ผู้บริหารที่ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีคลาวด์บ่อยๆ ไม่เคยมีใครเห็นธีทัตพาผู้หญิงออกมาเที่ยวด้วยเลย จู่ๆวันนี้ก็มีผู้หญิงมาอยู่ข้างกายเขา แถมยังดูรักกันมากอีกด้วย เป็นภาพที่เห็นได้ยากจริงๆ
ที่แปลกคือไม่มีใครถาม และธีทัตไม่คิดจะบอกอะไร ก็เป็นไปแบบนี้ ทุกคนกินและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้
ผู้บิหารอีกหลายคนก็มีผู้หญิงอยู่ด้วย สวยสาวกันทุกๆคน แต่แต่งหน้าจัด ไม่มีใครรู้ว่าผู้หญิงเหล่านั้นมีหน้าตาที่แท้จริงยังไงภายใต้ใบหน้าที่แดงก่ำ เมื่อเทียบกันดูแล้ว ญาธิดาดูพิเศษไปกว่าพวกนั้น
ใบหน้าของเธอชัดเจน ผิวของเธอเปล่งประกายอย่างมีสุขภาพ ผิวของเธอเรียบเนียน แต่งหน้าบางเบา แสดงให้เห็นถึงเครื่องหน้าอันสวยงาม ให้ความรู้สึกสง่างามซึ่งแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด
มีกุ้งล็อบสเตอร์ตามฤดูกาลเสิร์ฟขึ้นมา กลิ่นหอมเตะจมูก ธีทัตหันไปถามญาธิดาสองสามคำ แล้วก็หยิบตะเกียบขึ้นด้วยรอยยิ้มหยิบกุ้งล็อบสเตอร์สองสามตัวลงในจานตรงหน้าเขา สวมถุงมือ แล้วปอกเปลือกกุ้งอย่างสง่างาม
เปลือกกุ้งแข็งมาก ต้องดึงหัวออก ต้องใช้เทคนิคนิดนึงในการดึงเนื้อส่วนหางของกุ้งออกให้หมด เขาปอกอยู่นานกว่าจะปอกกุ้งไม่กี่ตัวนั้นหมด แล้วก็เอาไปวางในจานของญาธิดา พูดเบา ๆ ว่า “ลองดูสิ กุ้งของร้านนี้อร่อยนะ”
ญาธิดาอบอุ่นหัวใจขึ้นมา ยิ้มให้เขา แล้วก็เอื้อมมือหยิบตะเกียบขึ้นมาชิม น่าจะไม่ได้สังเกตสีหน้าของผู้หญิงคนอื่นๆบนโต๊ะเลย
รอบกายพวกเธอก็มีผู้ชายอยู่บ้าง แต่ไม่มีใครคิดจะปอกกุ้งให้เหมือนที่ธีทัตทำ ในตอนนั้น พวกเธอมองดูญาธิดา ก็รู้สึกไม่ชอบขี้หน้า ในแววตาแสดงความไม่พอใจ
ผู้หญิงคนหนึ่งเงยหน้าขึ้นด้วยสายตาเหยียด เหลือบมองเธอ จากนั้นจึงหยิบกุ้งขึ้นมา ปอกเปลือกมันช้าๆ จุ่มลงในซอส แล้วเอื้อมมือออกไปที่ปากของชายที่อยู่ข้างๆ เธอป้อนเขาพลางยิ้มให้ “คุณวิศ ลองชิมดูสิคะ กุ้งที่ฉันปอกจะอร่อยกว่าไหม”
เธอพูดแบบนั้นโดยไม่สนใจคนข้างๆเลย แม้เสียงจะไม่ดังแต่ก็ชัดเจนพอให้คนทั้งโต๊ะได้ยิน มีน้ำเสียงออดอ้อน แฝงไปด้วยความหมาย
คนอื่นๆ หัวเราะขึ้นทันที ทุกคนมองไปที่คนที่ถูกเรียกว่าคุณวิศและพูดติดตลกกับเขาว่า “คุณวิศเจ๋งนี่! ธิชาของคุณแสดงได้หลายบทบาทเลยนะ!”
คุณวิศหัวเราะ เหลือบมองผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เขา อ้าปากแล้วคาบกุ้ง จงใจกัดโดนนิ้วที่ป้อนกุ้งมาให้เขาด้วย
ทันใดนั้น เสียงหัวเราะก็ดังระงม
เป็นเพราะว่าได้ความสนใจจากทุกคน ธิชาก็ยักคิ้วแสดงความได้ใจเล็กน้อย เธอเหลือบมองดูญาธิดา ยกคางขึ้นอย่างดูถูก แล้วเอื้อมมือไปเกี่ยวแขนของคนที่อยู่ข้างๆ เธอพูดเสียงออดอ้อน “คุณวิศของฉันเนี่ย เรื่องอื่นไม่ต้องพูดเลย ที่แน่ๆก็คือใส่ใจฉัน”
ตอนนั้นเอง ผู้หญิงข้างๆอีกคนก็หัวเราะพลางพูด “ธิชา คาร์เทียร์ที่อยู่บนมือของเธอเป็นรุ่นลิมิเต็ดรุ่นใหม่ใช่ไหม! ได้ยินว่าเมืองJมีแค่อันเดียวนี่ เธอได้มาได้ยังไง คุณวิศซื้อให้หรอ”
ธิชาหัวเราะเบา ๆ หันไปมองคุณวิศข้างๆ แล้วพูดว่า “ก็ต้องเป็นคุณวิศซื้อให้อยู่แล้วสิ! ถ้าเธออยากได้ ครั้งหน้าถ้าออกใหม่ก็ให้เสี่ยรีบซื้อสิ มัวชักช้าอยู่แบบนี้ ไม่ได้นะ!”
มีคนใช้โอกาสนี้พูดต่อ “ไม่ได้เหรอ ไม่ได้ได้ยังไงกัน ผู้ชายห้ามบอกว่าไม่ได้นะ!”
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นอีก
ญาธิดานั่งอยู่บนเก้าอี้ ฟังพวกเขาคุยโวโอ้อวดพูดเรื่องนู้นเรื่องนี่ คิ้วของเธอก็ขมวดลง แต่เพราะว่าทุกคนทำธุรกิจกับธีทัต เธอจึงไม่พูดอะไร
ธีทัตจิบไวน์แดง หันหน้ามองเธอ และดูเหมือนจะสังเกตเห็นท่าทีแปลก ๆของเธอได้แล้ว เขาหันหน้าไป เอื้อมมือไปจับมือเธอเบา ๆ แล้วยิ้มให้เธอแสดงความปลอบโยน
ญาธิดาก็ยิ้มกลับ ใจถึงจะสงบลงได้เล็กน้อย
ไม่นาน ถือโอกาสตอนที่เหมาะสม ภวินท์หยิบแก้วไวน์ขึ้นมาพูด “ทุกท่านครับ เรามาชนกันอีกสักแก้ว แล้วไปออกกำลังกายกันดีไหม”
ต้องรู้ว่า จุดประสงค์ของการมาสนามกอล์ฟวันนี้ คือการตีกอล์ฟ ไม่ใช่มาเพื่อกินกุ้งพลางเม้ามอย ทุกคนได้ยินแบบนั้น ต่างก็นึกขึ้นได้ ยกแก้วขึ้นอย่างรวดเร็ว ชนแก้วกัน แล้วจะลงไปเล่นกอล์ฟกัน
พอได้ยินเธอพูด ธิชาก็พูดเย้ย “เธอชื่อธิดา ฉันชื่อธิชา บังเอิญจังนะ...”
แล้วเธอก็เงยคางขึ้นมองญาธิดาแล้วถาม “เธออยู่กับคุณธีทัตมานานเท่าไหร่แล้ว”
ญาธิดาตกใจเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร “อะไรนะ”
ธิชาอ้าแขนกอดอก “ฉันไม่เคยเห็นเธอมาก่อน เธอน่าจะเป็นคนโปรดคนใหม่ของคุณธีทัตใช่ไหมล่ะ”
ญาธิดานิ่งไป มองเธอนิ่งๆ จากนั้นก็ตระหนักว่าคำพูดของเธอหมายถึงอะไร
เมื่อกี้นี้ เธอก็รู้สึกว่าผู้หญิงที่อยู่กับประธานคนอื่นๆดูแปลกๆ พอคิดได้แบบนี้ก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว
ผู้หญิงเหล่านี้ไม่ใช่บ้านหลักของเสี่ยพวกนั้น แต่เป็นเมียน้อยบ้านเล็ก เพราะงั้นธิชาถึงถามเธอแบบนั้น คิดว่าเธอเป็นเมียน้อยของธีทัตด้วย...
เมื่อเห็นว่าญาธิดาไม่พูดอะไรอยู่นาน ธิชาก็ยิ้มเยาะด้วยสีหน้าดูถูกเล็กน้อย “ไม่อยากจะพูดเหรอ เป็นอะไรไป! ก็เหมือนๆกันหมดปะ อย่าแสร้งทำตัวสูงส่งไปหน่อยเลย...”
ญาธิดาค่อยๆได้สติกลับมา เงยหน้ามองไปที่เธอ พูดเบาๆ “ความสัมพันธ์ของฉันกับเขาไม่ใช่แบบที่เธอคิด”
ได้ยินเธอพูดแบบนั้น ธิชาก็ทำหน้าแปลกใจขึ้นทันที “แม่เจ้า เพื่อนๆจ๋าได้ยินกันไหม”
พูดพลาง เธอก็หันไปมองญาธิดาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงริษยาว่า “น้องคนนี้ ฉันไม่ได้จะว่านะ แต่เธอตอแหลเก่งมาก ถ้าเธอไม่ได้เป็นเมียน้อยคุณธีทัต แล้วจะเป็นอะไรได้ แค่แอบลักกินขโมยกินกันหรอ คุณธีทัตน่ะเขามีครอบครัวแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...