ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P นิยาย บท 69

เช้าตรู่ของวันใหม่ฮูหยินใหญ่สงสัยเป็นอย่างยิ่งที่สาวใช้ประจำกายของตนเองทั้งสองคนเหตุใดยังไม่มาปรนนิบัติดั่งเช่นทุกวัน

"ไปดูพวกนางเสียหน่อยหรือจะไม่สบาย"

บ่าวช่วยกันแต่งกายและแต่งใบหน้าให้นางอย่างระมัดระวัง

"อย่าให้เข้มมากนัก ปัดแก้มและทาชาดเพียงบาง ๆ ก็พอแล้ว"

ฮูหยินใหญ่ต้องการให้ใบหน้าของตนเองซีดเซียวสักเล็กน้อยแผนของนางที่สั่งคนให้จับหนานอิงและสังหารทิ้งเสียคงสำเร็จแล้วเป็นแน่ ประเดี๋ยวอาจจะได้แสดงงิ้วให้คนได้ดูกัน 

บ่าวผู้หนึ่งหวีผมให้นางกลับทำให้นางรู้สึกเจ็บ ฮูหยินใหญ่รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากแต่วันนี้อารมณ์ดีเป็นอย่างยิ่งจึงได้แต่ถลึงตาใส่บ่าวผู้นั้น เมื่อพวกเขาช่วยนางแต่งกายจนเสร็จ ฮูหยินใหญ่รู้สึกขัดหูขัดตากับสาวใช้ที่ทำสิ่งใดก็ดูไม่คล่องแคล่วและไม่รู้ใจเหมือนบ่าวข้างกายเมื่อรู้สึกรำคาญมากจึงโบกไม้โบกมือขับไล่คนไปจนหมด

ในใจก็ได้แต่คิดว่าช่างเถิดอย่างไรเสียวันนี้ก็เป็นวันดีเป็นอย่างยิ่ง หนานอิงคงถูกลากตัวไปแล้วประเดี๋ยวคงจะมีคนรายงานข่าวดีว่าหนานอิงถูกจับตัวไปแล้ว

ในขณะที่นั่งจิบน้ำชารออยู่นั้นบ่าวผู้หนึ่งพลันกระหืดกระหอบเข้ามาพบ

"เมื่อเรื่องอันใดตั้งแต่เช้า"

"ฮูหยินขอรับนายท่านให้มาตามฮูหยินไปเป็นพยานยืนยันศพที่ลานหน้าจวนขอรับ"

ฮูหยินใหญ่ยกมือทาบอก แทบจะหัวเราะออกมาแต่ด้วยรู้อยู่แล้วว่าหนานอิงต้องตายจึงแสร้งตกใจไปเช่นนั้น ฮูหยินใหญ่ไม่ถามว่าเป็นศพผู้ใดกันนางเพียงแต่เร่งรุดไปที่ลานแห่งนั้นด้วยความเร่งรีบ

นางขมวดคิ้วทั้งยังตกใจเมื่อพบว่าผู้ที่ยืนอยู่ตรงนั้นนอกจากจะเป็นท่านหนานแล้วยังมีหนานอิงและบ่าวของนางอยู่ด้วย ใบหน้าของฮูหยินใหญ่กลับซีดเผือดเมื่อแน่ใจว่านางไม่ตาฝาดทั้งรอยยิ้มของหนานอิงที่คล้ายจะรู้ทันถูกส่งออกมาเมื่อยามที่สบตากับฮูหยินใหญ่โดยพลัน

ฮูหยินใหญ่ตื่นตระหนกเสียแล้ว ในเมื่อหนานอิงไม่ได้ถูกผู้ใดจับไปและยังไม่ตายแล้วศพที่นางจะต้องมายืนยันคือศพของผู้ใดกัน

"ฮูหยินเจ้ามานี่"

"นายท่าน"

ฮูหยินใหญ่ขยับกายไปยืนอยู่ข้างท่านหนาน ในขณะที่เขาจับมือของฮูหยินใหญ่เอาไว้มั่นทั้งยังบีบอย่างแรง สายตาของเขากำลังถามนางว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นเหตุใดหนานอิงยังอยู่ตรงนี้ มิได้ถูกจับไปหรอกหรือ

เจ้าหน้าที่ของทางการที่นำศพของคนมาส่งคืนสกุลหนานจึงได้ทำความเคารพอย่างนอบน้อม

"รบกวนฮูหยินแล้วขอรับ สตรีทั้งสองนี้ข้าน้อยเคยเห็นคอยเดินตามฮูหยินอยู่บ่อยครั้ง ไม่ทราบว่าฮูหยินใหญ่พอจะชี้ตัวได้หรือไม่"

สีหน้าของฮูหยินใหญ่ซีดขาวอย่างเห็นได้ชัด 

"ท่านว่าอย่างไรนะ สาวใช้ของข้าหรือ"

"ขอรับ ที่กลางป่าเช้ามืดวันนี้ชาวบ้านที่เข้าป่าล่าสัตว์มารายงานที่หน้าที่ว่าการว่าพบศพคนจำนวนมากรวมทั้งสตรีสองคนกำลังถูกสัตว์แทะกินไปหลายส่วน โชคดีที่สตรีสองคนนี้โดนแทะใบหน้าไปเพียงครึ่งทำให้ผู้น้อยพอจะจำได้ว่าเป็นคนของสกุลหนาน จึงอยากให้ฮูหยินยืนยันศพเสียหน่อยเพื่อส่งมอบกลับคืนให้ท่านไปทำพิธี"

คนในจวนสกุลหนานค่อนข้างโด่งดัง ในเมืองซีอานแห่งนี้ไม่มีผู้ใดไม่รู้จักสาวใช้ที่คอยอยู่ข้างกายฮูหยินใหญ่ผู้นี้จึงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วเช่นกัน

ร่างกายของฮูหยินใหญ่เย็นเยือกเกิดเหตุผิดพลาดนี้ได้อย่างไรกระทั่งหนานอิงที่ยืนอยู่ตรงนี้ก็ยังสบายดี ดูเหมือนนางเป็นเพียงผู้ชมคนหนึ่งหาได้มีความเกี่ยวข้องแต่ประการใดกับเรื่องนี้

"ฮูหยินเจ้ายืนยันเถิดจะได้รีบจัดการให้เรียบร้อย อย่าให้ชาวบ้านมาพบเห็นมากกว่านี้"

ท่าทางของท่านหนานเศร้าหมองหนานอิงได้แต่ยิ้มเหี้ยมเกรียมในใจ เขาเป็นผู้วางแผนลักตัวนางแต่สุดท้ายกลับผิดแผน ทุกอย่างลงที่บ่าวของฮูหยินใหญ่ท่าทางของบิดากลับเสียใจอย่างสุดซึ้ง

นางซึ่งเป็นบุตรสาวบัดนี้ยังไม่มีค่าเทียบได้กับสาวใช้ผู้หนึ่งด้วยซ้ำ ความเจ็บปวดนี้หนานอิงเคยคิดว่าตนเองชาชินเสียแล้ว เพียงแต่เมื่อได้สัมผัสมันอีกกลับอึดอัดและเจ็บปวดคล้ายกับหนามที่ทิ่มตำจิตใจไม่รู้คลาย

แท้ที่จริงแล้วนางคงหวังอยู่ในใจลึก ๆ ขอเพียงบิดาแสดงความรักต่อนางบ้างแม้สักนิดเดียวนางก็คงจะไม่คิดแก้แค้นเขาอีกต่อไป

ท่านหนานคล้ายรู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องของหนานอิง เขาหันมามองนางแวบหนึ่ง ดวงตาเฉยชาใบหน้าเรียบเฉย หนานอิงย่อมรู้ว่าเขากำลังผิดหวังที่คนที่โดนจับตัวไปไม่ใช่นาง เขามองนางเพียงเท่านั้นก็หันกลับไปมองใบหน้าของฮูหยินใหญ่ทั้งยังจับมือของสตรีผู้นั้นอย่างอบอุ่น

หนานอิงถ่มน้ำลายใส่พวกเขาในใจ

ช่างเหมาะสมยิ่งนัก หญิงโฉดชายชั่ว ข้าไม่ปล่อยให้พวกเจ้าเสวยสุขได้อีกนานหรอก

เจ้าหน้าที่ชันสูตรเปิดผ้าคลุมศพทั้งสองออก คงเป็นเพราะอากาศที่เริ่มหนาวจัดจึงแช่แข็งศพไปเรียบร้อย ศพยังไม่อืดและไม่มีกลิ่นแต่เขียวช้ำและแลดูน่าสยดสยอง

ใบหน้าของศพหนึ่งในสองถูกสัตว์แทะกินจนหายไปครึ่งหนึ่ง ดวงตาของนางผู้หนึ่งเบิกกว้างทั้งยังอ้าปากคล้ายกำลังร้องอย่างทรมาน

ในยามนั้นคงร้องขอความช่วยเหลือทั้งยังถูกสัตว์แทะกินเช่นนั้นก่อนตายคงทรมานไม่ใช่น้อย ร่างกายของพวกนางบางส่วนยังเห็นเป็นกระดูกขาวมีเลือดแห้งกรังติดอยู่จนทั่วร่าง

บ่าวที่มามุงดูบางคนถึงกับวิ่งไปอาเจียน หลายคนในนี้เมื่อมั่นใจว่าเป็นศพของบ่าวทั้งสองของฮูหยินเป็นแน่ถึงกับหัวเราะในใจด้วยความสะใจ

สองคนนี้ถือดีและหยิ่งจองหองมักจะกดขี่บ่าวไพร่ด้วยกันเองให้มาคอยรับใช้ตน ทั้งยังดูถูกคนอื่นยกตนข่มท่านไม่เว้นแม้แต่หัวหงอกหัวดำ สมควรแล้วที่มีจุดจบเช่นนี้

ฮูหยินใหญ่เองถึงกับตกตะลึง นางเข่าอ่อนแทบจะยืนไม่อยู่ผู้ชันสูตรศพเห็นดังนั้นจึงรีบปิดผ้าคลุมศพเสีย 

"เป็นบ่าวของท่านใช่หรือไม่"

ฮูหยินใหญ่พยักหน้าพลันบังเกิดความหวาดกลัวลึก ๆ ขึ้นในใจ เกิดความผิดพลาดอันใดขึ้นแล้วคนที่นางใช้ให้ไปทำงานเล่า ตายไปหรือยังและผู้ใดเป็นผู้ลงมือ

"เกิดเรื่องอันใดขึ้น ทำไมเป็นพวกนาง บ่าวของข้าทำกรรมอันใดไว้พวกนางเป็นคนดี พวกโจรชั่วไยโหดร้ายกับนางเช่นนี้"

เมื่อได้รับการยืนยันศพทั้งสองจึงถูกส่งมอบให้สกุลหนานเพื่อไปทำพิธีต่อไป การสอบสวนเริ่มต้นขึ้นโดยคนของทางการถามเพียงไม่กี่ประโยค

"เมื่อคืนมีคนลักลอบเข้ามาในจวน ทำร้ายทหารในจวนบาดเจ็บไปหลายคนเราคิดว่าเป็นโจรที่เข้ามาปล้นสะดมเช่นทุกครั้ง ไม่คิดว่าพวกมันจะใจกล้าจับสองสาวใช้ของฮูหยินใหญ่ไป"

"ท่านกั๋วกงไม่ต้องกังวล ข้าน้อยพบว่าโจรพวกนั้นถูกสัตว์ป่าฆ่าตายไปแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะมีคนรอดชีวิตหรือไม่อย่างไรจะตามจับมาให้หมดขอรับ"

เจ้าหน้าที่ขอตัวลากลับ อย่างไรเสียแม้พวกนางจะเป็นสาวใช้แต่ก็เป็นสาวใช้ในจวนกั๋วกงพวกเขาจึงต้องทำงานอย่างเต็มที่ แต่ท่านหนานกลับเอ่ยว่า

"อีกไม่กี่วันจวนกั๋วกงจะมีงานมงคลเรื่องนี้อย่างไรก็ให้แล้วไปเถิด ข้าไม่อยากให้เรื่องนี้ทำให้กระทบกับงานมงคลท่านเข้าใจหรือไม่"

เจ้าหน้าที่ทางการย่อมทราบดีอยู่แล้วว่าคุณหนูของจวนสกุลหนานจะออกเรือนในไม่ช้า พวกเขาจึงรับคำจะจัดการอย่างเงียบเชียบที่สุดและเรื่องนี้จะไม่ให้กระทบกระเทือนชื่อเสียงของจวนเป็นอันขาด

ศพของบ่าวทั้งสองถูกนำไปฝังตามประเพณี อาฉีพยุงหนานอิงกลับเรือนพร้อมบ่าวผู้อื่นที่ต่างคนต่างแยกไปทำหน้าที่ คนทั้งสองเดินกลับเรือนเงียบ ๆ 

เข้ามาในเรือนไม่ทันได้นั่งฮูหยินใหญ่ก็มาเยือนนางเสียแล้ว อาฉียืนกอดอกมองฮูหยินใหญ่ไม่แม้แต่จะทำความเคารพ ในขณะที่หนานอิงเองก็มิได้ตำหนิ

ฮูหยินใหญ่ปรายตามองอาฉีเอ่ยเสียงต่ำออกมา

"ไร้มารยาททั้งนายทั้งบ่าว"

หนานอิงแย้มยิ้มงดงามใบหน้างามที่ถูกแต่งแต้มอย่างสวยงามดูแล้วสูงส่งยิ่งนัก

"ยินดีที่ได้ช่วยเหลือ ท่านไม่ต้องห่วงข้าย่อมมีวิธีการจัดการกับท่านเพียงแต่ว่าท่านชรามากแล้วหนานอิงผู้นี้จึงอยากเล่นให้ท่านสนุกเสียหน่อยจะได้เตรียมตัวตายอย่างมีความสุข"

ฮูหยินใหญ่กลับเยาะหยัน

"ระหว่างเจ้ากับข้าก็คอยดูว่าจะเป็นผู้ใดกันแน่ที่ต้องไปลงปรโลก"

หนานอิงยิ้มแย้มไม่ตื่นตระหนกไม่หวาดกลัว ฮูหยินใหญ่แม้จะข่มขู่แต่กลับรู้สึกถึงจิตสังหารที่อยู่รอบกายของหนานอิง สายตาของนางไม่สะทกสะท้านกลับราบเรียบนิ่งเฉยได้อย่างประหลาด

"ท่านก็คอยดูแล้วกันคนจิตใจอำมหิตเช่นท่านจะตายเช่นไรกันนะ แล่เนื้อเถือหนังแล้วแขวนไว้ที่กำแพงเมืองให้อับอายดีหรือไม่"

นางกล่าวไม่สะทกสะท้าน ฮูหยินใหญ่กลับหัวเราะเสียงดังรินน้ำชาให้ตนเองอย่างไม่เกรงใจ ยกน้ำชาจนหมดจอกแล้วเอ่ยเสียงเบา

"เห็นทีผู้ที่ตายคงเป็นเจ้ากระมัง คนเช่นเจ้าไม่มีทางเข้าใกล้ตัวข้าได้ ชาจอกนี้ข้าขอดื่มให้เจ้าก่อนตาย"

หนานอิงยกยิ้มเหี้ยมเกรียมในใจพลันคิดเอาคืนนางเปิดฝากาน้ำชาออกข้อมือพลิกรวดเร็วน้ำชาร้อนสาดใส่หน้าฮูหยินใหญ่เข้าไปเต็ม ๆโดยที่นางคาดไม่ถึง

สตรีผู้นั้นรู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้าครานี้นางไม่อาจข่มอารมณ์ได้แล้ว ฮูหยินใหญ่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดลุกขึ้นทันใดทั้งใช้มือปัดเศษใบชาออกจากหน้าราวสุนัขโนน้ำร้อนลวก

"หนานอิงเจ้ากล้า หน้าข้า ใบหน้าข้า"

เสียงร้องด้วยความตระหนกและเจ็บปวดทำให้คนด้านนอกพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วคล้ายลมพัดผ่านหน้าของนางแผ่วเบา

ทันใดนั้นกระบี่ขององครักษ์ฮูหยินใหญ่ก็พาดลำคอนางเรียบร้อยแล้ว

หนานอิงรับรู้ได้ถึงความคมของปลายกระบี่ที่พร้อมจะปาดคอของนาง

นางยกมุมปากยิ้มกลับไม่รีรอหันลำคอเข้าหาคมกระบี่นั้นกระทั่งเกิดเป็นรอยแผลยาวพร้อมเลือดที่ไหลออกมา

ฮูหยินใหญ่ไม่คาดคิดว่าหนานอิงจะทำเช่นนั้นกระทั่งหนานอิงกรีดร้องออกมาฮูหยินใหญ่ก็รู้ตัวว่าตนเองพลาดท่าให้หนานอิงเสียแล้ว 

ฮูหยินใหญ่กุมใบหน้าตนเองบัดนี้ลืมกระทั่งความเจ็บปวดที่ได้รับมาด้วยความตกใจ ในขณะที่หนานอิงยังคงกรีดร้องอ้อนวอนเสียงดังลั่น

"ช่วยด้วยองครักษ์ของฮูหยินใหญ่จะสังหารข้า"

ไม่รู้บ่าวมาจากที่ใดบ้าง ปกติบริเวณเรือนของหนานอิงจะเงียบเชียบยิ่งแต่วันนี้ราวกับนัดแนะต่างกรูกันเข้ามาและเห็นภาพนั้นกับตาของตนเอง

อาฉีพุ่งตัวเข้าไปหาหนานอิงนางขยับกายเล็กน้อยพร้อมกับคุกเข่าอ้อนวอนให้องครักษ์ของฮูหยินใหญ่ไว้ชีวิตหนานอิง

"ท่านองครักษ์อย่าฆ่านายหญิงของข้า ได้โปรดปล่อยนางไปปล่อยนางไป"

อาฉีร้องไห้ราวกับคนบ้ากระทั่งอาโจวที่อยู่หลังเรือนได้ยินเสียงคนกรีดร้องจึงเดินออกมา เห็นสภาพหนานอิงถูกกระบี่จ่อคอเช่นนั้นก็ร่วมวงร้องไห้ราวกับมีคนตายอ้อนวอนองครักษ์ของฮูหยินใหญ่ให้ปล่อยคนทั้งที่ไม่มีเสียง

สตรีสามคนผู้อ่อนแอกลับถูกรังแกเพียงนั้น บ่าวในเรือนเกินจะรับได้ทั้งหมดล้วนเป็นพยานให้หนานอิงได้เป็นอย่างดี หนานอิงแสร้งร้องไห้อ่อนแอยิ่งนัก กระทั่งเสียงของบ่าวผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น

"องครักษ์ของฮูหยินใหญ่จ่อกระบี่เข้าที่ลำคอของคุณหนูห้านี่ไม่เท่ากับหาเรื่องตายหรอกหรือ!!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P