เสียงเคาะประตูพลันดังขึ้นในยามนี้อาฉีส่งเสียงแล้ว นางขานรับองครักษ์ของจวนแง้มประตูเพียงเล็กน้อยแล้วโผล่หน้าออกไป
หนานอิงร่างกลายเป็นน้ำแข็งที่แท้อาฉีมิได้ไปที่ใดเพียงแต่นางรู้ว่าเป็นผู้ใดเข้ามาจึงปิดปากเงียบ และคนที่เปิดประตูให้สองอ๋องเข้ามาก็คงจะเป็นนาง
ช่างเป็นบ่าวที่ซื่อสัตย์เสียจริง ยามนี้หนานอิงไม่แปลกใจแล้วว่าพวกเขารู้ได้อย่างไรว่านางอยู่ส่วนใดของจวนนี้ อาฉีมีความเชี่ยวชาญเรื่องแผนที่อาศัยเดินวนในจวนไม่กี่ก้าวก็วาดเส้นทางเรือนของนางได้อย่างคร่าว ๆ แล้ว
"อื้อ"
หนานอิงกัดปากเมื่อลิ้นของผู้ใดสักคนไต่ไปจนถึงกลีบกุหลาบงดงามของนางแล้วทั้งปากของตนเองยังถูกปิดเอาไว้ด้วยจุมพิต
"ชู่ อย่าส่งเสียงดัง"
เป็นหานเซียวที่ค่อย ๆ ไต่ไล้ชิมริมฝีปากนางอย่างช้า ๆ การเคลื่อนไหวของพวกเขาเองหยุดชะงัก มีเพียงปลายลิ้นที่ทำงานอย่างชำนาญและยังสามารถบังคับหนานอิงให้แยกขากว้างและต้อนรับลิ้นหนาทว่านุ่มนิ่มของหานเซียว
อารมณ์ของหนานอิงบัดนี้สับสนทั้งยังหวาดกลัว แต่เพราะเหตุใดไม่รู้ใจจึงสงบได้เพียงนี้ ทุกครั้งที่เรียวลิ้นของลู่หนิงหวังจ้วงล้ำทิ่มแทงเนินเนื้อสามเหลี่ยมนูนใหญ่หนานอิงเกือบจะครางออกมาหากไม่ใช่ริมฝีปากถูกหานเซียวดูดอยู่
"นายหญิงของข้าเพิ่งเข้านอน พวกเจ้าเอะอะโวยวายอันใดกัน"
เสียงของอาฉีที่อยู่หน้าเรือนแจ่มชัดนัก หนานอิงใจเต้นระรัวด้วยกลัวถูกจับได้
"มีคนร้ายข้าจำเป็นต้องค้นเรือนทุกหลัง คุณหนูห้าขอรับต้องล่วงเกินแล้ว"
เสียงขององครักษ์ผู้นั้นตะโกนขึ้นค่อนข้างดังเพื่อให้คนด้านในได้ยินอย่างชัดเจน หนานอิงขยับกายเล็กน้อยทั้งยังคิดผลักพวกเขาออกแต่หานเซียวกลับกระซิบอยู่ข้างหู
"ปล่อยให้อาฉีจัดการเถิดส่วนเจ้านอนให้นิ่งเข้าไว้ กระทั่งเสียงครางก็ให้กลืนลงไป"
น้ำเสียงของหานเซียวสั่นพร่าบ่งบอกอารมณ์ว่าคืนนี้หากไม่ได้ตามที่ต้องการเขาย่อมไม่มีวันล่าถอย
"อ๊ะ"
เสียงกระซิบของหานเซียวขาดหายพร้อมกับลิ้นที่ฉกลงมาปิดปากนางอีกครา ลู่หนิงหวังยกมุมปากเขาแยกขาของนางกว้างขึ้น ชิมรสชาติของบุปผาหอมกรุ่นที่คิดถึงทั้งวันด้วยอารมณ์โหยหา
"พวกเจ้าบังอาจค้นเรือนคุณหนูหรือ ไม่กลัวหัวหลุดจากบ่าหรืออย่างไร นายหญิงของข้ากำลังจะกลายเป็นพระชายาในอีกไม่กี่วัน กระทั่งท่านอ๋องตามประเพณีแล้วยังไม่อาจพบก่อนเข้าพิธีได้ พวกเจ้าเป็นเพียงบ่าวบังอาจบุกเข้าเรือนพระชายากลางดึกนับว่ากล้าหาญนัก"
หนานอิงหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกแล้ว คนที่อาฉีเอ่ยถึงนั้นบัดนี้กำลังย่ำยีนางอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่บัดนี้หาได้สนใจประเพณีอันใดแม้แต่น้อย
อาฉีเองย่อมไว้ใจได้ หนานอิงย่อมรู้แต่เสียงเปิดประตูออกกว้างทำให้หนานอิงตัวสั่น มือเรียวของหานเซียวคลึงเคล้าถันของนางอยู่ เห็นร่างของนางสั่นเช่นนั้นเขาพลันเลื่อนมือไปด้านหลังแล้วกอดนางเอาไว้
จุมพิตนั้นเริ่มอ่อนหวานคล้ายจะปลอบโยนนางให้ใจเย็นลง
"พวกเจ้าหากผู้ใดกล้าก็เชิญ แต่ข้าเตือนพวกเจ้าแล้ว"
อาฉีเปิดประตูออกกว้าง คนพวกนั้นมองเข้าไปด้านในเรือนอันเงียบสงบ เตียงนอนของหนานอิงอยู่ห่างเข้าไปด้านในสายตาของพวกเขาจึงไม่อาจฝ่าความมืดเข้าไปมองเห็น แต่คำขู่ของอาฉีและท่าทางเปิดเผยที่ยินยอมให้ตรวจค้นอย่างดีทำให้พวกเขาเริ่มลังเล
สองอ๋องนั่นชื่อเสียงเหี้ยมโหดและยังมีตำแหน่งอันสำคัญพวกเขาแม้จะเป็นคนของจวนกั๋วกงแต่การล่วงเกินว่าที่พระชายาก็หาใช่เรื่องที่จะกระทำได้ง่าย ๆ
หัวหน้าองครักษ์ผู้นั้นกลับไม่เกรงกลัว ว่าที่พระชายาแล้วอย่างไรเขาจะตามจับคนร้ายในจวนกั๋วกงล้วนต้องค้นหาตามหน้าที่ ถือสิทธิ์อันใดมาลงโทษเขากัน
ไม่รู้ว่ากินหัวใจเสือดีหมีมาหรืออย่างไร แม้คนอื่นไม่กล้าแต่เขากลับไม่ลังเลเดินเข้ามาด้านในอย่างห้าวหาญ
หนานอิงรู้ว่ามีคนเข้ามาแล้ว แต่สองอ๋องนี่กลับไม่หยุดมิหนำซ้ำยังเริ่มลงมือหนักขึ้น กระทั่งลู่หนิงหวังยังถอดกางเกงของตนเองทั้งยังกำลังใช้แท่งหยกของเขาหยอกเย้ากลีบเกสรของนางจนหนานอิงบิดกายด้วยความกระสัน
นางไม่อาจพูดได้เพราะหานเซียวก็ล่วงล้ำเข้ามาภายในโพรงปากยังบดเบียดรัดรึงนางจนหอบหายใจ คนผู้นั้นเดินเข้ามาใกล้เตียงมากขึ้น
หนานอิงห่วงอาโจวแต่เพราะฤทธิ์ยาต้มทำให้อาโจวเองก็หลับไม่ได้สติจึงไม่ได้ตื่นมาโวยวาย
ลู่หนิงหวังกลับกล้าหาญยิ่ง บัดนี้กระทั่งผ้าห่มเขาก็รั้งลงมาเผยให้เห็นตัวตนของเขาอย่างชัดเจน หนานอิงแทบจะหยุดหายใจเมื่อเขาชำแรกร่างกายเข้ามาแล้วเริ่มขยับ
ทหารผู้นั้นเดินมาหยุดที่หน้าเตียง หนานอิงไมาอาจมองเห็นใบหน้าของเขาได้ ยังตื่นตระหนกจนลืมหายใจ แต่สามีทั้งสองกลับรุกรานร่างกายของนานต่อหน้าคนผู้นั้นคล้ายเขาเป็นเพียงท่อนไม้ท่อนหนึ่ง
ใจของหนานอิงคล้ายจะหยุดเต้น เสียงเหี้ยมเกรียมของหานเซียวพลันดังขึ้นแม้จะเป็นเสียงที่เบามากแต่องครักษ์ผู้นั้นก็ได้ยินชัดเจน
"ไสหัวไป"
หานเซียวมองใบหน้าขององครักษ์ผู้นั้นเขม็ง เขาจดจำใบหน้านี้เอาไว้อย่างแม่นยำ ที่น่าแปลกประหลาดคือคนผู้นี้กลับพยักหน้าแล้วก้าวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว
เกิดอะไรขึ้น
หนานอิงมึนงง กระทั่งความเสียวแปลบจากส่วนล่างเข้าเล่นงานนางกัดฟันข่มเสียงครางเอาไว้ ลู่หนิงหวังซอยสะโพกอัดกระแทก
แม้ไม่นับว่ารุนแรงแต่ก็เข้ามาจนสุดลำหนานอิงเองก็ต้อนรับเขาด้วยอาการบีบรัด ลู่หนิงหวังถึงกับแหงนเงยใบหน้าทั้งพยายามอดกลั้นเสียงครางเช่นกัน
หานเซียวสั่งหนานอิงเสียงเบา
"อ้าปากสิเหมือนเจ้าจะหิว ส่วนเรื่องอื่นให้อาฉีจัดการเถิด"
หานเซียวคล่อมขาบริเวณใบหน้าของหนานอิงแล้วยัดแท่งหยกเข้าปากของนางที่เขาโหยหามาตลอดทั้งวัน
ตั้งแต่มาเยือนที่นี่นอกจากคำกล่าวทักทายว่า ท่านกั๋วกง อย่างเย่อหยิ่งแล้วยังมองเขาคล้ายกับไม่อยู่ในสายตาแล้วคนสองคนแทบจะไม่เอ่ยคำใดออกมาอีก
ท่านหนานเองไม่เคยพบเห็นคนประเภทนี้มาก่อนในชีวิต องครัชทายาทนั้นว่าดูสูงส่งแล้วแต่กลับไร้ซึ่งพลังบางอย่างที่กดข่มผู้คนเหมือนสองอ๋องพี่น้องคู่นี้
กระทั่งผู้ที่คอยจัดแจงสินสอดของหมั้นคือท่านราชเลขาอ้ายเจิงผู้นั้น แม้ใบหน้าจะแย้มยิ้มดูเป็นมิตรแต่เขากลับรู้สึกว่าอย่าได้ทำให้เขาขุ่นเคืองเป็นอันขาด ภายใต้รอยยิ้มนั้นเหมือนมีกระบี่อันคมกริบแฝงอยู่ในนั้น
สวรรค์เหตุใดจึงให้พวกเขามารวมตัวกันเช่นนี้ ท่านหนานเองกำลังคิดอย่างหนัก เขาย้ายข้างในตอนนี้ทันหรือไม่ หากเกิดการสู้รบกันจริง ๆ เห็นทีว่าองค์รัชทายาทต้องลำบากแล้ว เมื่อเห็นกับตาตนเองเช่นนี้ทำให้เขากังวลและโลเลเป็นอย่างยิ่ง
สินสอดของหนานอิงทำเอาจวนของท่านหนานอันกว้างใหญ่ดูจะเล็กลงไปเล็กน้อย ชาวบ้านต่างมามุงดู พวกเขาไม่เคยเห็นสองอ๋องตัวเป็น ๆ แต่เมื่อเห็นแล้วถึงกลับเข่าอ่อนด้วยความสง่างามและหล่อเหลาของคนทั้งคู่ ยังมีท่านราชเลขาผู้นั้นอีกทำเอาคุณชายในเมืองหลวงที่เคยเป็นที่เลื่องลือในความงามถึงกับชิดซ้าย
คุณหนูห้าหนานอิงผู้นี้ถูกโจรจับตัวไป ยังหายออกจากจวนไปนาน กลับมาอีกคราก็พบว่าผู้ที่ช่วยเหลือคือท่านอ๋องทั้งสองและยังยอมรับนางตกแต่งเป็นพระชายา ไม่เรียกว่าบุญหล่นทับวาสนาสูงส่งล้นฟ้าแล้วจะเรียกว่าอย่างไร
ในยามนี้เกิดเสียงเล่าลือว่า ลู่หนิงหวังหานเซียวอาจจะก่อการกบฏ ขึ้นครองราชย์ด้วยตนเอง ข่าวลือนี้แม้เป็นเพียงลมปากแต่เมื่อเห็นท่านอ๋องแล้วชาวบ้านเริ่มคิดว่าอาจจะเป็นจริงได้
องค์รัชทายาทวัน ๆ อยู่สุขสบายในวังทำความชอบอันใดกัน ในขณะที่ซู่อ๋องนำทัพออกรบปกป้องบ้านเมืองมาเนิ่นนานโดยไม่ปริปากบ่น กระทั่งทหารในกองทัพของเขาก็ยกย่องพวกเขาจนยอมตายถวายชีวิต เห็นได้ชัดว่าเขาดูแลคนของตนดีเพียงใด หากได้ขึ้นครองราชย์จริงก็คงเป็นบุญของประชาชนแล้ว
สายตาของชาวบ้านที่มองขบวนสินสอดสองช่วงถนนนั้นจึงเต็มไปด้วยความชื่นชม ข่าวนี้แพร่ไปถึงหูขององค์รัชทายาทอย่างรวดเร็ว ถ้วยชาในมือของพระองค์ถึงกับสั่นความแค้นเคืองและโกรธเกลียดทั้งยังริษยาแผ่ออกมาจนพระชายาที่นั่งปักผ้าเช็ดหน้าอยู่ด้านข้างถึงกับวางมือลงแล้วเดินมายอบกายลงบนพื้นจับมือของพระสวามีเอาไว้
"อย่าได้คิดมากไปเลยเพคะ เรื่องพวกนี้ก็แค่เป็นเรื่องเล่าลือของชาวบ้าน อย่างไรบัลลังก์ก็เป็นของพระองค์"
องค์รัชทายาทกลับบีบคางของพระชายาของตนเองแน่น
"หนานหง พ่อของเจ้าหากคิดไม่ซื่อกับข้า เจ้าเองแม้ข้าจะรักใคร่เพียงใดก็อย่าคิดว่าจะมีทางรอด"
ในขณะที่จวนของท่านหนานนั้น บัดนี้บ่าวในจวนต่างหวาดผวาเมื่อหัวหน้าหน่วยองครักษ์ในจวนผู้หนึ่งถูกฟันศีรษะจนขาดกระเด็นภายในดาบเดียว โดยที่ผู้ลงมือนั้นคือซู่อ๋องลู่หนิงหวัง เขาลงมืออย่างรวดเร็วและเหี้ยมเกรียมภายในเรือนรับรองอันงามสง่าของท่านหนานโดยไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย
สาเหตุที่คนผู้นี้ตายคือ บังอาจก้าวเข้าไปในเรือนของพระชายาในยามวิกาล และเบื้องหลังขององครักษ์จวนกั๋วกงผู้นี้คือหัวหน้าที่ต้องใจอาโจวและทำให้นางกลายเป็นนางบำเรอของเหล่าองครักษ์นั่นเอง
"ลากศพมันไปให้สุนัขกินอย่าให้เหลือซาก"
คำสั่งอันเย็นยะเยือกของลู่หนิงหวังทำเอาท่านหนานสั่นสะท้าน เขาจ้องใบหน้าของอาฉีที่เป็นผู้รายงานแทบจะกินเลือดกินเนื้อ แต่ความผิดของการลบหลู่เบื้องสูงนั้นก็รุนแรงยิ่งนัก หากความทราบถึงฝ่าบาทและเหล่าขุนนางที่กำลังแบ่งเป็นสองฝักสองฝ่ายท่านหนานเองก็เกรงว่าตนเองจะลำบากแล้ว
เพราะเช่นนี้ท่านหนานจึงได้แต่กำมือแน่นด้วยความคับแค้นโดยไม่อาจทำสิ่งใดได้ ในขณะที่ฮูหยินใหญ่แทบจะเป็นลมหมดสติอยู่ตรงนั้น ด้วยคำสั่งค้นเรือนของว่าที่พระชายาเป็นคำสั่งของนางโดยตรงหมายจะทำให้หนานอิงเสื่อมเสียที่ลักลอบนำคนร้ายเข้ามา
แต่การใส่ร้ายนี้กลับไม่ได้ผล ทั้งคนของนางกลับถูกฆ่าโดยไร้ความเป็นธรรม โชคดีของนางที่คนผู้นั้นไม่ปริปากกล่าวโทษผู้เป็นนาย หาไม่เช่นนั้นคนที่ตายอาจจะเป็นนางเอง
ซู่อ๋องลู่หนิงหวังท่านช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P
ไม่นะ หานเซียวจะตายแยบรี้ไม่ได้ ฮื่อออออๆๆ...