ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 719

ในห้องรับแขกของบ้านพัก เสียงบาดหูของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นไม่หยุด

ญาธิดายื่นผลไม้ที่ล้างเสร็จแล้วให้กับอีธานกับเอลล่า แล้วเช็ดคราบน้ำในมือให้แห้ง แล้วก็หันไปค้อนให้กับภวินท์ที่กำลังจัดการกับเอกสารอยู่

“เสียงมือถือดังขึ้นตั้งนานแล้ว ทำไมไม่รับสาย งานอะไรถึงสำคัญขนาดนั้น”เธอพูดขึ้น พลางยื่นมือถือไปให้ชายหนุ่ม

ภวินท์กวาดตามองสายที่โทรเข้ามาแวบหนึ่ง เอ่ยเสียงต่ำว่า “เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับขวัญตา คุณรับเถอะ”

หลังจากเธอได้รับอนุญาตแล้วก็เลื่อนหน้าจอรับสาย พร้อมกับเปิดโหมดลำโพง ยกมือถือขึ้นมาในตำแหน่งระหว่างเธอกับภวินท์

“คุณภวินท์ ช่วงสายวันนี้คุณธีทัตได้ไปที่บ้านพิลากุล พาตัวคุณขวัญตาที่เพิ่งกลับถึงบ้านออกไป จากนั้นทั้งสองคนไปซื้อของใช้ส่วนตัวที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนนี้กลับไปถึงบ้านกรเวชแล้วครับ”

ญาธิดาได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้วขึ้นมา ถามอย่างสงสัยว่า “ธีทัตจะซื้อของใช้ส่วนตัวไปทำไม”

“พวกเราไปสืบดูบันทึกรายการซื้อของซูเปอร์มาร์เก็ต ส่วนใหญ่เป็นของใช้ส่วนตัวที่เตรียมให้กับคุณขวัญตา ตอนนี้คุณธีทัตยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร ”

นิ้วมือที่กดอยู่บนแป้นพิมพ์ของภวินท์ชะงักลง จากนั้นก็ตบแป้นพิมพ์จนเกิดเสียงดังขึ้นมา “จับตาดูต่อไป เกิดปัญหาอะไรขึ้นให้รีบรายงานทันที”

ปลายสายรับคำแล้วกดวางสายทันที ยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไร เสียงมือถือก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง เธอกดรับสายอีกครั้ง และเปิดลำโพงให้เสียงดังขึ้น ในใจก็แอบบ่นเบาๆว่าอีกฝ่ายจะพูดให้จบทีเดียวไม่ได้หรือยังไง

ภวินท์กวาดตามองหน้าจอที่แสดงชื่อคนโทรเข้ามา อยากจะห้ามไม่ให้เธอรับสายแต่ก็ไม่ทันซะแล้ว เพิ่งจะกดรับสาย เสียงเย็นชาของหลุยส์ก็ดังขึ้นมาทันที “วิน สิงโตหนีไปแล้ว นายรีบมาที่นี่เดี๋ยวนี้เลย”

ตุ๊บ

ญาธิดาทำมือถือที่ถืออยู่หลุดมือตกลงไปที่พื้น เกิดเสียงดังขึ้น

“สิงโตถูกลงโทษตามกฎหมายแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมจึงหนีออกไปได้”ในใจของเธอมีความหนาวเหน็บที่บอกไม่ถูกผุดขึ้นมา รู้สึกเย็นเยือกตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แม้แต่น้ำเสียงที่พูดก็สั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด

ภวินท์ได้ยินก็รีบหยุดการเคลื่อนไหวของมือที่กำลังทำงานอยู่ โดยไม่คิดอะไรคว้าเสื้อคลุมแล้ววิ่งไปทางประตูในทันที

จนกระทั่งเงาร่างของเขากำลังจะหายลับตาแล้ว ญาธิดาจึงได้สติขึ้นมาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น รีบก้าวเท้าอย่างรวดเร็วตามเขาออกไป

ในเสี้ยววินาทีที่รถไมบัคถูกสตาร์ทขึ้น เธอเปิดประตูอีกฝั่งออก นั่งลงตรงที่นั่งข้างคนขับอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็รัดเข็มขัดนิรภัย

“รีบไปเถอะ”

“ลงไป”เสียงของภวินท์เย็นชามาก “นี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรเข้ามายุ่ง”

“คุณจะว่ายังไงก็ช่าง ฉันมีสิทธิ์ที่จะรู้เหมือนกัน”ญาธิดาได้ยินเสียงหัวใจของตนเองที่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งกระวนกระวายมากขึ้น พูดจบแล้วก็เร่งเร้าให้ภวินท์ออกรถทันที รวมไปถึงอลิสาที่ถูกมัดเอาไว้ราวกับข้าวต้มมัด

“อย่ามัวมาเสียเวลากับเรื่องเล็กๆพวกนี้เลย มีอะไรไว้ค่อยคุยกันระหว่างทาง”

ภวินท์เองก็รู้ดีว่ามีเวลาจำกัด จึงไม่โต้เถียงกับเธออีก เหยียบคันเร่งจนสุด มุ่งหน้าไปยังRambler Clubhouseอย่างรวดเร็ว

ในห้องส่วนตัวของคลับเฮาส์เต็มไปด้วยความกดดัน พวกเขาสองคนผลักประตูเข้าไปด้านใน ภาพที่มองเห็นคือสีหน้าที่ดูแย่มากของหลุยส์

“คุณหมอ!”สายตาของญาธิดามีแววสงสัยวาบขึ้นมา จากนั้นก็ก้าวเท้าเข้าไปหาอลิสา“หลุยส์ นายทำอะไร”

ระหว่างที่พูดเธอก็รีบยื่นมือออกไปช่วยแก้มัดให้กับอลิสาทันที หลุยส์รีบใช้มือขวางการเคลื่อนไหวของเธอเอาไว้ “นี่เป็นเรื่องระหว่างผมกับเธอ คุณอย่ายุ่งเลย”

“เรื่องนี้มันแน่นอนอยู่แล้ว”แววตาของภวินท์เปลี่ยนเป็นความเคียดแค้นทันควัน แต่เพียงชั่วพริบตาก็กลับมาสู่ความเคร่งขรึมที่ไม่อาจคาดเดาได้ จากนั้นก็ดึงตัวญาธิดาให้ลุกขึ้นพร้อมกัน“ฉันจะเตรียมการรับมือไว้อย่างดี ฉันจะรอข่าวจากนาย ”

เห็นว่าเขาจะไปแล้ว หลุยส์รีบลุกขึ้น “เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงธิดากับลูกทั้งสองคน นายคิดจะยืนดูเฉยๆจริงเหรอ“

“ไม่ว่าเรื่องอะไรในองค์กรจะไม่เข้าไปมีส่วนร่วมอีกแล้ว”เขาทิ้งคำพูดนี้เอาไว้ด้วยสีหน้าเย็นชา ดึงญาธิดาเดินจากไปทันที

หลุยส์อยากจะถอนหายใจ แต่คิดดูแล้วก็กล้ำกลืนเอาไว้ จากนั้นก็ดึงผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในปากของอลิสาออก “เวลาที่ผมคุยเรื่องงาน คุณอย่าพูดแทรก”

แม้ว่าท่าทางของอลิสาจะไม่น่าดูสักเท่าไหร่ แต่รอยยิ้มบนใบหน้ายังคงสดใสเหมือนเดิม กระทั่งแฝงแววเจ้าเล่ห์อยู่นิดๆ “ตอนนี้นายคงรู้สึกจนปัญญามากสินะ”

หลุยส์อดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่เธอ ข่มขู่เสียงเย็นว่า“อย่ามาสอดรู้สอดเห็นความในใจของผม”

“ขอโทษที อินกับอาชีพไปหน่อย”น้ำเสียงของเธอแฝงแววได้ใจ “ความคิดของคุณแค่นี้ใช้ตาเปล่าก็มองออกแล้ว ตอนที่ฉันมาถึงคุณก็โอบซ้ายกอดขวาอย่างเป็นธรรมชาติดี ที่จริงในใจนั้นว่างเปล่า ก็แค่เล่นสนุกไปเท่านั้นเอง”

หลุยส์รู้สึกโมโหขึ้นมา แต่กับเธอแล้วไม่ว่ายังไงก็ระบายอารมณ์ออกมาไม่ได้ สุดท้ายก็ได้แต่จำใจปล่อยให้ร่างกายที่เหนื่อยล้าของตนเองพิงไปกับโซฟา “ผมไม่สนุกกับเรื่องที่คุณพูดถึงอยู่”

“แล้วนายไม่อยากจะรู้เหรอว่าภวินท์เขาคิดอะไรอยู่”เธอแตะต้องขีดความอดทนสุดท้ายของเขาอีกครั้ง

หลุยส์ได้ยิน ก็รีบดีดตัวลุกขึ้นจากโซฟา รีบช่วยเธอแก้มัดออก จากนั้นก็ถามขึ้นว่า “บอกผม วินเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่”

เห็นแววตาจริงจังของเขา อลิสาก็เข้าใจแล้วว่าไม่สามารถใช้เรื่องนี้มาล้อเล่นได้ น้ำเสียงจึงจริงจังขึ้นอีกหลายส่วน

“เขามีสิ่งที่สำคัญกว่าต้องปกป้องดูแล ฉะนั้นจึงต้องเก็บความใจร้อนของตนเองเอาไว้ คนสำคัญที่จะทำให้เขาก้าวข้ามความคิดนั้นไปได้ก็คือญาธิดา นอกเสียจากว่าเธอจะเป็นคนเอ่ยปาก ไม่อย่างนั้นแม้นายจะเกลี้ยกล่อมให้ตาย เขาก็ไม่มีทางเห็นด้วยกับนายแน่”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์