ละอองหิมะโปรยปรายลงมาปกคลุมลานกว้างจนกลายเป็นสีขาวสะท้อนสายตาในขณะที่ลมหนาวโชยพัดเอานำหิมะมาจนถึงหน้าประตู ในตำหนักบูรพาบัดนี้กลับไร้เงาขององค์รัชทายาท
หลังได้รับรายงานลับจากคนของเขาที่อยู่ข้างกายของฮ่องเต้ รัชทายาทหลวนเซี่ยจะทนอยู่ได้อย่างไร เขาร้อนรนออกจากวังอย่างลับ ๆ เพื่อไปพบเสนาบดีเหอหมิน เขารู้สึกสมองอื้ออึงกระแสโลหิตภายในกายร้อนระอุแทบจะเผาจิตใจของเขาให้แหลกสลาย
ในยามนี้เขาอยากกระชากร่างชราของฝ่าบาทมาถามนักว่ายังเห็นเขาเป็นลูกชายหรือไม่ เหตุใดจึงคิดยกบัลลังก์ให้ผู้อื่น หลายปีมานี้เขาทุ่มเทอย่างหนักเพื่อตำแหน่งนี้แต่กลับไม่เคยถูกพระทัยเสด็จพ่อเลยแม้แต่เรื่องเดียว
ไม่ว่าเขาจะทำสิ่งใดก็มิอาจสู้ลู่หนิงหวังได้
หรือว่าข่าวลือจะเป็นจริงที่แท้ลู่หนิงหวังคือเลือดเนื้อเชื้อไขอันเกิดจากความวิปริตของเสด็จพ่อจริง ๆ กระทั่งพี่สะใภ้ของตนเองพระองค์ก็ทรงไม่ละเว้น
ม้าของเขาฮ้อตะบึงมาจนถึงจวนของเสนาบดีเหอหมิน ทหารรักษาจวนเข้ามาขัดขวางด้วยไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดที่มาในยามวิกาลแต่โชคร้ายที่บัดนี้หลวนเซี่ยกำลังมีโทสะทหารผู้นั้นจึงถูกสังเวยโทสะนั้นด้วยความตาย
ความโกรธแค้นของเขาไม่อาจคลายลงกระทั่งเขาเข้าไปในจวนของเสนาบดีแล้ว
"ท่านลุงข้าควรทำเช่นใดดีเสด็จพ่อคงคิดจะปลดข้าแน่แล้ว"
"รัชทายาทพระองค์ต้องพระทัยเย็นกว่านี้ ออกมาในยามวิกาลเช่นนี้ย่อมทำให้ผู้อื่นจับผิดเอาได้"
เหอหมินแท้ที่จริงแล้วมีศักดิ์เป็นท่านลุงขององค์รัชทายาท เขาเป็นคนเสี้ยมสอนให้รัชทายาทกลายเป็นคนเช่นนี้ ทั้งยังมีคนสนับสนุนด้วยฐานอำนาจที่สั่งสมมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
"แล้วท่านจะให้ข้าทำเช่นใด หากพรุ่งนี้ในท้องพระโรงประชุมเสนาบดีข้ามิใช่จะถูกปลดหรือ"
"กระหม่อมคิดว่าฝ่าบาทยังจะไม่ทรงทำเช่นนั้น หากต้องการปลดพระองค์จริงจะเอาเหตุผลอันใดเล่ามาโต้แย้ง ฝ่าบาทกระทำการแต่งตั้งซู่อ๋องอย่างเงียบเชียบมิให้คนนอกรู้นั่นแสดงว่าพระองค์อาจกำลังเตรียมการบางอย่าง"
"อย่างไรเล่าท่านลุง ข้ามิอาจทนไหวแล้วแผนการของท่านจะล่าช้าไม่ได้"
"อุโมงค์ใกล้ขุดเสร็จแล้วกระหม่อมสั่งให้คนเร่งมือทั้งวันทั้งคืนเพียงแต่เราต้องรออีกสองสามวันถึงจะเคลื่อนย้ายคนเข้าวังหลวงได้"
"แล้วกั๋วกงนั่นยังจะไว้ใจได้หรือ หากเขาหักหลังเราเล่า"
องค์รัชทายาทค่อนข้างวิตกกังวล แม้เขาจะสมรสกับบุตรสาวของกั๋วกงแต่ก็มิอาจทำให้แน่ใจได้ว่าคนผู้นั้นจะไม่ทรยศ เสนาบดีจึงเอ่ยว่า
"ว่าที่พระชายาของซู่อ๋องและอวิ๋นอ๋องนั้นค่อนข้างทำให้กั๋วกงกังวล อีกทั้งข้ายังได้ข่มขู่เขาไว้มากหากเขากล้าเราก็ทำลายสกุลหนานเสีย คนผู้นั้นรักตัวกลัวตายไม่มีทางหักหลังเราเป็นแน่"
"แล้วท่านลุงจะให้ข้าใจเย็นไปถึงเมื่อใด แผ่นดินนี้เป็นของข้า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นของข้า ข้าไม่มีทางให้ลู่หนิงหวังแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากข้าเป็นอันขาด"
เหอหมินยิ้มเหี้ยมเกรียม
"ไม่เกินเจ็ดวันต่อจากนี้แม้ซู่อ๋องจะมีอวิ๋นอ๋องคอยผนึกกำลังก็ไม่อาจต้านทานทหารหนึ่งแสนนายของกระหม่อมได้"
กว่าองค์รัชทายาทจะเสด็จกลับก็เป็นเวลาเกือบรุ่งสางแล้ว การลอบออกจากวังครานี้ย่อมไม่มีผู้ใดปริปาก ในยามเช้าเมื่อถึงคราที่ต้องเข้าเฝ้าน่าประหลาดใจที่เป็นดั่งท่านลุงของเขาว่า
เรื่องการแต่งตั้งลู่หนิงหวังเป็นองค์รัชทายาทนั้นกลับไม่ได้ประกาศออกไป ที่แท้ฝ่าบาทต้องการสิ่งใดกันแน่
และสิ่งที่น่าประหลาดใจนั้นก็คือเรื่องพระพลานามัยของฝ่าบาท วันนี้สีพระพักตร์สดใสใบหน้าอิ่มสมบูรณ์ไร้วี่แววของคนป่วยปางตายดั่งวันวานอย่างสิ้นเชิง
องค์รัชทายาทกำมือแน่น อำนาจของเขาอยู่แค่เอื้อมแท้ ๆ เหตุใดฝ่าบาทจึงได้ทรงอาการทุเลารวดเร็วปานนี้ ใจของเขาหวนคิดไปถึงหลวงหัตถ์เทวดา หากไม่มีคนผู้นั้นฮ่องเต้ก็ไม่อาจรอดเช่นกัน
หลังจากเข้าเฝ้าในท้องพระโรงในยามเช้า องค์รัชทายาทกลับตำหนักบูรพาก็พบพระชายาหนานหงรอพระองค์อยู่ก่อนแล้ว
กลิ่นหอมของร่างกายของหนานหงช่วยให้พระองค์ผ่อนคลายพระทัย ในยามนี้จึงนอนหนุนตักของนางและดอมดมมือเรียวของนางไม่หยุด
"อยู่เคียงข้างข้าเช่นนี้ไปตลอดได้หรือไม่ อย่าจากข้าไปที่ใด"
"เพคะ"
หนานหงเห็นองค์รัชทายาททรงผ่อนคลายใจก็ใจสงบยิ่ง กลิ่นสมุนไพรนี้แน่นอนว่านางย่อมเรียนรู้มาจากหนานอิง และในวันที่ได้พบองค์รัชทายาทเป็นครั้งแรกเมื่อพระองค์ปลอมกายเป็นคุณชายผู้หนึ่งออกนอกวังและไปไปยังจวนของท่านเสนาบดี
หนานหงในยามนั้นได้นำเครื่องหอมที่ออกใหม่ไปส่งที่จวนเสนาบดีด้วยตนเองกับบ่าวรับใช้ซึ่งคืออาโจวนั่นเองและนางบังเอิญได้ยินบ่าวรับใช้ของจวนผู้หนึ่งคุยกันว่าองค์รัชทายาทบัดนี้อยู่ที่จวนแห่งนี้
หนานหงเกิดความสงสัยใคร่รู้ว่าองค์รัชทายาทจะมีใบหน้าเป็นเช่นใดกัน นางแอบติดสินบนบ่าวผู้นั้นจนกระทั่งบ่าวยอมเปิดปาก หนานหงรู้มาว่าเมื่อองค์รัชทายาทมาที่จวนนี้มักจะกลับออกไปในยามเย็นย่ำทุกครั้ง
นี่เป็นครั้งแรกที่นางกำนัลผู้นี้เห็นใบหน้าของหนานอิงอย่างชัดเจน สตรีผู้มีชื่อเสียงที่สุดในแคว้นที่ชื่อเสียงมีทั้งเสื่อมเสียและดีงาม กระนั้นก็ยังได้รับพระกรุณามอบสมรสพระราชทานให้
หนานอิงนับว่ามีรูปโฉมงดงามเป็นหนึ่ง ยามเมื่อแย้มยิ้มยังเจือความอบอุ่นนุ่มนวลอย่างบอกไม่ถูก น้ำเสียงของนางก็อ่อนโยนเป็นอย่างยิ่งพลอยทำให้คนที่อยู่ใกล้รับรู้ได้ถึงความสบายอกสบายใจ
"ในเมื่อพระชายาต้องการพบข้าเช่นนี้นับว่าเป็นพระกรุณายิ่ง"
หนานอิงเองความจริงแล้วต้องการออกไปส่งข่าวด้วยตนเอง ในยามที่คนของจวนอ๋องเข้ามาปะปนในจวนกั๋วกงหนานอิงเองกลับทำงานได้สะดวกขึ้น
และสุดท้ายนางก็สามารถสำรวจจวนกั๋วกงได้ทุกส่วน แผนที่ยังมิได้ถูกเขียนด้วยนางมิกล้าบุ่มบ่าม เพียงแต่จำได้แม่นยำนางต้องการสถานที่ลับตาคนเพื่อทำแผนที่นี้และแน่นอนว่าในช่วงเวลาที่นั่งเกี้ยวเข้าวังนั้นนางจะให้อาฉีวาดแผนที่ขึ้นมา
นางไม่รู้ว่าหนานหงเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด จะสอบถามจากอาโจวก็มิได้ดูเหมือนว่าอาโจวจะลืมหนานหงไปแล้ว เพราะนางถูกทรมานอย่างหนักความทรงจำของนางจึงได้หายไปบางส่วนโดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับหนานหง
แม้หนานอิงจะอยากรู้ว่าอาโจวถูกตัดลิ้นด้วยสาเหตุใดกันแน่ แต่อาโจวกลับจำไม่ได้และยังทำท่าหวาดกลัวหนานอิงจึงไม่อยากทำให้อาโจวกระทบกระเทือนจิตใจอีก
อาฉีช่วยนางแต่งกายจนเรียบร้อย พวกนางขึ้นเกี้ยวที่วังหลวงเตรียมมาให้ระหว่างเดินทางนั้นก็ดึงพู่กันกับกระดาษที่แอบซ่อนเอาไว้ออกมาแล้ววาดแผนที่ของสกุลหนานโดยละเอียด
ฝีมือของอาโจวไม่ธรรมดานางวาดได้อย่างคล่องแคล่วว่องไวจนหนานอิงต้องยกนิ้วให้ อาโจวเป่ากระดาษจนแห้งแล้วให้หนานอิงตรวจทานแผนที่อีกครั้ง หนานอิงมองอย่างระมัดระวังกระทั่งนางเห็นว่าถูกต้องจึงเขียนสัญลักษณ์บางอย่างเพิ่มเข้าไป
"จุดนี้น่าสงสัย แต่เดิมเคยเป็นอุโมงค์เย็นไว้เก็บเนื้อและผักผลไม้ในหน้าร้อน แต่แปลกประหลาดที่ยามนี้กลับมีคนเฝ้าอย่างแน่นหนาน่าจะมีสิ่งใดที่ผิดปกติ"
หนานอิงดูแผนที่แล้วเขียนสัญลักษณ์บางอย่างลงไป กระทั่งอาฉีเอ่ยว่า
"ข้าจะออกไปส่งสัญญาณให้นายน้อย"
หนานอิงพยักหน้า อาฉีไม่อาจนำแผนที่ไปด้วยตนเองได้และแผนที่นี้สำคัญยิ่งคงต้องให้คนที่ไว้ใจได้มารับแผนที่ด้วยตัวเองกระมัง
หนานอิงก้มลงตรวจทานแผนที่อีกครั้งเมื่อเงยหน้าขึ้นก็ต้องสะดุ้งจนแทบจะหัวใจวายเมื่อพบใบหน้าเคร่งขรึมของใครบางคนกำลังมองนางอยู่
ลู่หนิงหวังเขามาได้อย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P
ไม่นะ หานเซียวจะตายแยบรี้ไม่ได้ ฮื่อออออๆๆ...