ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 116

เรื่องแบบนี้? เรื่องแบบไหน?

ญาธิดาหน้าแดง ใจเต้นตึกตัก เธอรับมือโดยการพยักหน้า ไม่กล้าจ้องตาภวินท์

ภวินท์ยิ้ม ถอยหลังหนึ่งก้าว หันหลังเดินออกจากห้องอาบน้ำไป แล้วเปิดสวิตช์ไฟ

ตามคาด ไฟในห้องน้ำสว่างขึ้น ญาธิดาเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเธอแดงก่ำราวแอปเปิลแดง เมื่อเห็นตัวเองในกระจก ทันใดนั้นเธอก็เปิดก๊อกน้ำ แล้วเอาน้ำเย็นล้างหน้า

เธอล้างหน้าพลางแอบด่าตัวเองไปพลาง

ญาธิดานะญาธิดา เขาก็แค่หุ่นดีหน่อยเท่านั้นเองไม่ใช่หรือ จะต้องลุ่มหลงเพียงนี้เชียวหรือ!

ผ่านไปครู่ใหญ่ สงบจิตสงบใจลงบ้างแล้ว เธอจึงก้าวเท้าเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ เมื่อถึงห้องรับแขกเล็ก ก็เห็นภวินท์กำลังยืนอยู่ข้างโซฟาจ้องมองดูกองเสื้อผ้าบนโซฟา

นั่นเป็นเสื้อผ้าที่เธอเอาออกมาเมื่อวานแต่ยังไม่ทันได้เก็บ ล้วนเป็นเสื้อเชิ้ตบางๆ และกางเกงขาสั้นที่จะใส่ในหน้าร้อน และยังมีกางเกงในเสื้อในด้วย!

ญาธิดาตกใจ รีบวิ่งเข้าไปรวบเสื้อผ้าขึ้นมา แล้วเก็บใส่เข้าไปในกล่องเก็บของที่อยู่ข้างๆ อย่างรีบร้อน “คือ…ฉันยังไม่ทันได้เก็บ……”

มองดูท่าทางรีบร้อนของหญิงสาวที่เขินอายแล้ว ภวินท์กลับสงบลงไปมาก ริมฝีปากที่กัดไว้แน่นสั่นเล็กน้อย แล้วกล่าวเสียงเบาว่า “คุณจะกลับไปทำงานที่บริษัทเมื่อไหร่ ”

“อะไรนะ  ”

ญาธิดาไม่คิดว่าพอเขาเอ่ยปากถาม จะถามคำถามนี้ จู่ๆ ก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี

เห็นเธออึ้งไป ภวินท์กล่าวต่ออย่างไม่รีบร้อนว่า “หรือว่า คุณได้เตรียมเงินค่าผิดสัญญาหนึ่งล้านไว้แล้ว ?”

ญาธิดาพูดไม่ออก “ฉัน ……”

หนึ่งล้านเธอไม่มีอยู่แล้ว งานนี้เธอไม่ทำต่อก็ไม่ได้

สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เธอค่อยๆ สงบลง แล้วกล่าวเสียงเบาว่า “ฉันสามารถกลับบริษัทได้ในวันพรุ่งนี้”

การหลบหนีก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา ดูเหมือนว่าทางเดียวก็คือต้องไปเผชิญกับมันแล้ว

เมื่อภวินท์ได้ยินเช่นนั้น กำลังจะพูดอะไร แต่ใครจะรู้ว่าในเวลานี้ เสียงที่มาไม่เหมาะกับเวลาก็ดังขึ้น

“จ๊อกๆ ……” เป็นเสียงที่ดังมาจากในท้องของญาธิดา

เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น ก็ประสานเข้ากับสายตาของชายหนุ่ม ทันใดนั้นก็รู้สึกอับอายขึ้นมา

ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าจนถึงตอนนี้ เธอยังไม่ได้กินอะไรเลย มันก็เป็นเรื่องของร่ธรรมดาของร่างกายที่จะหิว

เธอกัดฟัน ฝืนถามว่า “อืม……วันนี้คุณไม่ทำงานหรือ ”

มีเพียงภวินท์ไปแล้วเท่านั้น เธอจึงจะไปเตรียมอาหารเช้าได้

ภวินท์พูดเรียบๆ ว่า “ช่วงเช้าของวันนี้ที่บริษัทไม่มีงานอะไร ไม่จำเป็นต้องไป”

ฟังแล้ว....ความหมายของเขาคือ เขาไม่คิดจะไปแล้วหรือ?

ญาธิดาใช้หัวสมองคิดหาเหตุผลที่จะเชิญภวินท์ให้ออกไป แต่เขากลับไม่ได้คิดจะจากไปเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเดินไปที่ห้องครัวเล็ก แล้วเปิดตู้เย็นออก

ญาธิดารีบตามเข้าไป แล้วเอ่ยถามว่า “คุณ…หาอะไร ”

ภวินท์หยิบแครอท ผักกาด ไข่ไก่และเส้นหมี่ออกมาจากตู้เย็น แล้วกล่าวเสียงเรียบๆ ว่า “เมื่อกี้ผมมาอย่างเร่งรีบ ยังไม่ได้กินอาหารเช้า หรือคุณไม่ควรจะเลี้ยงข้าวผมสักมื้อหรือ ”

เลี้ยงข้าวหรือ?

เธอทำกับข้าวไม่ค่อยเป็น สำหรับอาหารเช้าก็แค่ทอดไข่กับปิ้งขนมปังหนึ่งแผ่นก็จบแล้ว ดังนั้นให้เธอทำกับข้าวเนี่ย มันจะไม่ยากสำหรับเธอหรือ?

เมื่อเห็นภวินท์ลงมือล้างผักเอง ญาธิดาก็ตะลึงงัน จากนั้นหลังจากได้สติคืนมา “คุณจะเข้าครัวเองหรือ ”

ภวินท์เผยอริมฝีปาก แล้วกล่าวเรียบๆ ว่า “ไม่อย่างนั้น?คุณทำเป็นหรือ?”

คำพูดเดียวทำให้ญาธิดารู้สึกเขินอายเล็กน้อย เธอไม่เป็นจริงๆ

ตอนที่อยู่บ้าน มีคุณปภาวีเป็นคนทำเองทั้งหมด เมื่ออยู่บ้านตระกูลสถิรานนท์ ก็มีป้าจันทร์ทำอาหาร เธอทำเป็นแค่น้ำซุปเท่านั้นเอง

เธอจ้องมองดีๆ เห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นอย่างชัดเจน

คือนีราภา!

ที่แท้เธอแอบถ่ายรูปที่เธอประคองมาร์ติน ถ้าอย่างนั้น รูปถ่ายเหล่านั้นที่คุณศศิได้ก็คือเธอเป็นคนส่ง

ญาธิดากำหมัดแน่น ในใจรู้สึกโกรธ ปกตินีราภาพูดกระแหนะกระแหนหาเรื่องเธออยู่บ่อยๆ ไม่คิดว่าลับหลังจะทำเรื่องต่ำทรามพวกนี้!

เธอคิดว่าเรื่องมะม่วงครั้งก่อนน่าจะเพียงพอที่จะเป็นการสั่งสอนเธอแล้ว ไม่คิดว่าเธอยังไม่ยอมรามือ!

ญาธิดากัดฟัน อัดอั้นในใจ “เธอ…ทำไมเธอไม่ยอมปล่อยฉันไป!”

ภวินท์เงียบไปครู่หนึ่ง มองดูเธอแล้วถามเสียงเรียบๆ ว่า “คุณคิดจะจัดการอย่างไร ”

จะจัดการอย่างไร? แม้ว่าจะไล่นีราภาออกจาก STN Group ก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับเธอ เพราะว่าชื่อเสียงของเธอได้รับความเสียหายแล้ว ทุกคนเชื่อว่าเธอก็คือมือที่สามที่ทำลายครอบครัวของคนอื่น เธอจะยังมีวิธีการอะไรที่จะสามารถทวงคืนความบริสุทธิ์ได้?

ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อย่างรู้สึกหดหู่ใจ แล้วเงยหน้ามองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า “ฉัน…ตอนนี้ฉันยังมีทางเลือกอีกไหม?”

เขาไม่ยอมให้เธอออกจากบริษัท เธอเองก็ไม่อาจไม่อยู่ทำงานที่STN Groupได้ ไม่อาจไม่ทนรับความอับอายและคำดูหมิ่นเหล่านั้น

“คุณมี ” แสงสลัวฉายผ่านดวงตาของภวินท์ น้ำเสียงที่หนักแน่นมั่นคง “คุณสามารถที่จะเลือกร่วมมือกับผม”

ญาธิดาไม่เข้าใจ “ร่วมมือ.....กับคุณหรือ ”

ภวินท์เงยหน้าเล็กน้อย น้ำเสียงเคร่งขรึม “เรื่องนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่คุณคิด เป้าหมายของผมคือมาร์ติน และตอนนี้ มีเพียงคุณเท่านั้นที่จะช่วยผมได้”

ญาธิดากระตุกริมฝีปาก เผยให้เห็นรอยยิ้มที่บูดเบี้ยว “ว่าแต่ …ทำไมฉันต้องช่วยคุณ ”

เธออยากหลบหนีไปจากเขาจนแย่แล้ว เรื่องอะไรจะต้องช่วยเขา?

แววตาของภวินท์นั้นลุ่มลึกจนยากจะหยั่งถึง เขาหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวเสียงเบา “เพราะว่ามีเพียงผมเท่านั้นที่จะคืนความบริสุทธิ์ให้คุณได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์