สายตาของนิธิศเย็นชาเล็กน้อย พลางรับนามบัตรที่เธอยื่นมา หลังจากที่ปรายตามองก็โยนมันลงด้านข้าง “อย่างคุณจะมาร่วมมือกับผมได้เหรอ?”
รอยยิ้มบนหน้าของนพเก้าร้ายมากขึ้นแทนที่จะลดลง
เธอก้าวเดินช้าๆ มาข้างเขา มือเล็กไต่อยู่บนตัวเขาอย่างซุกซน เธอแสร้งทำน้ำเสียงหงุดหงิด แล้วตอบเสียงหวานว่า “ทำไมทุกคนถึงได้พูดกับฉันด้วยคำพูดแบบนี้คะ ที่ฉันสามารถติดต่อคุณก่อน แสดงให้เห็นว่าฉันก็มีความสามารถระดับหนึ่ง”
“ลองพูดจุดประสงค์ของคุณมา เผื่อผมอาจจะพิจรณาที่จะร่วมมือกับคุณ” นิธิศตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา เขาแอบคิดในใจ ขอแค่ได้ญาธิดามา ถึงแม้เขาจะต้องทิ้งต้นกล้า เขาก็เต็มใจที่จะทำ
ขอแค่ได้ตัวธิดามา ไม่ว่าอะไรเขาก็สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้เช่นกัน!
เหมือนว่านพเก้าจะพอใจกับประโยคที่เขาพูดมาเป็นอย่างมาก เธอหยุดมือของเธอลง ก่อนที่จะเก็บสีหน้ารอยยิ้มสดใสเมื่อสักครู่กลับไป
“คุณนิดคะ ฉันชอบการร่วมงานกับคนฉลาด เป้าหมายของฉันไม่ได้ต่างจากคุณมากค่ะ ฉันก็แค่อยากได้ตัวภวินท์ ตราบใดที่เราสองคนร่วมมือกันเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ เราก็จะบรรลุเป้าหมายได้แน่นอนค่ะ”
นิธิศเลิกคิ้ว เริ่มรู้สึกสนใจแผนการของเธอมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ส่งสายตาให้เธอพูดต่อ “ผมสงสัยมากว่าขั้นตอนแรกของแผนคุณคืออะไร”
ความเกลียดชังประกายในดวงตาของนพเก้า เธอกัดฟันแล้วตอบว่า “ก็ต้องเป็นไอ้เด็กนอกคอกสองคนนั้นน่ะสิคะ!”
“คุณเป็นพาร์ทเนอร์ที่ไม่แย่” นิธิศชื่นชมด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ
ทั้งสองมีเป้าหมายที่เหมือนกัน สายตาเต็มไปด้วยความน่ารังเกียจพร้อมที่จะกำจัดทุกอย่างที่ขวางทาง และแน่นอนว่าทั้งสองยินดีที่จะร่วมมือกัน ขั้นตอนแรกก็คือหาวิธีกำจัดโซ่ทองคล้องใจของญาธิดาและภวินท์
“เด็กคนนั้นที่ชื่ออีธานฉลาดมากเลยนะคะ ต้องหาวิธีมาจัดการให้ได้ ไม่อย่างนั้นไม่เร็วก็ช้าเขาต้องเป็นตัวปัญหาใหญ่หลักๆ ของพวกเราแน่ๆ ค่ะ!” นพเก้าพูดเตือนด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
นิธิศไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นถูกต้อง จากนั้นก็กดน้ำเสียงให้ต่ำลงและเตือนว่า “แค่กำจัดเด็กสองคนนั้นไม่พอหรอกมั้ง”
สายตาที่เยือกเย็นฉายขึ้นในตาของนพเก้า น้ำเสียงแฝงไปด้วยความคาดหวังเล็กน้อย “หรือว่าคุณนิดมีวิธีที่ดีกว่านี้คะ?”
“พวกมันยังมีผลประโยชน์ให้ใช้......” น้ำเสียงแหบพร่าของเขาดังขึ้นช้าๆ “ผมจะใช้เด็กสองคนนี้เป็นตัวเร่งให้ธิดาและภวินท์เลิกกัน”
ขณะที่เขาพูด เขาพลางยื่นเอกสารที่เตรียมเอาไว้ให้กับนพเก้า “เพียงแค่คุณทำตามขั้นตอนในนั้น เรื่องหย่าของพวกเขาคงจะเกิดขึ้นในไม่ช้า”
“คุณคิดจะยืมดาบฆ่าคน?” นพเก้ามองเนื้อหาบนเอกสารแล้วสูดหายใจอย่างช่วยอะไรไม่ได้ “ถ้าแผนการไม่สำเร็จ คุณก็จะสามารถถอยออกได้ แต่ดูเหมือนฉันจะขาดทุนนะคะ”
“ถ้าคุณไม่อยากทำ งั้นผมก็จะลงมือเอง” ภายใต้น้ำเสียงที่เยือกเย็นของเขาแฝงไปด้วยการข่มขู่ “จะร่วมมือกับใครก็ต้องแสดงความจริงใจหน่อยสิ ไม่อย่างนั้นผมจะร่วมมือกับคุณเพื่ออะไร?”
“ฉันจะจัดการเรื่องนี้เองค่ะ แต่ไม่รับปากว่าจะสำเร็จนะคะ” นพเก้าที่ได้ยินเช่นนั้นก็กำเอกสารในมือไว้อย่างแน่น “ฉันขอเตือนนะคะว่าอย่าดูถูกไอ้เด็กนอกคอกสองคนนั้นนั่น ครูของพวกเขาไม่ใช่คนปกติทั่วไป ลูกศิษย์ของเขาก็ไม่ใช่เล่นๆ นะคะ”
เพราะคนอย่างozoneไม่เคยรับคคนที่ไม่มีความสามารถเป็นศิษย์อยู่แล้ว
“ก็แค่บททดสอบก่อนเริ่มงาน ไม่สำเร็จแล้วยังไง ผมแค่อยากเห็นความสามารถและความจริงใจของคุณ”
ขณะที่นิธิศพูด ก็ยกมือขึ้นเทเหล้าให้เธอหนึ่งแก้ว เสียงชนแก้วดังขึ้นระหว่างพวกเขาสองคน “ ขอฉลองให้กับการร่วมงานของเราล่วงหน้า”
เช้าวันรุ่งขึ้นที่อากาศสดใส อุณหภูมิภายในห้องที่ยังไม่จางหายไป แม้แต่อากาศที่ลอยอยู่นั้นก็คลุ้งเต็มไปด้วยกลิ่นของความรัก
ญาธิดาค่อยๆ โผล่หัวออกมาจากใต้ผ้าห่ม ดวงตาสดใสของเธอที่แอบแฝงความระมัดระวัง กวาดตามองไปรอบๆ ห้อง
เพียงไม่นานรถก็ขับมาถึงหน้าประตูSTN Group แม่ลูกทั้งสองเดินตรงดิ่งเข้าไปโดยไม่มีอะไรมาขัดขวาง อีธานเดินไปยังแผนกข้อมูลเครือข่ายเหมือนคนที่คุ้นชินกับทิศทาง ราวกับว่าก่อนหน้านี้เขาเคยมาที่นี่แล้ว
ตอนนี้แผนกข้อมูลเครือข่ายนั้นกำลังยุ่งวุ่นวาย พายุยืนอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งหมดกะพริบอยู่ตลอดเวลา รหัสสีฟ้าเขียวที่มองไม่ชัดขึ้นอยู่บนจออย่างแปลกประหลาด
สีหน้าของพนักงานทั้งแผนกต่างก็วิตกกังวล ราวกับว่าต่างก็หัวร้อนกันมาก
อีธานไม่มีเวลาที่พูดอะไรให้มากความ เขาเดินตรงไปที่ตำแหน่งหอควบคุม ก่อนจะปีนขึ้นไปบนเก้าอี้อย่างลำบากแล้วทำอะไรบางอย่างกับมัน ตามด้วยเหงื่อที่ออกมาเป็นเม็ดๆ บนหน้าผากของเขา ในที่สุดคอมพิวเตอร์ของแผนกข้อมูลเครือข่ายก็เลิกกะพริบ สีหน้าของทุกคนค่อยๆ ผ่อนปรน
ถึงแม้เขาจะเป็นแค่เด็ก แต่เขาก็ทำให้เห็นถึงสิ่งที่ความเป็นผู้นำควรจะมี
บวกกับสิ่งสำคัญที่เขาทำเมื่อสักครู่ ทำให้พนักงานที่อยู่ตรงนั้นนับถือเขาจากใจจริง ในขณะที่เขาสั่งให้ทุกคนจัดการปัญหาในขั้นต่อไปอย่างไม่รีบร้อน กระบวนการทั้งหมดจึงดำเนินไปอย่างมีระเบียบ
ญาธิดามองสถานการณ์ตรงหน้าอย่างตะลึง เธอใช้เวลาอยู่สักพักกว่าจะเรียกสติกลับมาได้ ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่พายุ“คุณพายุ เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ?”
เหงื่อที่เย็นยะเยือกบนหน้าผากของพายุค่อยๆ แห้ง และตอบด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “ไฟร์วอลล์ของบริษัทถูกแฮ็กด้วยเทคนิคขั้นสูง ฝั่งตรงข้ามต้องการขโมยเอกสารลับอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญมากของSTN Groupครับ”
ญาธิดาได้ยินเช่นนี้สีหน้าก็แย่ลง
แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจปัญหาเฉพาะทางของไฟร์วอลล์ แต่เธอพอจะรู้เรื่องเอกสารลับบ้าง
หากข้อมูลถูกเผยแพร่ออกไป ความเสียหายของSTN Groupคงไม่สามารถที่จะประเมินได้ อีกอย่างถ้าความลับพวกนี้ถูกเผยแพร่ในตลาด ก็จะเร่งให้บริษัทล่มสลายได้เพียงทางเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...