ทำไมเขาถึงโทรมาหาเธอในเวลาแบบนี้?
พอนึกถึงพวกเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องทำงานของภวินท์เมื่อกลางวันนี้แล้ว ในใจของญาธิดาก็เกิดความโกรธเคืองขึ้นมาระลอกหนึ่ง เธอกัดฟันเล็กน้อย แล้วก็กดให้หน้าจอดับมืดไป ไม่ยอมรับสาย
หัวมึนมาก ญาธิดาก้าวเดินไป ค่อย ๆ เดินเข้าไปในห้องนอน พอเห็นเตียงที่จัดเก็บไว้ล่วงหน้าแล้ว ขาทั้งคู่ก็รู้สึกอ่อนขึ้นมา แล้วก็ล้มลงไปบนเตียงเลย
หลังจากที่ดื่มเหล้ามาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือได้นอนสักตื่น แล้วไม่สนใจอะไรเลย
ค่ำคืนนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าก่อนนอนได้ดื่มเหล้าไปบ้าง ญาธิดาก็เลยค่อนข้างที่จะหลับสบาย พอนอนตื่นขึ้นมา ก็เป็นเวลาเก้าโมงกว่าตอนเช้าแล้ว
เธอหาวขึ้นมาทีหนึ่งแล้วก็ลุกขึ้นมา พอเห็นดวงอาทิตย์ที่อยู่ข้างนอก อารมณ์ก็ดีขึ้นมาหลายเท่า เธอก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจะปล่อยน้ำไว้ และกะว่าจะอาบน้ำซะหน่อย
พออาบไปได้ไม่นาน อยู่ ๆ ก็เกิดเสียง“แพร๊ง”ขึ้นมาทีหนึ่ง แล้วไฟในห้องน้ำก็ดับไปเลย
ญาธิดาอึ้งไปครู่หนึ่ง ตกใจจนแผ่นหลังแข็งทื่อ แล้วก็ไม่ได้สนใจร่างกายและผมที่เปียกปอน จากนั้นก็คลุมเสื้อคลุมแล้วก็ออกไปเลย
เกิดอะไรขึ้น ไฟดับไปเหรอ?
ญาธิดารีบลองเปิดปิดไฟดู แต่ก็มีแต่หลอดไฟในห้องน้ำเท่านั้นที่ไม่สว่าง หลอดไฟข้างนอกยังคงสว่างอยู่ ดูท่า หลอดไฟในห้องน้ำน่าจะช็อตไปแล้ว
เธออาบน้ำยังไม่เสร็จ ไฟก็มาดับไปซะก่อน ในนั้นมืดมากจนมองไม่เห็นอะไรเลย เรื่องที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนก็คือรีบหาหลอดไฟสักอันไปเปลี่ยน เธอจำได้ว่าตัวเองได้ตั้งใจเอาหลอดไฟประหยัดพลังงานอันหนึ่งมาเผื่อเอาไว้เปลี่ยน แต่ว่าเมื่อวานอัญมณีเป็นคนจัดเก็บ และเธอก็ไม่รู้ว่าเอาไปเก็บไว้ที่ไหนแล้ว
หาไปรอบหนึ่งก็หาไม่เจอ ญาธิดาก็เอาโทรศัพท์ออกมา แล้วก็โทรหาอัญมณี
หลังจากที่ดัง“ตู๊ด ตู๊ด……”ไปหลายทีแล้ว ทางปลายสายก็รับสายขึ้นมา
เพราะว่ารีบร้อน พอญาธิดาได้ยินเสียงฝั่งโน้นรับสาย ก็รีบพูดขึ้นมาเลยว่า “อันอัน เมื่อวานตอนที่เธอช่วยฉันเก็บของได้เอาหลอดไฟประหยัดพลังงานไปเก็บไว้ที่ไหนแล้ว? เมื่อกี้ตอนฉันอาบน้ำแล้วหลอดไฟมันช็อตไป เดี๋ยวฉันต้องเปลี่ยนใหม่อันหนึ่งแล้ว……”
เห็นได้ชัดว่าทางปลายสายหยุดนิ่งไปไม่กี่วินาที แล้วจากนั้นก็มีเสียงผู้ชายที่ขรึมต่ำและมีเสน่ห์ดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง “รอก่อนนะ อย่าขยับ เดี๋ยวผมไปหาคุณ”
ญาธิดาอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ตกตะลึงจนตาโต
ทำไมถึงเป็นเสียงผู้ชายไปได้? และฟังดูคุ้นหูมากเลย
เธอรีบเอาโทรศัพท์ออกไปจากข้างหู ในตอนที่เห็นชื่อที่บันทึกไว้เป็นคำว่า“ภวินท์”นั้น ก็ตกใจขึ้นมาอีกครั้ง
เธอโทรไปหาเขาได้ยังไงกัน!
แล้วจู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนภวินท์เคยโทรศัพท์หาเธอ แล้วเธอก็เข้าใจขึ้นมาทันที เธอเปิดประวัติการโทรออกมาแล้วก็กดโทรออกไปเลย ตอนแรกนึกว่าข้างบนสุดจะต้องเป็นเบอร์ของอันอัน แต่คิดไม่ถึงว่าจะโทรหาภวินท์ไปได้!
ญาธิดารีบพูดขึ้นว่า “คุณ……”
ไม่ต้องมาหรอก
แต่พูดยังไม่ทันจบ ทางโน้นก็ตัดสายทิ้งไปซะแล้ว
เขาให้เธอรออยู่เหรอ? รอเขามาหาเธอเหรอ แต่ว่าเขารู้เหรอว่าเธออยู่ที่ไหน!
ญาธิดามึนงงไปหมด ยังไงก็คิดไม่ชัดเจน สุดท้ายก็ไม่ได้เก็บคำพูดที่ภวินท์พูดเมื่อกี้มาใส่ใจ แล้วก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาอัญมณี
“อันอัน ตื่นหรือยัง?”
อีกด้านหนึ่งอัญมณีหาวแล้วก็พูดขึ้นว่า “ตื่นแล้ว มีเรื่องอะไรเหรอ?”
“เมื่อวานตอนที่เธอช่วยฉันเก็บของ เห็นหลอดไฟประหยัดพลังงานหรือเปล่า เมื่อกี้มีหลอดไฟอันหนึ่งช็อตไปแล้ว”
“เหมือนจะเห็นนะ……เธอไปหาที่ลิ้นชักดูซิ ถ้าไม่มีจริง ๆ เดี๋ยวฉันไปหาเธอ จะได้ไปช่วยเธอหาด้วย”
ญาธิดายิ้มเล็กน้อย แล้วก็พูดขึ้นเบา ๆ “ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก เดี๋ยวฉันหาดูอีกทีนะ”
“โอเค เธอหาไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันคุยเป็นเพื่อนเธอไป อ๋อ ใช่แล้ว เธอรู้สึกว่าพี่ชายฉันเป็นยังไงบ้าง? เมื่อวานพอกลับมาถึงบ้าน ฉันก็รู้สึกว่าเขาจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย!”
ทางปลายสายมีเสียงอยากรู้อยากเห็นของอัญมณีลอยมา ญาธิดาเงียบขรึมไปหลายวินาที จากนั้นก็พูดเสียงเบาขึ้นว่า “ฉันรู้สึกว่าเป็นเพื่อนกันก่อนดีกว่า……”
พอคำพูดเธอจบลง อีกฝั่งก็มีเสียงร้องเศร้าสร้อยของอัญมณีลอยมา “ธิดา…… เธอต้องคิดดี ๆ นะ ในเมื่อเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอนาคตของพวกเราเลยนะ……”
ญาธิดายิ้มแล้วก็ตอบกลับไป “โอเค โอเค รู้แล้ว ”
ในเวลาแบบนี้ ตัวเขาก็มาถึงที่แล้ว แถมยังมายืนโด่เด่อยู่ในบ้านเธอด้วย เธอคงจะไล่เขาไปไม่ได้แล้ว
พอนึกถึงอัญมณีบอกในโทรศัพท์เมื่อกี้ว่าอาจจะอยู่ในลิ้นชัก ญาธิดาก็รีบเดินไปที่ข้าง ๆ ตู้ลิ้นชัก แล้วดึงลิ้นชักออกทีละชั้นทีละชั้น
ในที่สุด ก็หาหลอดไฟประหยัดพลังงานเจอที่ลิ้นชักชั้นที่สาม
ภวินท์เดินมาหา หลังจากที่ตรวจดูขนาดแล้ว ก็พูดเรียบ ๆ ขึ้นว่า “ปิดคัทเอาท์ในบ้านไปก่อน แล้วคุณก็มาช่วยผมจับเก้าอี้ไว้”
ญาธิดานิ่งอึ้งไปเล็กน้อย แล้วพูดเสียงเบาขึ้นว่า “อ๋อ ค่ะ……”
แล้วก็เห็นภวินท์เดินไปที่หลังประตู แล้วก็สับคัทเอาท์ไป จากนั้นก็เดินไปที่ห้องน้ำ แล้วเอาเก้าอี้เข้าไปหนึ่งตัว แล้วปีนขึ้นไปยืนแล้วยื่นมือไปถอดโคมครอบหลอดไฟบนนั้นลงมา
ญาธิดายืนอยู่อีกข้างหนึ่ง จับเก้าอี้เอาไว้ แล้วเชิดหน้ามองตรงไปข้างหน้า
มือข้างหนึ่งของชายหนุ่มถือหลอดไฟอันใหม่อยู่ อีกข้างหนึ่งหมุนหลอดไฟเก่าออกมาอย่างคล่องแคล่ว เขายกมือขึ้น แล้วเสื้อเชิ้ตที่อยู่ช่วงบนของลำตัวก็ถูกดึงรั้งขึ้นไป แล้วก็ทำให้กล้ามหน้าท้องสีข้าวสาลีโผล่ออกมาส่วนหนึ่งพอดี
มองจากมุมมองของญาธิดาไป ก็สามารถมองเห็นกล้ามหน้าท้องที่โผล่ออกมาจากชายเสื้อเชิ้ตที่ปลิวอยู่ได้พอดี กล้ามเนื้อทุกส่วนเหมือนกับว่าจะหลอมรวมพลังเอาไว้ ดูแข็งแกร่ง แน่นหนา ลายเส้นชัดเจนทำให้คนลุ่มหลง……
ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่ารูปร่างของภวินท์นั้นดีมาก
ในสมองมีความคิดอย่างหนึ่งกะพริบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของญาธิดาก็แดงขึ้นมาทันที
เธอรีบเบือนสายตาไป แล้วก็ปรับลมหายใจที่รวดเร็วลงมา
ทำไมเธอถึงมีความคิดแบบนี้ได้นะ! ที่สำคัญยังคิดจินตนาการกับภวินท์ด้วย!
พอภวินท์หมุนหลอดไฟอันใหม่เข้าไปแล้ว และก้าวเท้าลงมา หรี่ตาลงก็เห็นใบหน้าที่ขาวนวลของหญิงสาวเกิดรอยแดงระเรื่อขึ้นมาชั้นหนึ่ง จิตใจเหม่อลอย และหันแววตาหนี
เขายักคิ้วขึ้นเล็กน้อย ในดวงตามีความขบขันปรากฏออกมาเสี้ยวหนึ่ง แล้วก้าวเดินไปข้างหน้าก้าวหนึ่งเพื่อเข้าใกล้เธอ แล้วร้องเรียกเสียงเบาขึ้นว่า “ญาธิดา”
ญาธิดาตั้งสติกลับมาได้ทันที ในดวงตามีความลนลานกะพริบผ่านไปเล็กน้อย “ห๊า ? มี......มีอะไรเหรอ?”
ภวินท์เหมือนกับว่าจะคลี่มุมปากออกเล็กน้อย สีหน้ายังคงเรียบเฉย เขาค่อย ๆ โน้มตัวและก้มหน้าลงมา แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เรื่องแบบนี้ควรจะให้ผู้ชายมาเป็นคนทำ เข้าใจไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...