ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 67

ชมพู่ที่อยู่ข้างๆ สังเกตเห็นอารมณ์ที่แปรปรวนของญาธิดา

รีบเข้ามาถามใกล้ว่า “เป็นอะไร พวกเขาเสียงดังเกินไปหรือ ”

ญาธิดาไม่รู้ว่าควรพูดยังไงดี ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ 

“เธอใส่หูฟังสิ นอนไปเลยก็ได้นะ ไม่นานเราก็ถึงแล้ว”

ญาธิดาพยักหน้า และใส่หูฟัง หลังขับเสียงข้างนอกออกไปถึงรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง

ฟังไปหลายเพลง เธอสบายใจขึ้นมาบ้างแล้ว และคิดออกแล้ว ไม่ว่าคนอื่นจะพูดยังไงก็ตาม ภวินท์ทำกับเธอยังไง เธอรู้ดีแก่ใจที่สุดแล้ว จะคิดมากเพราะคำพูดแค่ไม่กี่คำของคนอื่นไม่ได้เชียวนะ ช่างไม่ควรเลยจริงๆ

เร็วไวมาก รถบัสที่มาด้วยกันหลายคันขับเลี้ยวเข้าไป ก็ได้มาถึงสถานที่ที่กว้างขวางมากๆ ที่ไกลๆมีทะเลสาบแห่งนึง ส่วนlakeside manorทั้งสวน ล้อมรอบทะเลสาบตั้งครึ่งนึง

“เว้า สวยจังเลย”

ทุกคนตื่นเต้นกับวิวที่สวยงาม ตื่นเต้นจนอยากลงไปจากรถ ไม่มีเวลาไปเม้ามอยแล้ว

ญาธิดาเอาหูฟังออก หยิบข้าวของของตัวเอง แล้วลงจากรถพร้อมกับชมพู่

อากาศเย็นสบาย และสดใสมาก มาถึงสิ่งแวดล้อมแบบนี้ปุ๊บ ผ่อนคลายไปทั้งตัวโดยไม่รู้ตัว

คนในบริษัทลงจากรถ ไปจัดการเข้าอยู่ในโรงแรมก่อน รับการ์ดห้อง ค่อยจัดแจงกิจกรรมในภายหลัง

ญาธิดากับชมพู่ออกจากห้องนอนแล้วมารวมตัวกันที่ห้องโถง เห็นสีหน้าเพื่อนร่วมงานต่างไม่ค่อยดีนัก

เนื่องจากว่าพนักงานในบริษัทเยอะเกิน กิจกรรมพายเรือ และเก็บผลไม้ในสวน csนอกสถานแบบนี้ แต่ละแผนกต้องแยกย้ายกันไปจัดการ แบ่งแยกหลายแผนกเรียบร้อยแล้ว แผนกธุรการเรียงท้ายสุด แยกไปทำกิจกรรมบันเทิงในสถานที่

ทั้งแผนกพูดแบบถอดใจ แน่นอนว่าต้องบ่นๆบ้างแหละ

“เรื่องอะไรล่ะเรียงแผนกธุรการของเราอยู่ท้ายสุด นอกสถานที่ต่างแยกออกไปกันหมดแล้ว เราได้แต่อยู่แต่ในห้อง?”

“นั่นน่ะสิ ฉันเปลี่ยนเสื้อเรียบร้อยแล้วด้วย”

พี่แนนสีหน้าตึงเครียดและตบมือพูดขึ้นมาว่า“เอาล่ะ ทุกคนพูดน้อยๆหน่อย ใช่ว่าเราไม่ได้ร่วมซะหน่อย ทุกคนต่างสลับไปเล่นกัน เวลาพออยู่แล้ว พวกเธอยังบ่นอะไรนักหนา ”

พี่แนนพูดปุ๊บ ถึงระงับความโกรธของเพื่อนร่วมงานในแผนก

พิชญ์สินีเห็นเหตุการณ์ก็เอ่ยปากพูดว่า “มีคนคิดเกมสนุกๆออกมาหลายเกมเลยไม่ใช่หรือ?มาแล้วก็เล่นด้วยกันสิ”

พูดอยู่ บรรยากาศก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง ทุกคนก็ไม่ต้องเศร้าโศกกันแล้วนะ

คนที่วางแผนเกมเป็นต้องที่อัธยสัยดี เขาหัวเราะสองครั้ง เอ่ยปากพูดว่า “เกมแรกก็คือ ส่งไพ่ด้วยปากต่อปาก”

คำนี้ออกมาปุ๊บ ทุกคนต่างคึกคักกันเป็นแถว

ญาธิดาเบลอๆเล็กน้อย อ่านรายชื่อเกมอย่างละเอียดรอบนึง ถึงมีปฏิกิริยาตอบสนอง ที่แท้เป็นเกมฮิตส่งไพ่ด้วยปากในแอ๊ปแอ๊ปหนึ่ง ถ้าไม่ระวังไพ่ก็จะร่วงหล่น อุบัติเหตุก็จะเกิดขึ้น

ต้องตบมือด้วยความตื่นเต้น สั่งทุกคนนั่งเป็นวงล้อม ยังต้องให้ชายหญิงนั่งแยกกันอีกด้วย

ญาธิดานั่งอยู่ตรงนั้นอย่างไม่สบายใจ  ไม่รู้ว่าควรทำไง ข้างๆเธอทั้งสองข้างต่างเป็นผู้ชาย ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริงๆ แล้วจูบลงไปจริงๆจะทำไง

ขณะที่บรรยากาศคึกคัก คนข้างๆเอ่ยปากอย่างกะทันหันว่า “คุณภวินท์……”

ทุกคนได้ยิน มองไปตามเสียง เห็นภวินท์กำลังก้าวขาเดินตรงมาทางนี้จริงๆซะด้วยสิ ข้างหลังเขามีพายุตามหลังไว้ และยังมีเลขาหลายคนในสำนักงาน CEO

เขาใส่ชุดลำลองสีกากีทั้งชุด เผยรูปร่างที่เพอเฟคออกมา ทั้งตัวล้วนกระจายภาพลักษณ์ที่โดดเด่นออกมา

ญาธิดาหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง สายตาเคลื่อนไหวไปมาตามเขา

พี่แนนรีบเข้าไปต้อนรับทันที และพูดอย่างยิ้มแย้มว่า “คุณภวินท์คะ คุณมาได้ไงคะ ”

“คนในสำนักงานCEOของเราไม่มากนัก มาร่วมกับแผนกธุรการน่ะ”

ภวินท์มองดูทุกคนที่นั่งเป็นวงล้อม เอ่ยปากถามว่า “นี่กำลังเล่นเกมอยู่หรอ?”

ต้องพยักหน้า และหัวเราะ “คุณภวินท์ครับ เล่นกับพวกเราไหมครับ?”

ญาธิดานั่งอยู่ตรงข้าม ได้ยินเขาพูดเช่นนี้ปุ๊บ อบอุ่นใจขึ้นมาทันที

ดีที่มีเขาอยู่ มิเช่นนั้นเธอไม่รู้ควรทำยังไงจริงๆ

เสียใจอยู่แล้ว แต่ว่าที่ควรเล่นก็ต้องเล่น สองสามครั้งถัดมา เกมนี้สนุกพอแล้ว ก็ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นแล้ว ต้องก็เลยประกาศเกมที่สอง ขาเดียวกันและมือเดียวกัน

ทุกคนยังคงแบ่งธีม สองคนหนึ่งธีม มัดเขาทั้งคู่เอาไว้ด้วยกัน ดูว่าธีมไหนถึงปลายทางก่อน สามอันดับแรกมีรางวัล สามอันดับหลังมีการลงโทษ

ทุกคนแบ่งธีมเอาเอง โดยปกติแล้วคนที่สนิทกันล้วนอยู่ด้วยกัน ญาธิดามองดูรอบๆ ไม่เห็นร่างเงาของชมพู่ กลับมาหาอีกรอบ ถึงเห็นชมพู่กำลังถูกพิชญ์สินีจับเอาไว้ เพื่อนร่วมงานหญิงในแผนกต่างแบ่งธีมเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่เธอผู้หญิงคนเดียว หากเธออยากแบ่งธีม ได้แต่อยู่กับเลขาพวกนั้นแล้ว แต่ว่าหลังจากเกิดเรื่องนีราภาครั้งก่อน ตอนนี้ทีมเลขาเห็นเธออย่างกับเห็นผีเช่นนั้น

“ธิดา เอางี้ เราอยู่ธีมเดียวกันไหม”

เพื่อนร่วมงานชายแผนกเดียวกันส่งคำเชิญออกมา ญาธิดายิ้มแย้มและส่ายหน้าด้วยความเกรงใจ “ไม่ ไม่ล่ะ”

เห็นว่าเธอกำลังจะตกกระป๋องแล้ว จู่ๆ ร่างเงาที่สูงใหญ่ข้างๆได้ชิดเข้ามาใกล้ๆ “ผมอยู่ธีมเดียวกับคุณนะ”

ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย หูของญาธิดาดังขึ้นมาหนึ่งครั้ง เธอเงยหน้าปุ๊บ ก็เจอกับภวินท์ที่ยืนอยู่ข้างกายตัวเอง

“นี่……”

ไม่รอให้เธอพูดอะไร ภวินท์ก็หยิบเชือกสีแดงมาจากข้างๆแล้วก้มตัวมัดขาซ้ายของเขาและมัดขาขวาของญาธิดาเอาไว้ด้วยกัน

เพื่อนร่วมงานหญิงที่ข้างๆที่แบ่งธีมเรียบร้อยแล้วต่างหันมาทางนี้โดยไม่ได้นัดหมาย บ้างก็ตกใจบ้างก็ถอนหายใจ ยิ่งกว่านั้นคืออิจฉาริษยา

“พระเจ้า รู้แต่แรกฉันก็ไม่แบ่งธีมแล้ว”

“ใช่ล่ะสิ คุณภวินท์ช่างเป็นคนดีจริงๆ”

“เรื่องดีๆแบบนี้ทำไมถึงตกไปที่ญาธิดาได้ล่ะ ฉันเสียใจมากเลยอ่ะ”

เสียงต่างๆนานาดังขึ้นมา ญาธิดาก้มหน้าดูภวินท์ที่กำลังมัดเชือกอยู่ ชื่นอกชื่นใจสุดๆไปเลย

วินาทีนั้น ญาธิดารู้สึกจากใจจริงว่า ชาติก่อนตัวเองต้องทำบุญมามากแน่ๆเลย ถึงได้แต่งงานกับผู้ชายที่เพอเฟคขนาดนี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์