ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 84

ทุกคนรู้ว่าทองคำ 5 ล้านตำลึงมีราคาเท่าไร ถึงจะพลิกแผ่นดินทั้งราชวงศ์ต้าเว่ย ก็ไม่สามารถมีเงินจำนวนเท่านี้ได้

แต่เซียวเฉวียนยืนยันจะขึ้นเงินให้ได้ ดูก็รู้ว่าเขาจงใจทำให้คนลำบากใจ!

อย่าว่าแต่เงินของเซียวเฉวียน แม้แต่สองแสนตำลึงของสองคนนั้น จวี้เป่าฟางก็ไม่มีปัญญาหาออกมาได้ในทันที

เจ้าของร้านตัวสั่นเทา กระซิบถามคนงานว่า "เจ้าสำนักยังไม่มาหรือ?"

”ให้คนไปเชิญแล้ว แต่ยังมาไม่ถึง” เสียงของชายคนนั้นแผ่วเบา แต่เซียวเฉวียนได้ยินอย่างชัดเจน

จวี้เป่าฟางมีน้ำยาเท่าไร เซียวเฉวียนไม่ได้นับ แต่ว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบ่อนพนันที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเมืองหลวงจะต้องมาเลี้ยงดูบ้านตระกูลเซียว

เซียวเฉวียนเพิ่งสอบได้อันดับหนึ่งในวันนี้ เป็นคนดังหน้าใหม่ ใครจะกล้ามาล่วงเกิน? เจ้าของร้านยิ้มแห้งๆ “ท่านเซียวฮุ่ยหยวน ดูสิ วันนี้บ่อนเละตุ้มเป๊ะขนาดนี้ หาเงินไม่ง่ายอะ”

เซียวเฉวียนส่งสัญญาณ อาสือตบโต๊ะในทันใดและตะโกนว่า "จะเบี้ยวเงินหรือไง?"

เห็นได้ชัดว่านี่มีเจตนากลั่นแกล้ง เจ้าของร้านก็ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ ใครให้บ่อนพนันเริ่มเกมนี้ กล้ารับเงินแทงทองคำห้าร้อยตำลึงและปั่นให้อัตราเดิมพันสูงขนาดนี้?

เจ้าของร้านแทบจะตบหน้าตัวเองให้ตายคามือ!

ถ้าเขารู้ว่าเซียวเฉวียนเก่งปานนี้ เขาจะไม่แม้แต่จะแตะต้องคำว่าเซียวเฉวียน!

"ท่านเซียวฮุ่ยหยวน นี่......" เจ้าของร้านกำลังจะร้องไห้ "เรา......ไม่มีทองคำห้าล้านตำลึงครับ"

”อะไรนะ?” เซียวเฉวียนถามอย่างรู้เท่าทัน พูดเบาๆ ว่า “จะไม่มีได้ยังไงล่ะ”

"ฉัน......" เจ้าของร้านลูบน้ำตา "ถึงท่านจะชักเอ็นลอกหนังอย่างไร ผู้น้อยก็ไม่สามารถหามาได้! อย่าว่าแต่จวี้เป่าฟาง ถึงจะรวมบ่อนพนันในเมืองหลวงทั้งหมดก็ไม่สามารถหามาได้! ไม่ได้จริงๆ! ไม่มีทางเด็ดขาด!"

อย่าว่าจวี้เป่าฟางของคุณหาไม่ได้ ทั้งกะต้าเว่ยของคุณก็ไม่มีปัญญา

เซียวเฉวียนกลอกตาและโมโหมาก "งั้นไม่ดีเลย บ่อนพวกคุณมักกล่าวเสมอว่า กล้าได้ก็ต้องกล้าเสีย มิใช่หรือ?"

"ครับ......" เจ้าของร้านเหมือนนักเรียนที่ทำผิดไม่กล้าเงยหน้าต่อหน้าเขา

เห็นเจ้าของร้านในสภาพนี้ ทุกคนดูเหมือนจะเห็นผีร้าย เจ้าของร้านของจวี้เป่าฟางปกติช่างน่าเกรงขามแค่ไหน!

ใครมาที่บ่อนต้องเรียกเขาว่า จวี้เหยีย!

ถ้ามีใครมาทำตัวเกเรในจวี้เป่าฟาง จวี้เหยียสั่งการปุ๊บ โทษตัดแขนตัดขาเป็นเรื่องจิ๊บๆ และถ้าเป็นเรื่องร้ายแรง คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปตายอยู่ที่ไหน!

หลายปีมานี้ จวี้เป่าฟางมีเงินทองไหลมาเทมา เงินก็เสมือนเกล็ดหิมะที่ลอยจากกระเป๋าของคนอื่นเข้าสู่กระเป๋าของจวี้เป่าฟาง แม้ว่าจวี้เหยียจะเป็นแค่เจ้าของร้าน แต่เขาก็เป็นคนใจกว้างที่ลือชื่อ

ปากของจวี้เหยียไม่เคยหลุด "ผู้น้อย" "ไม่ได้" และ "ไม่มี" สามคำนี้เลย

แต่ตอนนี้จวี้เหยียไม่เพียงแต่พูดแล้ว แถมยังร้องไห้ด้วย!

นักพนันต่างตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ฮุ่ยหยวนคนเดียว จวี้เหยียกลัวถึงขนาดนั้น?

เงินในตัวของเซียวเฉวียน ไม่มากเท่ากับรายได้ของจวี้เป่าฟางที่หาได้ในหนึ่งชั่วโมง ทำไมจวี้เหยียถึงกลัวเขาขนาดนั้น?

เห็นได้ชัดว่าเซียวเฉวียนจงใจทำให้เรื่องยุ่งยาก เรียกคนมาทุบตีเขาสักฉากไม่ดีหรือ?

ชาวบ้านและนักพเนจรไม่รู้น้ำหนักของฮุ่ยหยวน ด้วยระดับปัจจุบันของเซียวเฉวียน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอนาคตเขาจะเป็นถึงจ้วงหยวนก็ไม่ยาก ถึงไม่ได้จ้วงหยวน ได้แค่จิ้นซื่อ จวี้เหยียก็ไม่อาจล่วงเกินแล้ว!

หากได้จิ้นซื่อ ก็จะได้เป็นเจ้าหน้าที่ของราชสำนัก

ในเมืองหลวง ผู้คนจะพึ่งพาเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อทำมาหากิน ไม่มีใครกล้าล่วงเกินแม้แต่เจ้าหน้าที่ของที่ว่าการ นับประสาอะไรกับเซียวเฉวียน!

”ฉันรู้ว่าบ่อนของคุณไม่สามารถหาได้มากนักในเวลาอันสั้น ดังนั้นคุณมีเท่าไรก็จ่ายเท่านั้นก่อน ฉันกับพี่ชายสองคนนี้จะขอแบ่งตามส่วนไปก่อน "

เซียวเฉวียนชี้ไปที่ชายสองคนที่ฉลาดหลักแหลม ด้วยใบหน้าที่ดูชอบธรรมและด้วยความยินดี

สองคนนั้นเพิ่งได้ยินบ่อนพนันบอกว่าไม่มีเงินและกลัวว่าบ่อนจะเบี้ยว ตอนนี้เซียวเฉวียนเป็นคนทวงเงินให้แทน จึงเกิดความเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง กล่าวชมเชยเสียงดังว่า “ท่านเซียวฮุ่ยหยวนนอกจากวิชาความรู้เหนือชั้น จิตใจยังโอบอ้อมอารี เป็นสุภาพบุรุษยิ่งกว่าเหล่าปัญญาชนอีก!"

”ที่ไหนล่ะ ที่ไหนล่ะ พวกคุณมีทัศนวิสัยดี สมควรได้”

เจ้าของร้านเพียงขอให้อยู่จนกว่าเจ้าของสำนักจะมา เขาคุกเข่าลงและร้องขอความเมตตา "ท่านเซียวฮุ่ยหยวน ผู้น้อยไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ฉันผิดแล้ว! ฉันผิดแล้ว!"

ผิดแล้ว? หากเซียวเฉวียนสอบไม่ได้ตำแหน่งอันดับสูง คนที่ถูกเหยียบย่ำและดูหมิ่นจากผู้คนนับหมื่นในวันนี้ก็คือเซียวเฉวียน

เขารู้ผิดซะที่ไหน เขาแค่แล่นเรือไปตามลม เขาแค่ปรับตัวไปตามสถานการณ์!

เซียวเฉวียนเย้ยหยัน "คุณยอมรับผิดมีประโยชน์อะไรกับฉัน ในเมื่อคุณกล้าเล่น คุณก็ต้องกล้าเสีย! ทองคำห้าล้านตำลึง น้อยไปหนึ่งตำลึง คุณก็อย่าหวังว่าจะอยู่ได้!"

ทุกคนหายใจสูบลมเย็นๆ หนึ่งเฮือก ความกระหายของเซียวเฉวียนนั้นใหญ่จนไม่มีที่สิ้นสุด! โลภไม่รู้จักพอ!

จวี้เป่าฟางต้องมีอิทธิพลในเมืองหลวงและมีข้าราชการอยู่เบื้องหลัง เซียวเฉวียนแค่ฮุ่ยหยวนคนหนึ่งกล้ากำเริบเสิบสานในจวี้เป่าฟาง เวลานี้บังอาจเรียกร้องมากมายมโหฬาร เดี๋ยวไม่รู้จะลงเอยตายยังไง!

คนที่เคยกลัวเซียวเฉวียนก่อนหน้านี้ก็ไม่กลัวอีกต่อไป เซียวเฉวียนนั้นหยิ่งยโสเกินไป ก็แค่รนหาที่ตายเท่านั้น!

จวี้เหยียก็คิดแบบเดียวกัน เขาโขกหัวแล้วโขกหัวอีก ขอเพียงให้นายรีบมาช่วยเขาโดยเร็ว จะได้ข่มขู่เซียวเฉวียนกลับซะบ้าง!

เจ้าของบ่อนจวี้เป่าฟางไม่ใช่ใครอื่น เป็น อี้กุย เจ้าของปัจจุบันของหอคุนหวูนั่นแหละ

ตระกูลอี้ไม่เพียงแต่เปิดหอกระบี่ในต้าเว่ย แต่ยังเปิดบ่อนการพนัน แต่บ่อนพนันถูกมอบให้กับเจ้าของร้านหลายคนในหลายสาขาจัดการดูแล คนนอกไม่เคยรู้ว่าใครคือเจ้าของที่แท้จริง

จวี้เหยียตะคอกอย่างเย็นชา ตระกูลอี้เป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิ มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับราชวงศ์มาก ดังนั้นทำไมพวกเขาต้องมาเกรงกลัวฮุ่ยหยวนเพียงผู้เดียว?

วันนี้ เป็นความจริงที่เซียวเฉวียนดูเฉิดฉายที่สุดในเมืองหลวง แต่เซียวเฉวียนเป็นคนหัวเดียวกระเทียมลีบ เมื่อเทียบกับตระกูลอี้แล้ว ก็เหมือนกับไข่ที่กระทบหิน ไม่เจียมตัวเอาเสียเลย

”พี่เซียว?”

อี้กุยปรากฏตัวที่ทางประตูของบ่อนพนันและร้องเรียกพี่เซียว "ลมอะไรพัดพาคุณมาถึงนี่ครับ"

จวี้เหยียผงะ เกิดอะไรขึ้น? พี่เซียว?

ตระกูลอี้มีกฎระเบียบ บ่อนพนันและหอกระบี่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน บ่อนพนันตกอยู่ในสภาพนี้ อี้กุยเพิ่งรู้ว่าเป็นเพราะเซียวเฉวียนตอนที่เขามาถึงนี่เอง

เมื่อได้ยินว่าเจ้าของเรียกเซียวเฉวียนว่าพี่ จวี้เหยียคิดว่าอี้กุยแค่เรียกตามมารยาท "เจ้านาย! ช่วยฉันด้วย! ช่วยฉันด้วย! เขาถือว่าตัวเองเป็นฮุ่ยหยวน มาหาเรื่องในบ่อน!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย