เขากำลังเดือดดาลด้วยโทสะ และอายเย็นซึมกระจายออกจากริมฝีปากบางๆ ของเขา ฉินซูโหรวที่สงวนไว้ซึ่งดวงตาอันสวยงาม แสดงร่องรอยของความตื่นตระหนก อาศัยการปรากฏตัวของพี่น้อง เธอจึงยืนกรานต่อไปโดยไม่ตื่นกลัวเวทีใดๆ "เซียวเฉวียน คุณพูดให้ดีๆ ! คนไม่เอาหน้าเอาตาคือคุณต่างหาก! ผู้ชายที่เกาะกินอยู่กับตระกูลฉินเพื่อเอาตัวอยู่รอดในเมืองหลวง ยังมีหน้ามากล่าวหาคนอย่างฉันอีกหรือไง”
ในสังคมสมัยโบราณ สตรีต้องยึดถือหลักเชื่อฟัง 3 ประการ และหลักคุณธรรม 4 ประการ ในการศึกษาของสตรี สอนให้รู้จักเชื่อฟัง รู้มารยาท จึงมีหนังสือ “หนู่ซื่อซู” (ตำราสอนหญิงสี่ฉบับ) ที่ได้รับการยกย่องว่าแต่งไว้เพื่อสอนหญิงโดยเฉพาะ มีชื่อว่า "หนู่เจี้ย” “หนู่ซุ่น” “หนู่หลุนอวี่” “หนู่ฟ่านเจี๋ยลู่”
ต้าเว่ยไม่มีหนังสือตำราสอนหญิงสี่ฉบับเช่นในยุคจีนฮว๋าเซี่ย แต่ข้อกำหนดสำหรับสตรีก็มีคล้ายคลึงกัน ฉินซูโหรว เป็นหญิงจากตระกูลที่มีชื่อเสียง แต่ตอนนี้เธอดูเสมือนเป็นคนไร้ยางอาย เซียวเฉวียนจึงโมโหกราดเกรี้ยวดั่งไฟลุกช่วงขึ้นมาทันที!
ทั้งวาจาและพฤติกรรมของเธอ ถึงแม้ประกฎในยุคปัจจุบัน ก็ถือเป็นที่น่ารังเกียจอยู่เช่นกัน!
สตรีที่แต่งงานแล้ว ยอมลดเกียรติลดศักดิ์ศรีไปเอาใจชายอื่น คิดเอาเองว่าเขามาหลงรักชอบตัว จึงสนองเสน่หาให้ต่อกัน หารู้ไม่ว่าเขาแค่คิดหวังได้เสพสุขในร่างของเธอเท่านั้น!
เธอเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ตระกูลฉินปกป้องลูกหลานมาโดยตลอด ในฐานะลูกสาวเพียงคนเดียวในครอบครัว เธอได้รับความรักมาตลอดจึงไม่เกรงกลัวอะไรต่อมิอะไร! เซียวเฉวียนเป็นแค่บัณฑิตมาจากตระกูลที่ยากจน เธอจะต้องไปกลัวอะไรละ?
มุมของใบหน้าที่เงยขึ้นมาอยู่นั้น กำลังดีเลย
"เพี้ยะ!" เซียวเฉวียนยกมือขึ้นและตบไปที่ฉินซูโหรวอย่างแรง! ร่างกายอันบอบบางของเธอไม่สามารถประคองตัวได้ เธอเกือบจะล้มลงกับพื้น!
เสียงฝ่ามือดังใสไพเราะแก้วหู ทำให้พี่น้องตระกูลฉินสะดุ้ง
ฉินหนานรีบเข้าพยุงตัวพี่สาว เขาร้องไม่ออก พี่เขยกล้าลงมือทำจริงๆ!
ฉินซูโหรวเอามือปิดหน้า มองเขาด้วยความเหลือเชื่อ! เซียวเฉวียนตีเธองั้นหรือ?
เซียวเฉวียนกล้าดียังไงมาตบเธอ!
เขยแต่งเข้ามาเกาะกินในบ้าน กล้าดียังไงมาทุบตีเธอ!
เธอเป็นลูกสาวคนโตในบ้านตระกูลฉินนะ!
เธอเป็นหลานสาวของตระกูลนายพลนะ!
เธอโตมาถึงขนาดนี้ ยังไม่มีใครกล้ามาพูดจารุนแรงกับเธอนะ!
เซียวเฉวียน บัณฑิตตกกระป๋อง กล้าที่จะมาตีเธอ!
มาฟาดหน้าของเธอ!
ฉินซูโหรวหายใจไม่ออก ร่างกายของเธอสั่นไปทั้งตัว "คุณทำให้ฉันอับอายต่อหน้าสาธารณชนก่อน และผู้คนก็มานินทาฉัน คุณยังกล้ามาลงมือทำฉันอย่างนี้อีก"
ฉินเฟิงคำรามและชักดาบออกมา
ฉินเฟิงเป็นนายทหาร เคยฝึกฝนในกองทัพมาหลายปี เขาคิดว่าเซียวเฉวียนเป็นคนขี้ขลาด โดยไม่คาดคิดว่าเซียวเฉวียนหันกลับตัวมาพร้อมชักดาบสวยอี้ออกมาอย่างองอาจ และตะโกนบอก "ไป่ฉี ถอยไป!"
”ครับ!” แม้ว่าไป่ฉีจะเป็นห่วง แต่เขาก็หลบไปยืนอยู่ข้างๆ ทันที
สวยอี้ดูสง่างามน่าเกรงขาม แฝงด้วยแสงเงาเยือกเย็นที่ทะลุทะลวง เมื่อเทียบกันแล้ว ดาบของฉินเฟิงดูด้อยลงไปเล็กน้อย
ฉินซูโหรวปิดหน้าของเธอและพูดอย่างเกลียดชังว่า "เซียวเฉวียน ถ้าคุณอยู่เฉยๆ อย่างคนเชื่อฟังสอนง่าย ไม่ก่อกวนก่อปัญหาเช่นนี้ ตระกูลฉินยังพอยอมให้คุณอยู่ได้! แต่ตอนนี้คุณทำตัวอกุศลถึงขนาดนี้ วันนี้ถ้าคุณตายในที่นี่ มันเป็นเพราะคุณทำตัวคุณเอง โทษพวกเราไม่ได้!”
คำพูดที่คุกคามของฉินซูโหรว เพียงแค่ต้องการให้เซียวเฉวียนก้มหัวและยอมรับผิด เขาเป็นแค่คนเรียนหนังสือ เรี่ยวแรงไม่มี คิดจะมาตีรันฟันแทงกับพี่ชายเขา ก็เหมือนเอาไข่ไปกระทบหิน หาเรื่องฆ่าตัวตายชัดๆ
เซียวเฉวียนถือดาบในมือ ยิ้มอย่างเอ้อระเหย และเหยียดหยาม "นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตระกูลฉินของคุณจะฆ่าฉัน ไม่ต้องมาแสร้งพูดอย่างกะคนมีธัมมะธัมโม มีคุณธรรม? จะฆ่าฉัน คงต้องดูว่าคุณมีปัญญาหรือเปล่ว!"
ฉินเฟิงตะโกน "ไอ้เด็กเวน ผยองนักเหรอ!"
เมื่อดาบฟันมา เซียวเฉวียนซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายอาฆาต เขาไม่กลัวและไม่ถอย เขาไม่ก้มหน้าก้มตาแม้เพียงครึ่งเดียวอย่างลักษณะเหมือนแต่ก่อน!
ฉินซูโหรวผงะเมื่อเห็นลักษณะเช่นนี้ และรู้สึกสำนึกผิด ถ้าเธอรู้ว่าเซียวเฉวียนมีกำลังแข็งแกร่งขนาดนี้ เธอคงไม่ยั่วเขาด้วยวาจาที่เธอเพิ่งได้พูดออกไป!
เธอไม่ได้กังวลว่าเซียวเฉวียนจะดีหรือร้าย แต่พี่ชายของเธออยู่ในราชสำนัก ถ้าเขาเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรม มันจะไม่ดีสำหรับเขา เพื่อคนบ้าๆ บอๆ อย่างเซียวเฉวียน มันไม่คุ้มเลย!
ดาบของฉินเฟิงมีชื่อว่า “จิงโหง” และเป็นดาบระดับชั้นสามของหอคุนหวู เมื่อมันถูกชักออกมาหนึ่งครั้ง มันจะต้องมีคนตายหนึ่งคนอย่างแน่นอน
ตระกูลฉินเคยขอร้องใครบ้างไหม? ฉินเฟิงขมวดคิ้ว "นายนี่ไม่เอาไหน! ออกไปให้พ้น! ไปขอร้องเขาทำไม!"
สวยอี้ฟันเข้ามา จิงโหงเข้าไปขวางอย่างสุดกำลัง!
เสี้ยววินาทีมีไฟแลบขึ้นเนื่องจากดาบกระทบกัน ฉินหนานไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิด แต่มีเลือดสีแดงสดหยดหนึ่งตกใส่ใบหน้าของเขา
เขาเงยหน้าขึ้นมอง เห็นดาบสวยอี้แทงเข้าแขนของฉินเฟิงจนได้รับบาดเจ็บ!
เนื่องจากฉินหนานเข้าไปรั้งตัวไว้ ฉินเฟิงขยับตัวไม่ได้จึงเสียเปรียบ! ปลายดาบสวยอี้ที่แหลมคมแค่กระดกเบาๆ ก็สามารถเชือดคอหอยของฉินเฟิงให้ขาดได้!
ฉินซูโหรวปิดปากของเธอและพูดว่า "เซียวเฉวียน หยุดเสียที!"
เซียวเฉวียนไม่แม้แต่จะสนใจเธอ และพูดตรงๆ จ้องเข้าไปในสายตาของฉินเฟิงว่า "วันนี้ คนที่ทำให้ชื่อเสียงน้องสาวคุณเสียหายคือจูเหิง เขามาหาเรื่องฉันก่อนเวลาสอบ มาเล่าให้ฟังว่าน้องสาวของคุณดีพร้อมอย่างไร บริการตักซุปส่งให้นุ่มนวลอย่างไร คุยอย่างมีความสุขและภาคภูมิใจด้วย"
ฉินหนานพยักหน้าอย่างลนลาน "พี่ใหญ่ เป็นเรื่องจริง จูเหิงเป็นคนก่อเรื่องจริง! ทุกคนก็ได้ยินหมดแล้ว!"
ร่างกายของฉินซูโหรวแข็งทื่อ เหมือนมีอ่างน้ำเย็นเทใส่ลงมา ใบหน้าของเธอแดงและร้อนยิ่งกว่าตอนที่เซียวเฉวียนตบตีเธอ ทุกถ้อยคำที่เธอพูดออกไปแล้วนั้น ตอนนี้เหมือนก้อนอิฐกำลังหล่นลงมาทุบหัวเธอทีละก้อนทีละก้อน!
"วันนี้ฉันเซียวเฉวียน เห็นแก่หน้าของท่านนายพลฉินซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณปู่ของฉัน ฉันจะทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น" กลิ่นอายอาฆาตของสวยอี้ที่มีต่อฉินเฟิงถูกถอนกลับอย่างไว เซียวเฉวียนพูดอย่างเย็นชา "คราวหน้าถ้าคิดจะมาฆ่าฉัน กรุณาหาเหตุผลที่มันดูเข้าท่าหน่อย"
ทั้งหมดของการพูดในวันนี้ เซียวเฉวียนล้วนกล่าวหาทั้งพี่ทั้งน้องของบ้านตระกูลฉินเป็นคนไร้ยางอาย พฤติกรรมเลวทราม เซียวเฉวียนเก็บดาบขึ้นอย่างเย็นชา โยนไปให้ไป่ฉี ไป่ฉีรับมาอย่างรู้จังหวะกันแล้วใส่สวยอี้เข้าไปในฝัก
ใบหน้าของฉินเฟิงแดงก่ำ เขาก้มศีรษะลงและตะโกนใส่ฉินหนาน "จูเหิง ไอ้สารเลวนั่นอยู่ที่ไหน?"
"เขา... เขาถูกจับตัวไปคุมขัง" ฉินหนานเล่าเสียงเบาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้
”อะไรนะ?” สีหน้าของฉินเฟิงซีดเซียว
ร่างกายที่นุ่มนิ่มของฉินซูโหรวอ่อนตัวลง เธอแทบจะประคองตัวไม่อยู่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...