ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 9

เวทีท่องบทกวีของหอจืออี้ ไม่มีใครกล้าขึ้นไปง่ายๆ

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มที่มีความกล้าหาญคนหนึ่งกระโดดขึ้นไป เสื้อผ้าที่หรูหราทำให้เขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม “ข้าน้อยเถ๋าเหวินลิ่ว ข้าขอเริ่มก่อน”

จากปฏิกิริยาของหญิงมีความรู้ก็สามารถรู้ได้ว่า ผู้ชายคนนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียง

เดิมทีหญิงมีความรู้ที่หยิ่งในศักดิ์ศรีล้วนแล้วจ้องมาที่เขา ดวงตาไม่ขยับ ใบหน้าของแต่ละคนมีความเขินอาย แทบรอไม่ไหวอยากจะให้สายตาของเถ๋าเหวินลิ่วจ้องมาที่ร่างกายของตัวเอง

เพียงแค่เห็นมือข้างหนึ่งของเถ๋าเหวินลิ่วไขว้อยู่ข้างหลัง เงยหน้ามองท้องฟ้าเล็กน้อย แสดงท่าทางที่จำเป็นสำหรับนักท่องบทกวีในโบราณ ไม่เช่นนั้นจะท่องไม่ออก

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ท่อง

“หยานจื่อซี

เรียนกฏหมายอ่านหนังสือมาสิบสี่ปี

หมวกที่อยู่บนหัวมีท้องฟ้า

ลูกชายต้องการวาดภาพหลิงหยานเก๋อ

สอบได้ที่หนึ่งไม่รักเงิน”

ความหมายของบทกวีนี้พูดถึง “ข้า” ความหมายของการเรียนหนังสือคือเป็นข้าราชการที่ขาวสะอาดคนหนึ่ง หวังว่าในอนาคตจะสามารถก้าวหน้าอย่างมั่นคงและแสดงความทะเยอทะยาน “ข้า”รักชื่อเสียง แต่ไม่รักเงินทอง

เซียวเฉวียนส่ายหน้า แน่นอน การคุยโม้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ

“ดี! บทกวีที่ดี!” เหล่าหญิงสาวที่ถูกหลอกง่ายเหล่านั้น ดวงตาทั้งสองล้วนแล้วเต็มไปด้วยดวงดาว กระซิบพูดคุยกับหญิงสาวที่มาด้วยกัน บนใบหน้าเผยให้เห็นแก้มสีแดง

เซียวเฉวียนที่ได้รับอิทธิพลอย่างลึกซึ้งจากบทกวีจีนเพียงแค่อยากหัวเราะ ผู้มีความรู้ชอบระบายความในใจด้วยบทกวี มีนักเขียนบทกวีจีนที่ฉลาดไม่น้อย มีบทกวีเลิศล้ำคณานับ ตอนนี้บทกวีนี้ธรรมดาอย่างมาก นับอะไรกับความทะเยอทะยาน

บทกวีนี้ เรียบง่ายถึงขีดสุด

เถ๋าเหวินลิ่วในตอนนี้เป็นชายผู้มีความรู้ที่มีชื่อเสียงแล้ว แต่เซียวเฉวียนไร้ชื่อเสียง แม้ว่าเซียวเฉวียนจะมีความรู้และรอบรู้ แต่ยังคงมีช่องว่างแตกต่างจากเถ๋าเหวินลิ่วอย่างมาก

เซียวเฉวียนรอคอยอย่างเงียบๆเหมือนนักล่าคนหนึ่ง ชายเลวคนนั้นและฉินซูโหรวออกมาเที่ยวสวน จะต้องคิดหาทุกวิถีทาง เหมือนกับนกยุงตัวหนึ่ง แสดงผลงานต่อหน้าฉินซูโหรว

สิ่งที่เซียวเฉวียนต้องการล่า ก็คือนกยูงตัวนี้

อย่างที่คาด หลังจากชายเลวฟังบทกวีของเถ๋าเหวินลิ่ว ส่ายหน้าแล้วยิ้ม ยืนอยู่บนเวทีท่องบทกวี พูด “จูเหิ่งไม่มีพรสวรรค์ ก็มีบทกวีหนึ่งบนเช่นกัน ทุกท่านโปรดชี้แนะด้วย”

พูดจบ เขามองฉินซูโหรวด้วยความได้ใจ ฉินซูโหรวยิ้มด้วยความเขินอาย ก้มหน้าลง!

มีความโกรธเล็กน้อยในคิ้วของเซียวเฉวียน!

เขินอายบ้าอะไรกัน! ไอ้คนไร้ยางอาย!

ทุกคนต่างตะลึงเล็กน้อย ชี้แนะ คนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ใครกล้าชี้แนะจูเหิ่ง

ในฐานะตระกูลจูเป็นญาติกับเว่ยเจียนกั๋ว กำลังเฉิดฉายในราชสำนัก จูเหิ่งก็เข้าร่วมการทดสอบระดับชนบทของปีนี้เช่นกัน อนาคตก็จะเข้าสู่ราชวังเช่นกัน ดังนั้นฐานะของจูเหิ่งยิ่งสูงส่ง

เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว ฉินซูโหรวเป็นถึงลูกสาวของนายพลคนหนึ่ง เดิมทีควรจะมีความซื่อตรง แต่ตอนนี้เริ่มมีการผูกมิตรกับผู้มีอำนาจแล้ว!

ยิ่งกว่านั้นสมองของฉินซูโหรวไม่ค่อยดี ไม่ว่าจะคบกับผู้มีอำนาจคนไหนก็ไม่สามารถคบกับตระกูลจู ญาติของตระกูลจูเปรียบเสมือนหนามที่อยู่ในตาของจักรพรรดิ!

จูเหิ่งแสร้งทำเป็นเจียมเนื้อเจียมตัว อยู่ต่อหน้าผู้อื่นกลับมีมารยาทดี ทุกคนมองไปทางจูเหิ่งด้วยความตื่นเต้น รอฟังบทกวีของเขาเงียบๆ

คนผู้นี้ ก็คือเพื่อนร่วมเตียงที่ไม่ได้เรื่องของฉินซูโหรวคนนั้นเหรอ เซียวเฉวียนที่ไร้ความรู้คนนี้ กล้ามาบุมบ่ามต่อหน้าเขา

เดิมทีจูเหิ่งก็อิจฉาริษยาที่เซียวเฉวียนแต่งงานกับหญิงงามราวกับนางฟ้าอย่างฉินซูโหรวอยู่แล้ว ตอนนี้โอกาสมาแล้ว ถ้าหากสามารถทำให้เซียวเฉลียนสูญเสียชื่อเสียง หัวใจของฉินซูโหรวต้องพุ่งไปที่จูเหิ่งอย่างแน่นอน

ด้วยใบหน้าที่เจียมเนื้อเจียมตัวของจูเหิ่ง โค้งคำนับไปทางเซียวเฉลียน ไม่มีการประชดประชันในน้ำเสียง “ที่แท้พี่น้องเซียวอยู่ที่นี่ หลายวันก่อน พี่น้องเซียวมีชื่อเสียงอย่างมากในเมืองหลวง ทำไมวันนี้ไม่ออกมา แสดงให้ทุกคนได้ชื่นชมความสามารถทางวรรณกรรมล่ะ”

ทุกคนเปลี่ยนจุดสนใจไปที่ตัวของเซียวเฉลียนทันที เมื่อหลายวันก่อนมีผู้ที่มีความสามารถปรากฏตัวขึ้นในเมืองหลวงหรือ

ทันทีที่ทุกคนมองเห็น เป็นคนที่ใบหน้าไม่คุ้นเคย และยังเป็นศิษย์ผู้อ่อนน้อมถ่อมตน ทุกคนค่อยๆฟังออกถึงความหมายที่จูเหิ่งต้องการแสดงออกมา ล่าสุดคนที่มีชื่อเสียง มีเพียงลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านของตระกูลฉินคนนั้นที่ส่งกระดาษเปล่า

เพียงแต่ทุกคนล้วนแล้วไม่เคยเห็นลูกเคยที่แต่งเข้าบ้านคนนั้น เพียงแค่เดาได้เล็กน้อย ใบหน้าของทุกคนแสดงให้เห็นถึงการเย้ยหยัน และมีการดูถูกเล็กน้อย

จูเหิ่งได้ใจอย่างมาก เซียวเฉลียนไม่มีความกล้าที่จะลุกขึ้นมา!

เว่ยชิงขมวดคิ้ว พูดเสียงต่ำ “พี่น้องเซียว จูเหิ่งคนนี้ต้องการยืมใช้ท่านทำให้เขาเด่นขึ้นมาอีกครั้ง พวกเราไม่สามารถชนะได้จริงๆ อย่าขึ้นไปดีกว่า การทดสอบระดับชนบทของท่านยังไม่ออกมา อย่าปล่อยให้การแข่งขันโต้วาทีครั้งนี้ มาส่งผลต่อภาพลักษณ์ในราชสำนักของท่านเลย”

“มั่นคง ไม่ต้องกลัว”

เว่ยชิงตกตะลึง เซียวเฉวียนเป็นแค่ผู้มีความรู้ตัวน้อยๆ ทำไมอยู่ต่อหน้าอัจฉริยะอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ถึงไร้ความกลัวใดๆ

เขาจับเซียวเฉวียน พูดอย่างร้อนรน “อนาคตอีกยาวไกล สุภาพบุรุษพัฒนาจุดแข็งและข้อได้เปรียบ และหลีกเลี่ยงจุดอ่อนและข้อบกพร่อง ไม่ต่อสู้ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ!”

เซียวเฉวียนตบมือของเว่ยชิง เพื่อแสดงความสงบ ในเมื่อศัตรูเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาถึงที่เอง เขาไม่มีเหตุผลที่จะถอยกลับ ยิ่งไปกว่านั้นฉินซูโหรวอยู่ห่างจากเขาเพียงไม่กี่ก้าว จะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ดูถูกตระกูลเซียวได้อย่างไร

เซียวเฉวียนกระโดดขึ้นหนึ่งที กระโดดขึ้นไปบนเวทีท่องบทกวี ด้วยรูปลักษณ์ที่เรียบง่าย “วันนี้มีความสุข ข้าเซียวเฉวียนก็มาสักหนึ่งบทกวีแล้วกัน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย