ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 66

พูดคำนี้ออกไปปุ๊บ ญาธิดาก็เสียใจจนอยากกัดลิ้นตัวเองทิ้งไปเลย

คำนี้ฟังยังไงก็เหมือนกับว่ามีอะไรในกอไผ่ เหมือนกับว่าเธอต้องการคลอดลูกให้กับเขา

ภวินท์หยุดท่าทาง และเงยหน้ามองไปที่เธอ “ได้หมด”

ญาธิดาแก้มแดงๆ พยักหน้าด้วยความตื่นเต้น และไม่ขอพูดเรื่องนี้อีกต่อไป

มาถึงที่โรงพยาบาล ภวินท์เอาบัตรคิวให้กับญาธิดา จากนั้นไปตรวจเป็นเพื่อนเธอ

ไปทุกๆแผนกรอบนึง เวลาได้ผ่านไปสองชั่วโมงกว่าๆโดยไม่รู้ตัว

ระหว่างรอผลตรวจ ญาธิดากระหายน้ำเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมามองดูรอบๆ แล้วตามหาที่ที่มีน้ำดื่ม

ภวินท์ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ถือบิลเอาไว้ในมือตั้งหลายใบ เห็นเธอมองดูรอบๆ จึงเอ่ยปากถามว่า “มีอะไรหรือ”

ญาธิดาตอบไปตามความเป็นจริง “หิวน้ำนิดหน่อย……”

ภวินท์ได้ยิน ไม่พูดมาก กดไหล่เธอไว้และให้เธอนั่งลงไป “คุณรอผมที่นี่นะ ผมไปเอาน้ำอุ่นมาให้คุณ”

ญาธิดาพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง และส่งเขาจากไปด้วยสายตา

หญิงสาววัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างๆเห็นเข้า อดที่จะเอ่ยปากถามไม่ได้ว่า “น้องคะ คนนั้นเป็นแฟนน้องหรือคะ?”

ญญาธิดายกมุมปากและทำเสียงเบาลง “เป็นสามีดิฉันเองค่ะ”

หญิงวัยกลางคนตกใจ “สามีน้องหรอ ดีกับน้องขนาดนี้ ทั้งหล่อทั้งสูง เป็นผู้ชายที่ดีคนนึงเลยทีเดียว ไม่เหมือนสามีพี่เลย แม้แต่โรงพยาบาลยังไม่ยอมมาเป็นเพื่อนฉันเลย”

ญาธิดาเงยหน้า มองดูข้างหลังที่สูงใหญ่ของภวินท์ หัวใจหวานชื่นมากๆ

ก่อนหน้านี้เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่านอกจากพ่อแม่แล้ว ก็ไม่มีใครรักและเอ็นดูเธออีกเลย แต่ตอนนี้ข้างกายมีเขาอีกคน ซึ่งถูกเขารักและเอ็นดู รู้สึกว่ามีความสุขมากเลยทีเดียว

ไม่นานนัก จู่ๆมือถือของญาธิดาก็ดังขึ้นมา เธอหยิบออกมาดูปุ๊บ เป็นคุณปภาวีโทรมานี่เอง

“ฮัลโลค่าแม่ มีอะไรหรือเปล่าคะ ”

“ไม่มีอะไร ไม่เจอลูกหลายวันแล้ว โทรมาถามดู”

ได้ยินคุณปภาวีพูดเช่นนี้  ญาธิดาตกอกตกใจ นึกถึงคำสั่งของเธอที่ให้ไว้เมื่อไม่นานมานี้

เป็นจริงซะด้วยสิ กลัวอะไรก็เจออย่างนั้น คุณปภาวีถามต่ออีกว่า “ลูกกับวินปรึกษากันไปถึงไหนแล้ว งานแต่งกะจะจัดเมื่อไหร่”

ญาธิดาหายใจเข้าลึกๆ และพูดด้วยเสียงเบาลงว่า “แม่คะ เขางานยุ่งมากเลยนะคะ เรื่องงานแต่งเกรงว่าคงต้องเลื่อนไปก่อนแล้วล่ะค่ะ……”

“งานยุ่งแค่ไหนก็ต้องไม่ลืมงานสำคัญสิลูก ลูกคนนี้เนี่ย แม่รู้เลยว่าเรื่องนี้ลูกจัดการไม่ได้” คุณปภาวีโกรธเล็กน้อย “งานแต่เรื่องใหญ่ลูกยังไม่ใส่ใจ…”

ญาธิดาฟังเธอตำหนิอยู่ข้างหูตัวเอง อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ “แม่คะ เรื่องนี้ไม่รีบร้อนหรอกค่ะ ตอนนี้หนูอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่พูดแล้วล่ะ แค่นี้นะคะ”

พูดอยู่ เธอยกมือกำลังจะวางสายไป

ก่อนวางสายหนึ่งวินาที เสียงของคุณปภาวีดังออกมาจากมือถือ “เดี๋ยวนะ ลูกทำอะไรที่โรงพยาบาล ลูกป่วยหรอ ”

“ไม่ใช่……”ญาธิดาหยุดท่าทาง วางมือถือไว้ที่ข้างหูอีกครั้ง “หนูมาตรวจสุขภาพค่ะ ”

“ตรวจสุขภาพ ลูกไม่สบายตรงไหน ”

“ไม่ใช่ค่ะ……”ญาธิดาอ้ำๆอึ้งๆ ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้ควรพูดอะไรแล้ว

อยู่ใต้การถามของคุณปภาวีอย่างไม่หยุดหย่อน เธอได้แต่พูดตามความเป็นจริงว่า “เมื่อวานหนูกลับไปเยี่ยมคุณย่าที่คฤหาสน์หลังเก่าของตระกูลสถิรานนท์พร้อมกับภวินท์ คุณย่าบอกว่าให้หนูเตรียมตพร้อมตั้งครรภ์ มอบยาบำรุงให้หนูตั้งเยอะ จากนั้นวันนี้เขาก็เลยพาหนูมาตรวจที่โรงพยาบาลเลย……”

ได้ยินเธอพูดแบบนี้ น้ำเสียงของคุณปภาวีอบอุ่นขึ้นมาทันที “ก็ถึงเวลาที่ควรตรวจแล้วล่ะ ในเมื่อลูกกับวินจดทะเบียนกันแล้ว ต้องการมีลูกก็ต้องเร่งเวลาแล้วแหละ คุณย่ารออุ้มหลาน พ่อกับแม่ก็รออุ้มหลานอยู่นะ”

ได้ยินคุณปภาวีพูดแบบนี้ ญาธิดาแก้มแดงก่ำเลยทีเดียว แต่ว่ากลับยกมุมปากขึ้นมาอย่างอดใจไม่ไหว เงยหน้าปุ๊บ เธอเห็นภวินท์เดินตรงมาทางนี้ รีบพูดว่า “พอแล้วคะแม่ หนูมีธุระค่ะ ขอวางสายก่อนนะคะ”

“ได้ๆ วันหลังลูกพาวินกลับมาทานข้าวที่บ้านนะลูก พ่อกับแม่รอพวกเธอกลับมานะ”

ถึงในรถปุ๊บ ก็มีคนหารือด้วยความตื่นเต้นว่า “lakeside manorนี้สนุกมากเลยนะ ได้ยินมาว่า คุณภวินท์ของเราอยากพัฒนาที่ดินละแวกนี้ เพราะฉะนั้นครั้งนี้จึงกำหนดสถานที่จัดกิจกรรมที่นี่”

“พัฒนารึเปล่าผมไม่สน ตอนนี้ฉันอยากเห็นคุณภวินท์ เมื่อกี้พวกคุณเห็นรึเปล่า คุณภวินท์ใส่ชุดลำลองสีกากี พระเจ้า หล่อสุดๆไปเลย”

“บ้าผู้ชาย”

อยู่ใต้ความสนุกสนาน บรรยากาศในรถคึกคักมากขึ้น

ทุกแผนกในบริษัทมีสาวๆหลายคนที่คิดเหลวไหลกับภวินท์ ยังไงซะเผชิญกับเจ้านายที่ทั้งหล่อและรวย ไม่มีสาวคนไหนสามารถต้านทานไหวหรอก

ญาธิดากับชมพู่นั่งอยู่แถวหน้ารถบัส สามารถได้ยินเสียงหัวเราะอย่างชัดเจนซึ่งดังมาจากข้างหลัง

พวกเขาพูดและหัวเราะอยู่ ไม่รู้ว่าใครพูดแทรกขึ้นมาคำนึงว่า“บ้าผู้ชายก็บ้าผู้ชายเถอะ อย่าถลำลงไปเชียวนะ ผู้ชายที่ชั้นเยี่ยมอย่างคุณคุณภวินท์เนี่ยจะชอบเราได้ไง พวกคุณได้ยินหรือยัง วันนี้ดาราสาวคนนั้นก็มาด้วยนะ แพรวาอ่ะ”

ทีแรกญาธิดายังง่วงนอนอยู่เลย หลังได้ยินชื่อนี้ปุ๊บ ความง่วงก็หายไปหมดสิ้นในพริบตาเดียว

แพรวา เป็นดาราตัวแทนที่เธอเห็นในงานนิทรรศการอัญมณีวันนั้น ช่วงนี้ดังมาก และเป็นดาราสาวตัวรอง

“อะไรนะ?เป็นแพรวาที่แสดงเรื่องspringคนนั้นน่ะหรอ?ช่วงนี้เธอดังมากเลยนะ”

“ใช่แล้ว เมื่อกี้ฉันเห็นเธอขึ้นไปในรถท่านประธานด้วยแหละ ช่างเหมาะสมอย่างกับกิ่งทองใบหยก”

“……”

ฟังทุกคนต่างพูดกันแบบไม่หยุดหย่อน ญาธิดาก็ไม่สบายใจขึ้นมา ไม่ใช่ว่าเธอเชื่อคำเล่าลือแบบนี้ง่ายๆหรอกนะ แต่ว่าในงานนิทรรศการครั้งก่อน เธอเห็นภวินท์กับแพรวาอยู่ด้วยกันอย่างกะหนุงกะหนิงแบบต่อหน้าต่อตา หัวใกล้ชิดกัน หูก็แนบชิดกันด้วย

ก็เป็นจริงอย่างที่ทุกคนว่าแหละ ช่างเหมาะสมอย่างกับกิ่งทองใบหยก

เธอกัดริมฝีปาก จับมือทั้งคู่แน่นๆด้วยความเศร้าโศกเล็กน้อย

คิดๆดูแบบนี้ เธอกับภวินท์ช่างไม่ค่อยเหมาะสมจริงๆ……

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์