ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 806

“อย่าเพิ่งบู่มบ่าม ฉันจะรีบติดต่อองค์กรให้ไปรวมตัวกับพวกแกเร็วที่สุด ห้ามขาดการติดต่อเด็ดขาด จบการรายงาน” ภวินท์กำหมัดทั้งสองข้าง ข้อต่อค่อยๆ ซีดขึ้น ดวงตาของเขาเริ่มแดงก่ำ

“รอไม่ได้แล้ว......”

หลังจากที่เสียงสู้ที่ระเบิดออกมาอีกครั้ง หลุยส์ก็ได้ส่งเสียงมาอีกครั้ง “ฉันและทีมเอสล้อมรอบภายในได้แล้ว ฉันไม่แน่ใจว่าจะต้านทานได้นานแค่ไหน แกคิดแผนบีก่อนยังไม่ต้องสนใจพวกฉัน จบการรายงาน!”

สายตาของภวินท์หันไปทางอีธาน ก็เห็นว่าเขายกแล็ปท็อปขึ้นมาดำเนินงานแล้ว คิ้วที่ขมวดกันเป็นปมคลายออกเล็กน้อย

อีธานพยายามพูดด้วยเสียงเบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้ “ผมจะอยู่รายงานคุณพ่อที่นี่เองครับ เดี๋ยวผมรับผิดชอบส่งข้อความระหว่างองค์กรและozoneให้ครับ ผมทำได้แค่นี้ครับ”

แม้ว่าญาธิดาจะรู้ถึงความสาหัสของปัญหา แต่เธอไม่เคยมีประสบการณ์ในการต่อสู้แบบนี้มาก่อน เธอประหม่าจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง

เหมือนมีอะไรบางอย่างติดอยู่ในคอของเธอจนไม่กล้าพูดอะไร วินาทีนี้เธอฟุ้งซ่านถึงขั้นสงสัยว่าอีธานคือลูกแท้ๆ ของเธอหรือเปล่า ระหว่างแม่ลูกนั้นต่างกันได้ขนาดนี้เลยเหรอ!

หลุยส์ที่เหมือนจะได้ยินสิ่งอีธานพูด น้ำเสียงไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด แต่ในขณะที่เขาพูดนั้นก็ยังคงได้ยินเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “ภวินท์ อลิสาอยู่ในที่ปลอดภัย ถ้าฉันตกอยู่ในน้ำมือศัตรูด้านใน ช่วยฉันดูแลเธอให้ดีด้วย”

“ฉันรับปาก!” 

หลังจากที่ภวินท์ตอบด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม แล้วรีบโอนสายสื่อสารไปยังโทรศัพท์ แล้วรีบเดินไปทางประตูห้องทำงาน

ใบหน้าของญาธิดาเริ่มวิตกกังวล และขวางทางเดินเขาเอาไว้ในทันที “ฉันจะไปกับคุณ”

“ไร้สาระหน่า!” น้ำเสียงของเขาโกรธเล็กน้อย ก่อนจะกวาดร่างกายผอมเพรียวของเธอไปทางโซฟา “คุณกับอีธานรออยู่ที่นี่ ผมจะสั่งให้พายุส่งคนที่บ้านพักมาดูแลที่นี่เอง”

STN Groupที่มีคนพลุกพล่าน ณ ตอนนี้เป็นที่ที่ปลอดภัยมากที่สุด ไม่มีใครกล้าทำร้ายพวกเขาต่อหน้าสายตาของผู้คนมากมายหรอก

ญาธิดาเดินโซเซไปสองก้าว พยายามทรงตัวให้ยืนนิ่งๆ สีหน้าของเธอดูจริงจังมาก “อลิสายังอยู่ที่นั่น ฉันยืนดูพวกคุณไปเผชิญกับอันตรายเฉยๆ ไม่ได้”

“คนที่อยู่ต่างแดนตกอยู่ในอันตรายประสบการณ์ของพวกเขากับคุณไม่เหมือนกัน คุณรออยู่ที่นี่เป็นการช่วยที่ดีที่สุด”

คำพูดของภวินท์ฟังแล้วเจ็บเล็กน้อย ขอบตาของญาธิดาเริ่มแดง “ฉันก็เป็นคนของozone ฉันมีประสบการณ์ด้านการฝึกอย่างมืออาชีพ!”

น้ำเสียงของเธอสะอื้น ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าช้าๆ แล้วจับมือของเขาเอาไว้อย่างแน่น  “เราคลาดกันไปห้าปีแล้ว ถึงแม้ครั้งนี้จะโชคร้ายจนถูกกวาดล้างจนไม่มีใครรอด ก็ไม่สสามารถแยกเราออกจากกันได้” 

ภวินท์ได้ยินเช่นนั้นแววตาที่นุ่มนวลก็ปรากฏขึ้น หลังจากที่เขาเปลี่ยนมาจับมือเธอสีหน้าของเขาก็กลับมาเคร่งขรึมอีกครั้ง “พวกเราจะกลับมาอย่างปลอดภัย” 

ญาธิดาสูดจมูก แล้วพยักหน้าอย่างแรง

ควันระเบิดปกคลุมไปทั่วบริเวณozone อากาศโดยรอบเต็มไปด้วยฝุ่นที่หนาทึบ

บ้านพักชั่วคราวหลายหลังที่เชิงเขาไม่ไกลมาก ผู้คนที่ผ่านไปมาแถวนั้นต่างก็มีสีหน้าที่กระวนกระวาย เดินไปมาอย่าว่องไว ผู้คนบริเวณนั้นรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

ญาธิดาที่เพิ่งมาถึงเชิงเขาก็ได้กลิ่นเลือดฉุนที่แสบจมูก มันยังผสมกับกลิ่นของดินและกำมะถันต่างๆ หัวใจของเธอบีบรัดในทันที ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล

ชายชุดดำหลายคนที่ผ่านสายตาเธอไปนั้น บนตัวทุกคนเต็มไปด้วยบาดแผลไม่ว่าจะหนักหรือเบา พวกเขาแบกคนที่เลือดท่วมตัวเดินผ่านเธอไปอย่างพร้อมเพรียง

อลิสาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่ ทางสำนักงานใหญ่ก็คงต้องพิจารณา นี่ไม่ใช่การแก้ปัญหาวิกฤตการณ์สักหน่อย พวกเขาจะยื่นมือเข้ามาช่วยง่ายๆ ได้ยังไง” 

ระหว่างที่ทั้งสองคุยกันอยู่นั้น ภวินท์ก็ได้ผลักประตูบ้านพักชั่วคราวเข้ามา พอมองสีหน้าที่ยุ่งเหยิงของเขา คิ้วของอลิสาขมวดเข้าหากันอย่างแน่น แล้วรีบพุ่งตัวไปหาเขา

“คุณไปเขตอันตรายมาแล้วใช่ไหมคะ?” เสียงของเธอชะงักลง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่อ้ำอึ้งว่า  “พวก......เขาเป็นยังไงบ้างคะ?” 

ไม่ต้องเดาก็รู้ ว่าเธอเป็นห่วงหลุยส์

ภวินท์ไม่มีเวลาแม้แต่จะดื่มน้ำ มองดวงตาทั้งสองคู่ที่เต็มไปด้วยความกังวลก่อนจะอธิบายด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ทางสำนักงานใหญ่กำลังเดินทางมา หลุยส์ต้องอดทนอีกสักพักครับ”

อลิสากัดริมฝีปากล่างเอาไว้อย่างแน่น ราวกับว่าอยากจะพูดอะไร แต่เธอก็ลังเลที่จะพูดออกมา

ญาธิดาเห็นเช่นนั้นก็เดินก้าวขึ้นมา แล้วถามแทนเธอว่า “งั้นหลุยส์ได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า โอกาสถอนตัวออกมามีเท่าไหร่ ตอนนี้สถานการณ์ด้านในเป็นยังไงบ้าง?”

“ดูเหมือนอุปกรณ์สื่อสารของหลุยส์จะได้รับความเสียหาย ได้รับเพียงสัญญาณอ่อนๆ เป็นระยะเท่านั้น ผมไม่สามารถตอบคำถามของคุณได้” เขาปรายตามองอลิสา ดูเหมือนเขากำลังคุยกับญาธิดา แต่ก็เหมือนกำลังอธิบายให้อลิสาฟัง

ความเศร้าบนใบหน้าของอลิสาหายวับไปในทันที เธอตั้งสติอย่างรวดเร็ว แล้วแสร้งฝืนยิ้มออกมา “ฉันขอไปดูสถานการณ์เขตอันตรายหน่อยได้ไหมคะ?”

“ไม่ได้ครับ!” เขาตอบเสียงแข็ง “คุณต้องอยู่ที่นี่เพื่อดูแลอยู่เบื้องหลัง นี่คือคำสั่งขององค์กรครับ” 

“คำสั่งบ้าบออะไร รู้จักคำว่ากันไว้ดีกว่าแก้ไหม ต้องรอให้เขาตายก่อนหรือไงถึงจะให้ฉันเจอเขา?” อลิสาขึ้นเสียงอย่างไม่ได้ตั้งใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์