อ้ายเจิงเห็นส่วนผสมของยาเขาถึงกับตื่นตระหนก
"ท่านพ่อส่วนผสมนี่อาจจะทำให้..."
ผู้เป็นบิดาบีบไหล่ของเขาแล้วเอ่ยเบา ๆ
"ไปจัดการเถิด"
ภายในใจของอ้ายเจิงคล้ายกำลังเปิดออกดวงตาคู่งามของอ้ายเจิงส่องประกายไหววูบ กิริยาท่าทางเช่นนั้นของเขาทำให้ลู่หนิงหวังและหานเซียวรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่าง
"แต่ท่านพ่อ..."
เมื่ออ้ายเจิงยังลังเลฝ่าบาทจึงทรงตรัสว่า
"ทำตามที่พ่อเจ้าสั่งเถิด อย่างน้อยให้ช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตของข้าได้ดื่มกินอย่างเต็มที่และจัดการเรื่องให้จบสิ้นและจากไปอย่างสงบ"
"ฝ่าบาท"
อ้ายเจิงหมอบลงหน้าแท่นบรรทมเขากำมือแน่น
"ไปเถิดเจ้าเด็กคนนี้เหตุใดจึงดื้อนักเล่า"
ฝ่าบาทแย้มสรวลย้อนนึกถึงเวลาที่ครั้นอ้ายเจิงยังเยาว์วัยเด็กคนนี้มักตามพ่อของเขาเข้าวังและคอยซักถามด้วยความสงสัยไม่หยุด ความเฉลียวฉลาดและยังใบหน้าที่งดงามน่ารักคล้ายอิสตรีทั้งดวงตากลมโตของอ้ายเจิงทำให้ฝ่าบาททรงถูกพระทัยยิ่งนัก พระองค์ทรงโปรดเขายิ่งกว่าองค์ชายผู้หนึ่งและมักจะถือหางของเขาอยู่เสมอจนสร้างความอิจฉาริษยาไปทั่ววังหลัง
เมื่ออ้ายเจิงเติบใหญ่และถึงคราที่ต้องใช้งานพระองค์ส่งให้เขาไปตามเฝ้าสังเกตการณ์สองอ๋องอย่างใกล้ชิด
ด้วยอำนาจทางทหารที่ซู่อ๋องและอวิ๋นอ๋องกุมเอาไว้จึงไม่อาจวางพระทัยได้ อ้ายเจิงทำหน้าที่ของเขาอย่างเต็มที่และเป็นคนที่ชักนำให้พระองค์ทรงไว้วางพระทัยในตัวของอ๋องทั้งสองอีกทั้งพระองค์ยังวางตำแหน่งของลู่หนิงหวังและหานเซียวเสียใหม่
จากเดิมที่แม้จะสงสารและรักใคร่แต่พระองค์ก็ยังหวาดระแวงอยู่มาก แต่เมื่อมีอ้ายเจิงบัดนี้ด้วยความสามารถของเขาสองอ๋องได้กลายเป็นคนสำคัญของฝ่าบาทอย่างแท้จริงไปโดยที่พระองค์เองก็ไม่รู้ตัว บัดนี้พระองค์จึงไม่อาจขาดผู้ใดไปได้
เมื่ออ้ายเจิงและท่านหมอหลวงอ้ายออกไปแล้วฝ่าบาทจึงทรงเรียกลู่หนิงหวังและหานเซียวเข้ามาข้างแท่นบรรทม
"ฝ่าบาท"
"เรื่องของพวกเจ้าช่างวุ่นวายยิ่งนัก มีคนร้องเรียนมาไว้เว้นวันขุนนางพวกนั้นว่างงานยิ่งนักถึงได้ขุดพฤติกรรมของพวกเจ้ามาให้เราได้ปวดหัว"
"ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ"
คนทั้งสองเอ่ยขึ้นพร้อมกัน ลู่หนิงหวังและหานเซียวย่อมรู้ดีว่าในจำนวนคนหลายแสนในกองทัพย่อมมีทั้งคนดีและคนเลว พวกคนเลวก็มักจะใช้ชื่อเสียงของพวกเขากดขี่ข่มเหงผู้อื่นเพื่อหวังผลประโยชน์
แน่นอนว่าคนที่เดือดร้อนจริง ๆ ก็คือพวกเขา หากฝ่าบาทใส่พระทัยในเรื่องเล็กน้อยพวกนี้เกรงว่าทั้งลู่หนิงหวังและหานเซียวแม้จะมีร้อยหัวก็ไม่เพียงพอให้ตัดเสียแล้ว
"ช่างเถิด เรายังจำคำขู่ของหานเซียวได้เราไม่กล้าลงมือทำอันใดพวกเจ้าเป็นแน่"
"ฝ่าบาท ทรงล้อกระหม่อมเล่นแล้ว"
หานเซียวก้มหน้า ฝ่าบาททรงไอออกมากงกงรีบถวายการดูแล หานเซียวเห็นชัดว่าผ้าเช็ดหน้าผืนขาวผืนนั้นมีรอยแดงของเลือดอยู่จุดหนึ่ง
ถึงพระอาการประชวรจะมากเพียงใดพระองค์ก็ไม่ทรงอนุญาตให้พวกเขาเอ่ยถึงเรื่องนี้ให้เสียบรรยากาศ ทั้งสองคนจึงได้แต่กล้ำกลืนความห่วงใยลงไปในกระเพาะ
"หานเซียวเจ้าบอกเราเองมิใช่หรือ ว่าหากเราไม่ยกของกำนัลผ้าแพรพวกนั้นให้เจ้า เจ้าจะลาออกจากราชการเสีย เราเองในยามนั้นก็หวาดกลัวยิ่งนักกลัวเจ้าจะลาออกแล้วหนีเราไปยังที่แสนไกลจริง ๆ เช่นนั้นผู้ใดจะช่วยลู่หนิงหวังคุมกองทัพเรือนแสนกันเล่า เราเองก็ชราเพียงนี้ไม่อาจช่วยเขาได้จริง ๆ ทั้งหมดก็เพียงเพราะว่าที่พระชายาของเจ้าใช่หรือไม่"
"ฝ่าบาท"
ฝ่าบาททรงโบกพระหัตถ์เมื่อเห็นหานเซียวใบหน้าแดงก่ำทั้งยังอึกอึกอ้ำอึ้ง
"เรารู้ว่าเจ้าเห็นนางสำคัญเพียงใด กระทั่งเราที่ชุบเลี้ยงเจ้ามาเจ้ายังทอดทิ้งได้เช่นนี้"
ลู่หนิงหวังถอนหายใจ เขายิ้มเล็กน้อย
"ฝ่าบาทหานเซียวยังเด็ก ความคิดอ่านบุ่มบ่ามยิ่งนักกระหม่อมในฐานะผู้เป็นพี่สั่งสอนเขาไม่ดีเอง เรื่องนี้ขอพระราชทานกรุณาลงโทษกระหม่อมแทนเถิด"
"ข้ารู้ว่าพวกเจ้ารักใคร่กันยิ่งนัก ยอมตายแทนกันได้กระทั่งพระชายายังแต่งสตรีคนเดียวกัน เอาเถิดอย่างไรข้าก็ถูกหานเซียวข่มขู่มาเนิ่นนานแล้ว ชินเสียแล้วมิใช่เรื่องใหญ่"
"ทรงมีพระกรุณาต่อกระหม่อมยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ"
ฝ่าบาททรงพยักหน้าเห็นด้วยอย่างสุดซึ้ง
"นั่นสิกระทั่งลูกแท้ ๆ ของเรา พวกเขายังริษยาพวกเจ้ารวมอ้ายเจิงด้วย คิดว่าพวกเจ้าเป็นองค์ชายที่เราแอบซ่อนเอาไว้ เพราะแบบนี้พวกเขาต้องการกำจัดพวกเจ้า พวกเขาไม่คิดว่าเพราะพวกเขาล้วนด้อยสามารถ ทั้งบุ๋นทั้งบู๊มีองค์ชายใดบ้างที่จะเทียบเคียงพวกเจ้าได้ เช่นนี้ข้าจึงหวังให้เจ้าคอยช่วยเหลือองค์รัชทายาทแต่เขากลับไม่คิดเช่นนั้น ทั้งหมดเป็นเพราะข้าทำให้พวกเจ้าเดือดร้อนแล้ว"
"ฝ่าบาทหากให้กระหม่อมสละลาภยศออกจากราชการเพื่อตัดปัญหากระหม่อมและหานเซียวก็มิได้ขัด"
ความฝันของลู่หนิงหวังและหานเซียวในยามนี้จะมีสิ่งใดมากไปกว่าการอยู่อย่างสงบในบั้นปลายชีวิตกับสตรีอันเป็นที่รักของพวกเขากันเล่า
ฝ่าบาททรงส่ายพระพักตร์ยันพระวรกายแล้วนั่งตัวตรง ทรงโบกมือเมื่อกงกงจะช่วยเหลือ
"กงกงเจ้าออกไปก่อน"
"พ่ะย่ะค่ะ"
กงกงผู้นั้นเป็นกงกงที่อยู่ข้างพระวรกายมานานท่าทางสุขุมทำงานว่องไวเรียบร้อย รู้พระทัยเป็นอย่างยิ่ง ลู่หนิงหวังชำเลืองมองตามเขากระทั่งกงกงหายออกจากประตูใหญ่
อ้ายเจิงถวายพระโอสถแด่ฝ่าบาท มือของเขาสั่นระริกจนสองอ๋องเห็นได้ชัด แม้จะอยากรู้เพียงใดว่าอ้ายเจิงนำสิ่งใดให้ฝ่าบาทเสวยแต่พวกเขาก็รู้ว่าในยามนี้ไม่เหมาะที่จะถามออกไป
ฝ่าบาทเสวยยาจนหมดชาม เพียงชั่วครู่สีพระพักตร์ของพระองค์ก็ทรงดีขึ้น อ้ายเจิงตรวจพระวรกายของพระองค์แทนท่านพ่อของเขาที่ถวายงานฝ่าบาทโดยมิได้พักผ่อนมาหลายวันจึงได้กลับไปที่จวนแล้ว
"ฝ่าบาทบัดนี้เลือดลมภายในเดินราบเรียบสมบูรณ์ยิ่งนัก แต่อย่างไรพระองค์ก็ไม่อาจหักโหมในราชกิจได้นะพ่ะย่ะค่ะ"
"เราเข้าใจแล้ว แต่ไม่อาจทำได้เจ้าก็รู้ว่าเรามีเวลาไม่มากแล้วอย่างไรเรื่องที่ควรจัดการก็ต้องรีบทำให้เสร็จ"
บรรดาขุนนางที่เข้ามาเข้าเฝ้า ภายนอกผ้าบางโปร่งที่กั้นพวกเขากับแท่นบรรทมนั้นแม้จะเห็นใบหน้าของฝ่าบาทไม่ชัดแต่พวกเขาพลันได้ยินพระสรุเสียงอย่างชัดเจน
เสียงร่ำร้องของขุนนางเหล่านั้นจึงดังขึ้น
"ฝ่าบาทขอพระองค์ทรงอายุยืนหมื่นปี หมื่น หมื่น ปี พ่ะย่ะค่ะ"
"ลุกขึ้นเถิด"
"ขอบพระทัยฝ่าบาท"
เมื่อทุกคนลุกขึ้นพระองค์จึงทรงเอ่ยด้วยสุรเสียงที่ดังยิ่งนัก
"ที่เราให้พวกเจ้าเข้ามาล้วนรู้ดีว่าพวกเจ้าต่างสนับสนุนลู่หนิงหวังใช่หรือไม่"
คนพวกนี้ลับหลังล้วนเป็นพวกที่สนับสนุนคนเก่ง ในใจของพวกเขาคิดเช่นไรก็ไม่อาจปิดกันมิด นานวันเข้าจึงเกิดกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนซู่อ๋องและอวิ๋นอ๋องให้ครองราชย์ เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่อาจบุ่มบ่ามได้เนื่องจากท่านอ๋องทั้งสองไม่เห็นด้วยและน่าเกรงขามเกินกว่าที่พวกเขาจะเซ้าซี้ได้บ่อยครั้งเรื่องนี้จึงเป็นเพียงความต้องการภายในใจเงียบ ๆ ของคนเหล่านี้
เมื่อถูกฝ่าบาทจับได้คนพวกนี้จึงปาดเหงื่อเย็นออกจากหน้าผาก มิใช่ว่าพระองค์ทรงรู้แล้วไม่พอพระทัยคิดจะสังหารพวกเขาทิ้งใช่หรือไม่ เมื่อคิดได้ดังนั้นคนทั้งหมดจึงคุกเข่าลงทันใดปากยังร่ำร้องขอความเป็นธรรม
"ฝ่าบาทกระหม่อมเพียงแต่เห็นแก่บ้านเมือง กระหม่อมไม่มีสิ่งใดแก้ต่างพ่ะย่ะค่ะ"
"เรามิได้ตำหนิความคิดของพวกเจ้า ความจริงเราเองก็หวังให้เป็นเช่นนั้น"
สีพระพักตร์ของฝ่าบาทเป็นเช่นไรในยามนี้ไม่มีผู้ใดรู้ แต่น้ำเสียงของพระองค์ช่างเด็ดขาดและจริงจังเป็นอย่างยิ่ง
"ซู่อ๋องลู่หนิงหวังรับราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นรัชทายาท หากข้ามิอาจครองบัลลังก์สืบต่อไปได้ซู่อ๋องลู่หนิงหวังย่อมมีสิทธิ์ในบัลลังก์ของข้าสืบต่อไป ตราประทับพระราชโองการอยู่ในมือข้า ข้าให้พวกเจ้าเป็นพยานว่าราชโองการนี้เป็นของจริง"
ตราลัญจกรมังกรคาบลูกแก้วถูกซ่อนไว้ใต้หมอนของฝ่าบาท พระองค์เตรียมการเอาไว้แล้วทั้งยังประทับตราลัญจกรลงบนราชโองการผืนนั้นจนเรียบร้อย
ท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคนบัดนี้ผู้ที่มีอาการตกใจมากกว่าผู้ใดย่อมเป็นลู่หนิงหวัง!!
พระองค์ทรงแต่งตั้งให้เขาเป็นรัชทายาททั้งที่มิได้ทรงปลดรัชทายาทพระองค์เดิม แท้ที่จริงแล้วพระองค์ทรงคิดจะทำสิ่งใดกันแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P
ไม่นะ หานเซียวจะตายแยบรี้ไม่ได้ ฮื่อออออๆๆ...