ในร้านกาแฟ สายตาของภวินท์จ้องมองนพเก้าอย่างเฉยเมย ใบหน้ามองไม่ออกถึงความรู้สึก นพเก้ากลับก้มหน้าด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคอะเขิน
ถึงแม้ระหว่างเธอกับภวินท์จะเคยเกิดความคลางแคลงใจเล็กน้อย แต่นั่นก็เป็นเพราะเกิดจากญาธิดา ซึ่งไม่ได้ส่งผลต่อความรักที่เธอมีต่อภวินท์อย่างใด
เธอนั้นชอบภวินท์จริงๆ ชอบตั้งแต่เด็กแล้ว ถึงขั้นเจอเขาตอนครั้งแรก เธอก็ตัดสินใจว่าจะต้องอยู่กับภวินท์ให้ได้
หลังจากที่ออกจากองค์กรแล้ว เธอก็ได้รับความทุกข์ทรมานมากมาย บนร่างกายก็ขาดความเฉียบขาดและพละกำลังลงไปไม่น้อย แต่กลับเพิ่มความอ้อนแอ้นอ่อนแอของผู้หญิงมากขึ้น
เมื่อเห็นผู้ชายที่ปรากฏในความฝันนับครั้งไม่ถ้วนอีกครั้ง หัวใจของเธอก็แทบจะวิ่งออกจากหัวใจ ได้แต่บอกตัวเองว่าให้สงวนท่าทีเอาไว้
หลังจากออกจากองค์กรแล้ว ครั้งแรกของการพบกันของทั้งคู่ เธอจะต้องสร้างความประทับใจให้กับภวินท์ให้ได้ ดังนั้นวันนี้เธอจึงตั้งใจเลือกกระโปรงที่ที่มีโทนสีอ่อนหวาน เธอต้องการให้ตัวตนใหม่ของตัวเองแก่ภวินท์
“วิน เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในองค์กรนั้น โอกาสที่พวกเราจะเจอกันนั้นมีไม่มาก ตอนนี้พวกเรากลับมาใช้ชีวิตที่ปกติแล้ว ต่อไปพวกเราสามารถเจอกันได้บ่อยๆ แล้ว” เธอแอบมองภวินท์แวบหนึ่ง สีหน้าที่แดงก่ำยิ่งอยู่ยิ่งเห็นได้ชัด
ภวินท์กวาดสายตามองเธออย่างเย็นชา น้ำเสียงนอกจากความเฉยเมยแล้วก็เหลือเพียงความเหินห่าง “ไม่จำเป็น พวกเราไม่ได้สนิทกัน คุณแค่อยู่ให้ห่างจากธิดาก็พอ”
คำพูดของเขาราวกับน้ำเย็นหนึ่งกะละมังที่ราดลงมาที่ศีรษะ ฉับพลันได้ทำลายความเขินอายและความเป็นมิตรลงทันที
เธอตกใจมาก มองภวินท์อย่างตะลึงงัน สีหน้าค่อยๆ ปรากฏรอยยิ้มที่ขมขื่นออกมา “ฉันบอกว่าฉันไม่เคยลงมือกับญาธิดา คุณก็ยังไม่เชื่ออยู่ดีใช่ไหม”
“ผมเชื่อเพียงสายตาของผม” เขากล่าวตอบกลับอย่างเคร่งขรึม
นพเก้าเหลือบมองไปยังนอกหน้าต่างตลอดเวลา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความน้อยใจ “ระหว่างพวกเราจะต้องทะเลาะกันจนเป็นแบบนี้เหรอ ฉันยอมรับว่าเมื่อก่อนเคยทำผิด ฉันก็ได้รับการลงโทษแล้ว และฉันก็อวยพรคุณกับธิดาจากใจจริงๆ”
ขณะที่เธอพูด แสงแห่งความเย็นวาบได้แวบเข้ามาใต้ดวงตาฉับพลัน หางหาเหลือบมองเห็นร่างหนึ่งที่งดงามปรากฏขึ้นที่ฝั่งตรงข้ามของถนน
เมื่อมองหน้าต่างของร้านกาแฟ ร่างนั้นจู่ๆ ก็ชะงักหยุดขึ้น ราวกับไม่มีตั้งใจจะเดินหน้า
ภวินท์ที่อยู่ตรงหน้าเหลือบมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชา แล้วกล่าวเตือนเธอออกมาทีละคำ “ผมไม่ต้องการคำอวยพรจากคุณ หากว่าคุณไม่ต้องการที่จะหายไปจากโลกของธิดา ผมก็จะช่วยคุณเอง!”
“วิน……” ดวงตาของเธอแดงก่ำ กำนิ้วมือทั้งสิบไว้แน่น กล่าวอย่างสะอึกสะอื้น “ธิดาอาจจะไม่ได้โทษฉันก็ได้ ทำไมคุณถึงต้องยึดติดกับอดีตไม่ยอมปล่อยล่ะ”
ภวินท์ได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นอย่างสง่างาม สายตาเต็มไปด้วยการเตือน “การเจอกันของวันนี้สิ้นสุดลงแล้ว หวังว่าต่อไปคงจะไม่เห็นหน้าคุณอีก”
นพเก้าลุกขึ้นมาเขาติดๆ และในช่วงวินาทีที่เขาหันหลังนั้น จู่ๆ ก็กางแขนและโผเข้าไปที่อ้อมกอดของเขา
เธอดูดซับกลิ่นกายของภวินท์อย่างตะกละตะกลาม ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจาก
ได้ยินเพียงเสียงร้องไห้ทั้งน้ำตาของเธอ : "ขอเพียงแค่คุณบอกฉันก็ทำได้ทุกอย่าง ฉันจะอวยพรให้คุณกับธิดามีความสุขกันอย่างเงียบๆ และจะไม่รบกวนชีวิตของพวกคุณอีก”
ดวงตาของภวินท์ยิ่งอยู่ยิ่งเย็นยะเยือกขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่ทันยื่นมือผลักเธอออก เธอก็มีสติแล้วคลายเขาออก ความขมขื่นในดวงตาที่ปกปิดไม่มิด “ฉันรับรองว่าจะไม่ไปรบกวนชีวิตพวกคุณอีก คุณไปเถอะ”
สีหน้าภวินท์กลับสู่ความเฉยเมยเหมือนก่อนหน้านี้อีกครั้ง ก้าวเท้ายาวเดินออกจาร้านกาแฟไป สายตาของเขาเหลือบมองไปทางถนนที่อยู่ตรงข้าม เห็นร่างบอบบางที่คุ้นเคยหลบอยู่ด้านหลังต้นไม้ แต่ก็กลับทำเหมือนมองไม่เห็น
โทรศัพท์มีแสงกะพริบขึ้น ตอนที่หน้าจอสว่างขึ้นนั้น ข้อความที่ส่งมาจากอีธานได้สะท้อนเข้ามาในรูม่านตา “คุณแม่ออกไปแล้ว เป้าหมายเหมือนกับคุณพ่อ คิดว่าน่าจะเป็นแผนการของน้าเก้าคนนั้น”
คู่ดวงตาหรี่ลง แสงในดวงตามีเลศนัย
“ญาธิดา เธอกระหยิ่มใจได้ไม่นานหรอก เธอสามารถเจอฉันหนึ่งครั้งได้ ก็จะสามารถเจอฉันอีกนับครั้งไม่ถ้วนได้ โลกใบนี้ไม่มีแมวตัวใดที่ไม่เป็นตีนขโมย”
“และก็ไม่มีกำแพงที่กันอากาศได้……” ญาธิดาตอบกลับเบาๆ “อย่าพยายามวางแผนอีกเลย เธอกับวินรู้จักกันมาตั้งหลายปี หากว่ามีปัญญาจริงๆ ก็คงไม่มีตัวตนของฉันหรอก”
ความกระหยิ่มยิ้มย่องแข็งตัวอย่างสมบูรณ์บนใบหน้าของนพเก้า และค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ
เธอแทบอยากจะพุ่งกระโจนใส่แล้วฉีกผู้หญิงชั้นต่ำที่อยู่ตรงหน้านี้ให้แหลกละเอียดเป็นชิ้นๆ เธอจะต้องให้ญาธิดาลิ้มลองรสชาติของนรกบนดิน!
“คุณเก้า รบกวนทำความเข้าใจก่อน ฉันไม่ได้มาจับชู้ หรือมาดูฉากละคร ฉันแค่อยากจะมาฟังข้อมูลที่มีประโยชน์” ญาธิดาหรี่ตามองแก้วกาแฟ กล่าวเตือนอย่างเย็นชา
นพเก้าถึงได้นึกขึ้นได้ หัวข้อนี้ได้ดึงแนวโน้มของการเป็นต่อของเธอกลับมา
สีหน้าที่กระหยิ่มใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธออีกครั้ง เธอตอบกลับอย่างใจเย็น “ลืมบอกเธอไป อีธานกับเอลล่าถูกพนักงานของฉันพาตัวไป”
“เธอพูดว่าอะไรนะ!” ญาธิดาดวงตาหม่นลงทันที และเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งนั้นคู่ดวงตาก็ปกคลุมด้วยชั้นความเย็นยะเยือกแล้ว “วันนี้เป็นเธอที่ให้คนพาอีธานกับเอลล่าไปเหรอ”
นพเก้าเลิกคิ้ว กดเสียงต่ำแล้วตอบกลับ “ฉันแค่ไร้เดียงสาส่งข้อมูลไปให้กับเธอ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาของเธอเท่านั้น”
ถึงอย่างไรตอนนี้แตงโมก็ถูกเปิดเผยตัวตนแล้ว เธอหลอกล่ออีธานกับเอลล่าไม่ช้าก็เร็วก็จะถูกสืบเจอ เรื่องที่ปิดบังไม่ได้บอกญาธิดาไปก็ไม่เป็นไร แต่เธอก็ไม่ยอมทิ้งพิรุธให้กับญาธิดาอย่างง่ายๆ แน่นอน
“นพเก้า เรื่องทั้งหมดก่อนหน้านี้ก็เป็นฝีมือเธอ!” ญาธิดาอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงให้ดังขึ้้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...