ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 267

ญาธิดาตกใจเล็กน้อย ไม่มีกิริยาตอบโต้ ธีทัตได้เดินมาตรงหน้าเธอแล้ว ขมวดคิ้ว จ้องมองแผลที่ขมับ

“ คุณเป็นอะไร ทำไมถึงเกิดบาดแผล”

ญาธิดารีบปฏิเสธ ปิดบังไม่แนบเนียน พูดเบาๆว่า “ ไม่มีอะไร ซุ่มซ่ามเองค่ะ”

ธีทัตไม่เชื่อตามนั้น ยื่นมือไปจับเธอ ดึงเธอไปด้านนอกโรงพยาบาลทันที

ญาธิดาตื่นตระหนกเล็กน้อย “ คุณทัต.....คุณจะทำอะไร”

ธีทัตถามอย่างใจเย็นว่า “ หรือว่าคุณอยากให้คุณลุงคุณป้าเห็นคุณในสภาพนี้ใช่ไหม”

เพียงประโยคเดียว ทำให้ญาธิดาหายจากอาการง่วงนอนทันที

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ นิ่งไปชั่วครู่ เงยหน้ามองธีทัต พูดเบาๆว่า “นาย.....นายอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

ธีทัตก้มมองเธอ แสดงน้ำเสียงอบอุ่น พูดเบาๆว่า “ ผมเพิ่งจะไปเยี่ยมคุณลุงคุณป้า พวกเขาดีขึ้นเยอะเลย คุณไม่ต้องกังวล ช่วงนี้คุณอย่าเพิ่งไปเลยดีกว่า รักษาแผลก่อน ส่วนคุณลุงคุณป้าผมจะมาเยี่ยมบ่อยๆ ถ้ามีอะไรผมจะบอกคุณแน่นอน”

ญาธิดารู้สึกอุ่นใจขึ้นบ้าง พยักหน้าโดยไม่ทันรู้ตัว เธอเงยหน้าขึ้น ขอบคุณด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ “ ขอบคุณมากเลยนะคะ ”

ชายหนุ่มที่สะท้อนกับแสงอาทิตย์ เค้าโครงหน้าดูไม่ชัด แต่กลับไม่บดบังใบหน้าที่อบอุ่นและรอยยิ้มอ่อนๆที่มุมปาก เขายกมือขึ้นค่อยๆขยี้ที่ศีรษะของเธอ “ เพื่อนกันทั้งนั้น จะขอบคุณอะไร”

ญาธิดาได้ยิ้มกับเขา พูดเบาๆว่า “ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ เปลี่ยนเป็นการเลี้ยงข้าวคุณโอเคไหม”

ชายหนุ่มกระตุกมุมปาก ยิ้มสดใสออกมา เพียงไม่กี่วินาที สีหน้าดูเศร้าทันที “ ถ้าเห็นว่าผมเป็นเพื่อนจริงๆ ก็ไม่ควรจะปิดบังผมนะ ”

เมื่อญาธิดาเห็นเป็นเช่นนั้น จู่ๆ รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ขยับริมฝีปาก แต่ก็ไม่ได้รู้จะเริ่มพูดยังไง

เมื่อจับได้ว่าหญิงสาวมีสีหน้าที่รู้สึกลำบากใจ ธีทัตขยับริมฝีปาก ทำเสียงสูง “ ช่างเหอะ ไปกันเถอะ ไม่ใช่พูดว่าจะเลี้ยงข้าวผมเหรอ”

ญาธิดาเงยหน้ามอง เมื่อเห็นเขามีรอยยิ้มเป็นปกติก็ยิ้มตาม “ไปเถอะ”

สองคนเดินห่างๆกันออกไป อีกด้านหนึ่งของประตูทางเข้า พายุที่ยืนอยู่ตรงนั้น แววตาดูหนักแน่น

เรื่องนี้ ต้องรายงานตามความเป็นจริงกับคุณภวินท์แล้ว

ภายในห้องทำงานสำนักงานCEO

“ธีทัตเหรอ”

ภวินท์นั่งอยู่หน้าโต๊ะ คิ้วชนกันแน่น สายตาแสดงถึงความไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่

“ ใช่ครับ หลังจากนั้นพวกเขาก็ไปกินข้าวมื้อเที่ยงด้วยกัน และธีทัตก็ไปส่งคุณญาธิดากลับที่พัก”

มือของภวินท์ตั้งอยู่ที่โต๊ะได้กำแน่นโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกส่วนหนึ่งที่อธิบายไม่ชัดเจนได้ติดอยู่ในใจ

คิดไม่ถึง ญาธิดาที่ยังดูดีมีเสน่ห์ ไม่คิดว่าพอไปโรงพยาบาลยังได้เจอกับชายหนุ่มที่ตามจีบเธอ

เมื่อเห็นภวินท์มีสีหน้าไม่ค่อยดี พายุรายงานต่ออีกว่า “ แล้วก็ คุณญาธิดาได้ขอลาครึ่งบ่ายนะครับ”

ภวินท์ได้ทิ้งท้ายอย่างเย็นชาว่า “ ช่างหล่อนเถอะ”

เนื่องจากได้รับบาดเจ็บในขณะปฏิบัติงาน ก็สมควรแล้วต้องพักสักครึ่งวันบ่าย เพียงแค่นึกถึงเธอออกไปกินข้าวกับผู้ชายคนอื่น จิตใจเขาก็วุ่นวายขึ้นทันที

เขายกมือขึ้นมากดหว่างคิ้ว เขาพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง “ รายงานกำหนดการของช่วงบ่ายและช่วงกลางคืนมาหน่อย”

“ ครับ ตอนบ่ายมีรับรองแขกต่างชาติหนึ่งท่าน กลางคืนมีงานเลี้ยงหนึ่งงาน...........”

ในขณะที่ฟังพายุรายงาน ภวินท์ไม่มีสมาธิ ร่างญาธิดาที่มีเลือดสดไหลเต็มศีรษะก็วกไปวนมาอยู่ในหัว สุดท้าย เขายกมือขึ้นมาขยับเนกไทด้วยอารมณ์หงุดหงิด “ พอละ ลงไปก่อนเถอะ”

พายุรับคำและเดินออกไป หลังจากที่ประตูปิด ทุกอย่างถึงสงบเหมือนเดิม

เขาเอนกายพิงไปด้านหลัง ถามหาความรู้สึกที่เอาแต่ใจตัวเอง หลับตาลง ทำใจให้สงบ

ดูเหมือนว่า ช่วงนี้เขาสนใจเรื่องที่เกี่ยวกับญาธิดามากขึ้นทุกวัน

เขาขมวดคิ้ว นี่ไม่ใช่เป็นสัญญาณที่ดี

เวลาสามทุ่ม เสร็จจากงานเลี้ยง ภวินท์ออกมาจากห้องอาหาร สูดอากาศเย็นๆ ยังไม่อยากกลับบ้านพักเลย

เรื่องส่วนตัว

ภวินท์เม้มริมฝีปาก หน้าตาเต็มไปด้วยความเย็นชา “ เรื่องส่วนตัวอะไรละ”

ธีทัตถามแบบไม่เกรงกลัว ขยับริมฝีปากพูดว่า “ เกี่ยวกับญาธิดา”

ภวินท์ไม่พูดอะไร รอให้เขาพูดต่อไป

“ ฉันรู้ว่าคุณภวินท์กับญาธิดาเคยใช้ชีวิตด้วยกัน เรื่องที่เคยผ่านไปแล้วก็ช่างมันเถอะ ฉันก็แค่อยากจะเตือนคุณภวินท์สักหน่อย ธิดาเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ฉันในฐานะเป็นเพื่อนของหล่อน ไม่อยากเห็นหล่อนต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง และไม่อยากเห็นหล่อนต้องเจ็บตัวเพราะสาเหตุนี้”

ภวินท์ถามกลับด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “ ดังนั้น นายหมายความว่ายังไง”

ธีทัตพูดแบบสุขุมเยือกเย็นว่า “ คุณภวินท์ฉลาดแบบนี้ คงจะเข้าใจดีอยู่แล้ว”

ภวินท์มองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า แต่ก็ไม่พูดอะไร แม้แต่กิริยาท่าทางอื่นๆยังไม่ขยับเลย แต่ทว่าเพียงพริบตาเดียวก็แสดงออกถึงความเยือกเย็นที่แผ่ไปทั่วร่างกาย ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว

ความคิดของธีทัตจะยังไงเขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เขาก็กำลังเตือนเขาแสดงถึงสถานะของตัวเอง ไม่ควรจะไปเกี่ยวพันกับญาธิดามากกว่านี้ การเตือนแบบนี้ ดูเหมือนกับว่าจุดยืนของแฟนหนุ่มญาธิดาพูดออกมาเป็นเรื่องปกติ

เขากำลังยั่วยุ ความยั่วยุที่เปล่งประกาย

ภวินท์เดินมาข้างหน้าครึ่งก้าว ประชิดเขา กระตุกมุมปาก “ ไม่รู้ว่าคุณธีทัตจะเตือนฉันในฐานะอะไรเหรอ”

ธีทัตขมวดคิ้ว ยังคงไม่พูดอะไร

ภวินท์ขยับปาก มีเสียงที่เยือกเย็นดังขึ้นมา “ เพื่อนของญาธิดางั้นเหรอ แต่ทว่า ความสัมพันธ์ของฉันกับญาธิดาดูจะแน่นแฟ้นกว่านายที่เป็นเพื่อนคนนี้เยอะเลย”

ธีทัตถึงกับหน้าถอดสี ทนไม่ได้ เขาขมวดคิ้ว “ สนิทกันมากไหม ไม่เห็นว่าคุณจะอยู่ดูแลหล่อนตอนที่หล่อนได้รับบาดเจ็บเลยนี่”

วันนี้หลังจากที่เขาส่งญาธิดากลับแล้ว ก็รีบส่งคนไปสืบถึงสาเหตุที่ญาธิดาได้รับบาดเจ็บทันที หลังจากทุกอย่างชัดเจนแล้ว เขาก็อดที่จะโมโหไม่ได้ และได้สะกดรอยตามภวินท์ มาหาที่นี่โดยตรง

ธีทัตยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ โมโหจนขาดสติ จึงพูดออกมาว่า “ หล่อนเพียงแต่เป็นอดีตภรรยาที่โดนนายทิ้ง และยังเทียบอะไรไม่ได้กับพ่อตาในอนาคตของนาย ใช่ไหมคุณภวินท์ ”

ได้ยินดังนั้น ภวินท์มีสายตาเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด จู่ ๆก็ยื่นมือไปคว้าปกเสื้อของธีทัตไว้แน่น ด้วยความโกรธที่เกรี้ยวกราด “นายพูดอะไรนะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์