนุก!

ยามว่าง มีหัวข้อเป็นที่โจษจันเช่นนี้!

สนว่าจะจริงหรือเท็จ!

ด้วยเหตุนี้ เซียวเฉวียนจึงฆ่าท่านปู่และเจียวหยู้ อีกทั้งยังมีเรื่องฆ่าซ่งจืออีกเรื่อง ไม่ต้องพูดถึงเมืองหลวงเพราะแพร่กระจายไปทั่วเมือง อิงตามเขตชานเมืองหลวงต่างก็รู้กันว่านายท่านจวนฉินผู้นี้ใจคอดุร้าย

คนเหล่านั้นยังคงพูดแพร่สะพัด เซียวเฉวียนไปซื้อยาพิษเมื่อใด และวางยาพิษฉินปาฟางเมื่อใด โดนพูดเป็นตุเป็นตะต่างๆนาๆ

ก่อนที่เซียวเฉวียนจะถูกวางยาพิษด้วยซ้ำ กังวลมากจนฉี่รดอยู่ที่มุมห้อง พวกเขาทั้งหมดทำมันขึ้นมา เรียกได้ว่าทุกกระทำ หมุนเวียนอย่างช้าๆ เล่าได้เป็นฉากๆ กลุ่มคนพวกนี้ถ้าไม่ได้ไปเขียนนิยายคงน่าเสียดายแย่ นี่เป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี

ทั่วทั้งใต้หล้า เกรงว่าจะมีแต่คนที่เขียนนิยาย ที่กล้ากุเรื่องไร้สาระเช่นนี้ขึ้น!

นอกจากนี้จวนฉินยังปฏิบัติต่อท่านปู่เลวร้ายมาโดยตลอดทำให้เซียวเฉวียนไม่ชอบ เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเซียวเฉวียนกำลังจะแต่งงาน ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ฉซึมเศร้า และหัวใจแทบจะผิดปกติ!

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะท่านปู่หรือเจียวหยู้เซียวเฉวียนก็ไม่เคยวางยา ฆ่าพ่อฆ่าครูบาอาจารย์ แต่ถึงอย่างไรก็มีบัญชีเก่าที่ต้องสะสาง ตามจากที่ซ่งจือเคยนำความอัปยศอดสูมาสู่เซียวเฉวียนนั่นคือเรื่อง เมื่อรวมกับครอบครัวของซ่งจือแล้ว หลายคนก็ถูกกำจัดให้สิ้นซาก

นายท่านจวนฉินผู้นี้ ช่างน่ากลัวเสียจริง!

แรงจูงใจในการฆาตกรรมของเซียวเฉวียน สิ่งที่ผู้คนสร้างขึ้นนั้นสมเหตุสมผลและมีเหตุผล เป็นผลให้เซียวเฉวียนยังคงไม่เปลี่ยนแปลงและรู้สึกเสียใจกับความอยุติธรรมที่เขาได้รับ

“เพียงเท่านี้เองหรือ?”

เซียวเฉวียนไม่เห็นด้วย ฉินหนานถึงกับตกใจ อะไรที่เรียกว่าเพียงเท่านี้?นี่ยังไม่พออีกหรืออย่างไร?

ตอนนี้ชื่อเสียงของพี่เขยที่เสียหายก็เป็นเพราะต้าเว่ย!

อีกทั้งเป็นเรื่องที่น่าอับอายตลอดไป!

เมื่อวานฉินหนานได้ทะเลาะกับคนเหล่านั้นบนถนน มีปากเสียงดังมากจนเจ้าชายเสียมารยาท คนเหล่านี้ช่างไม่รู้อะไรเลยสักนิด ยังจะมีหน้ากล้าพูดเป็นตุเป็นตะอีก!

สิ่งที่ทำให้ฉินหนานเกลียดที่สุดนั่นคือคนพวกนั้นทั้งเห็นอกเห็นใจและถากถางเยาะเย้ย

นายท่านจวนฉินเกิดเรื่องใหญขนาดนี้ ยังจะนิ่งนอนใจได้อีก ศพคนตระกูลฉินรายต่อไปจะเป็นใครก็ไม่รู้!แน่นอนต้องเป็นคนพวกนั้น! หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง!

“พี่เขย ท่านไม่ต้องเป็นกังวลไป ไม่ว่าคนนอกจะพูดถึงท่านอย่างไร แต่พวกเรารู้ว่าท่านเป็นคนดี! แต่ข้าขอท่านอย่าลงมือกับคนตระกูลฉินเป็นอันขาด!”

เซียวเฉวียนขำแห้ง เขาไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องซุบซิบนินทาพวกนั้นเลยสักนิด ฉินหนานเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองมาเป็นเวลานาน ใบหน้าของเขาสงบนิ่งราวกับคลื่นลมพัดเบา

“เช่นนั้น วันเปิดห้องหนังสือชิงหยวน ก็ไม่มีผลกระทบต่อข้าสินะ”

“ได้รับ แน่นอนว่าท่านต้องได้รับผลกระทบ เหล่าผู้คนไม่ค่อยยินดีที่จะส่งลูกเต้ามาเรียน”

ตอนที่ฉินหนานพูดประโยคนี้ สายตาเจ้าตัวเล็งไปที่เซียวเฉวียน ห้องหนังสือชิงหยวนเดิมทีมีไว้สำหรับลูกหลานของชนชั้นสูงและมีอำนาจเท่านั้น ตอนนี้ได้ทำการเปิดแล้ว ตามเหตุผล ผู้คนทั่วไปและลูกครอบครัวยากจนควรที่จะดีใจจนเป็นบ้าเป็นหลังสิ

แต่ทว่ายามนี้ชื่อเสียงของเซียวเฉวียนแย่ปนปี้นัก ผลกระทบเลยตกไปที่ห้องหนังสือชิงหยวน วันที่เปิดรับสมัครมีเพียงคนเดียวที่สมัครเข้าเรียน

ซึ่งก็คือเด็กน้อย

แม้กระทั้งปัญญาชนสักคนก็ไม่มีมาสมัคร

กล่าวว่าเซียวเฉวียนใจคอดุร้ายเช่นนั้น ไม่สนว่าจริงหรือเท็จ ในใจคนเหล่านี้ก็ระวังไปเสียแล้ว

ไม่มีคนเข้าเรียน เช่นนั้นก็สมปรารถนาของพวกชนชั้นสูงที่มีอำนาจแล้วอย่างงั้นสิ?

เซียวเฉวียนตบข่าตนดังฉาด!

ให้ตายเถอะ!ข่าวลือที่เกี่ยวกับเซียวเฉวียนเกรงว่าจะมีคนเจตนาแพร่ออกไป!

เหมือนราวกับปีนั้น พวกกลุ่มชนชั้นสูงที่มีอำนาจต่างพูดว่าเมืองหลวงเกิดไฟไหม้หนัก ปัญญาชนที่เคราะห์ร้ายก็ไม่สามารถระงับมันได้ นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้สมัครจำนวนมากเสียชีวิตระหว่างการสอบคัดเลือกขุนนาง

แน่นอนเหล่าผู้คนก็เชื่อสนิทใจ

กลอุบายของกลุ่มพวกนั้น กี่ร้อยพันปีเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน!

เหล่าชนชั้นสูงที่มีอำนาจไม่อยากให้เหล่าสามัญชนได้รับการศึกษา แต่คนพวกนั้นกลัวว่าคนเหล่านี้จะมาแย่งข้าวพวกเขากิน!

“พี่เขย ท่านอย่าเพิ่งห่วงห้องหนังสือชิงหยวนเลย ท่านห่วงชื่อเสียงของตัวท่านเองจะดีกว่า”

ฉินหนานกลัวว่าถ้าพี่เขยตนออกไป เกรงว่าทั้งตัวจะเต็มไปด้วยไข่ไก่จากประชาชนปาเป็นแน่!

“ไม่ได้ ไม่ได้”

“อีกทั้ง” ฉินหนานกำลังจะพูดแต่ก็หยุดลง “ข่าวลือนี้ เป็นเว่ยชิงที่แพร่ออกไป”

เมื่อตอนที่ฉินหนานได้มีปากเสียงกับคนเหล่านั้น เดิมที่อยากจะมีปากเสียงกับเว่ยชิงเสียด้วยซ้ำ

หลังจากท่านปู่เสีย คนเหล่านั้นวางแผนเป็นเวลานาน นี่ไม่ใช่บ่อเกิดความหายนะของเซียวเฉวียน

แต่ก็เป็นเพราะว่าเซียวเฉวียนได้ฆ่าจวนซ่ง จนถึงตอนนี้ตอนนี้จวนฉินยังคงมีโอกาสที่จะโต้ตอบ เพื่อให้คนเหล่านั้นไม่กล้าอวดดีจนเกินไป

มิน่าล่ะ ฉินซูโหรวรู้สึกว่าแม่ของตนไม่ค่อยจะดูแลเซียวเฉวียน ไม่เป็นห่วงไม่สนใจเขา แถมยังไม่ด่าว่า แม้กระทั้งท่าทีแอบด่าก็ไม่มี

ฮ่องเต้ยังทรงตรัสอีกว่า ในจวนฉินมีแต่แม่ฉินและฉินซูโหรวเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้

พวกผู้ชายในตระกูลฉินนั้นไม่มีใครรู้

เพราะพวกเขาเป็นสมาชิกของราชสำนัก ถ้าเกิดปากโป้งออกไป ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ เพราะฉะนั้นฮ่องเต้จึงสั่งให้แม่ฉินและฉินซูโหรวเก็บเป็นความลับ

และฮ่องเต้ก็กล่าวว่าตั้งให้แม่ฉินเป็นหัวหน้านายหญิง อีกทั้งซูโหรวยังเป็นภรรยาคนแรกของเซียวเฉวียน หวังว่าพวกหล่อนจะดีกับเซียวเฉวียนได้ อย่าทำให้ความแตกแยกในครอบครัวเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งเมือง

ตอนนั้นฉินซุโหรวชะงักไปเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ ฮ่องเต้รู้ว่าพี่สาวคนโตของเขามีปากที่เข้มงวดมาก ถึงแม้ว่าแม่ฉินจะรู้เรื่องที่เซียวเฉวียนฆ่าจวนซ่งมาก่อนแล้ว แต่นางก็ไม่สามารถพูดกับคนในบ้านได้เด็ดขาด

นี่คือจิตสำนึกของราชวงศ์

ราชวงศ์เข้าใจเหตุผล ความลับ มีเพียงตนเองเท่านั้นที่รู้ ไม่สามารถบอกผู้อื่นได้เด็ดขาด

ถึงแม้ว่าจะมีสามีภรรยาที่ใกล้ชิด ลูกชายลูกสาวที่รักที่สุด หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ที่รักเคารพนับถือ ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้

ความลับอย่างไรก็คือความลับ เช่นนั้นเรื่องที่เซียวเฉวียนฆ่าจวนซ่ง แม้แต่ลูกสาวที่รักแม่ฉินก็บอกไม่ได้

กลอุบายของเซียวเฉวียนช่างดุร้ายและแข็งแกร่ง ฉินซูโหรวอกสั่นขวัญแขวน แต่ก็มีความชื่นชมในใจมากขึ้น แต่ศักดิ์ศรีของหญิงสาวจากตระกูลขุนนาง ไม่ยอมให้เจ้าหล่อนก้มหัวต่ำได้ง่ายๆ

ที่ฉินซูโหรวพูดมากมายเพียงนี้ ก็แค่อยากจะให้อภัยปรับความเข้าใจกับเซียวเฉวียน

หล่อนหวังว่าเซียวเฉวียนจะพูดกับหล่อนว่า ในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่าเจ้าเข้าใจสามีผิด เช่นนั้นพวกเราคืนดีกันเถอะ

แต่เซียวเฉวียนก็หาได้พูดคำนั้นไม่ “นี่เป็นเรื่องหลังที่เจ้าเข้าพระราชวัง ที่ข้าถามนั่นคือเหตุใดเจ้าถึงต้องไปทูลขอยาที่พระราชวังเพื่อข้า?”

เซียวเฉวียนนึกคิดว่าฉินซูโหรวจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า”ข้าเป็นห่วงเจ้า” คิดไม่ถึงว่าสายตาของเธอจะเปลี่ยนเป็นเย็นชา กำลังพยายามซ่อนอะไรกันแน่ "ข้าทำสิ่งนี้ก็เพราะดีต่อตัวเจ้าเอง แต่ตอนนี้เจ้ากำลังสงสัยในจุดประสงค์ของข้า?"

“เซียวเฉวียน ทำไมเจ้าถึงเป็นคนไม่รู้จักอะไรดีหรือว่าไม่ดีไปได้เล่า?”

“ยามนี้เจ้าเป็นอะไร?เจ้าควรที่จะต้องพูดขอบใจข้าด้วยซ้ำ มิใช่หรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย