บทที่18 เมืองหมิงจูสั่นสะเทือน
ถูกหลินเจิ้นสงตบโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้หลินฉ่ายเวยตกตะลึง
เมื่อเธอตั้งสติได้ ดวงตาทั้งสองข้างของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง “พ่อ พ่อตบฉัน!”
เธอแทบไม่อยากจะเชื่อ เพราะตั้งแต่เล็กจนโตพ่อไม่เคยตบตีเธอเลยสักครั้ง แต่เพื่อไอ้คนไร้ประโยชน์คนนี้ถึงกับตบเธอ
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ เธอเป็นลูกสาวของคุณน่ะ!”
โจวเหม่ยหยูนรู้สึกกังวล เธอรีบดึงหลินเจิ้นสงไว้ แต่ก็ถูกเหวี่ยงออกไป
“เธอถูกคุณเลี้ยงตามใจแบบนี้ตั้งแต่เล็กจนโต จึงกลายเป็นคนที่นิสัยเสียเช่นนี้!”
หลินเจิ้นสงดุด่าโจวเหม่ยหยูนไปพร้อมกัน “อย่าพูดเรื่องไร้สาระ ฉันไม่สนว่าพวกคุณจะใช้วิธีไหน ไม่ว่าจะคุกเข่า หรือก้มกราบ ก็ต้องพาเสี่ยวเฉากลับมาให้ได้ มิเช่นนั้น พวกเธอก็ไม่ต้องกลับมา!”
พูดจบ ก็เดินจากไป โดยไม่สนใจสองแม่ลูกหลินฉ่ายเวยเลย
ใบหน้าของทั้งสองเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่อึดอัดกลืนไม่เข้าคายไม่ออกดูน่าเกลียดเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะหลินฉ่ายเวย ที่เมื่อวานนี้เธอได้บอกถังเฉาว่าไม่ให้กลับมาตระกูลหลินตลอดไป ตอนนี้จะให้หน้าด้านไปอ้อนวอนให้เขากลับมา?
เธอไม่ยอมเสียหน้าเหรอ!
“ฉันไม่ไป!” เธอจับแก้มของเธอที่ยังคงปวดอยู่ กล่าวด้วยความโกรธ
เป็นโจวเหม่ยหยูนรู้ว่าเรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญ เธอจับมือหลินฉ่ายเวย แล้วพูดว่า “แม่ก็ไม่อยากไปเหมือนกัน แต่สถานการณ์มันบีบบังคับ ไม่เคยคิดว่าไอ้คนไร้ประโยชน์คนนี้มันจะดวงดีขนาดนี้ ทำให้มันชนะการประมูลได้จริงๆ”
“ตอนนี้ถ้าพวกเราหักหน้าเขามันจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย พ่อแกก็เป็นคนใจดำ ไปเข้าข้างคนอื่น เราเชิญเขากลับมาก่อน ขอแค่เขาทำผิดอีกครั้ง พวกเราก็สามารถขับไล่เขาออกไปได้ ไม่จำเป็นต้องรีบขนาดนั้น?”
หลินฉ่ายเวยถูกพูดจนยอมรับ เธอทำได้เพียงแค่กัดริมฝีปากและพูดด้วยความเสียใจ “งั้นก็ได้”
สองแม่ลูกก็ได้เดินออกไปจากอาคารกั๋วจี้ ต้องการหาตัวถังเฉา แต่ถังเฉาได้จากไปนานแล้ว
หลินฉ่ายเวยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาถังเฉา ได้ยินเสียงว่า ‘หมายเลขที่คุณเรียกยังไม่เปิดใช้บริการ’
ทำให้หลินฉ่ายเวยโกรธมากจนกระทืบเท้า “ไอ้คนไร้ประโยชน์นี้มันสมควรตายเสียจริง....... ”
ในเวลาเดียวกัน บนท้องถนน มีรถโรลส์รอยซ์สีดำคนหนึ่งขับไปเรื่อย ๆ และยานพาหนะที่อยู่รอบ ๆ ก็หลีกทางให้
ถังเฉานั่งหลับตาอยู่ที่เบาะหลัง คนที่ขับรถคือเฟิ่งหวง เธอกล่าวรายงานอย่างนอบน้อม “รองหัวหน้า ซุนชิงสารภาพทั้งหมดแล้ว รวมถึงเรื่องที่ขายความลับทางการค้าของบริษัทหลงเถิงกรุ๊ป”
“แต่เนื่องจากไม่มีหลักฐาน ทำให้ตระกูลซ่งหลุดไป”
“รู้แล้ว”
ถังเฉาตอบเบา ๆ เขาไม่ได้คาดหวังว่า ใช้ซุนชิงคนนี้แล้วจะสามารถล้มซ่งหรูอี้ได้
เขาครุ่นคิดสักครู่ ถังเฉาถามอีกครั้ง “เรื่องงานแต่งงานไปถึงไหนแล้ว? ”
“รองหัวหน้า ทุกอย่างดำเนินการ ตามคำสั่งของคุณ ได้เชิญชนชั้นสูงที่มีชื่อเสียงทั้งหมดของเมืองหมิงจูแล้ว”
เฟิ่งหวงรายงานต่อ “ก็ขาดเพียงแค่แหวนเพชรวงเดียว เย็นนี้เวลา 18.00น. จะมีงานประมูลหนึ่งที่คลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ยซึ่งเป็นธุรกิจของตระกูลซ่ง หนึ่งในนั้นมีแหวนเพชรที่ใหญ่และแพงที่สุดของเจียงเจ้อหู้สามเมือง(ประกอบด้วยมณฑลเจียงซู มณฑลเจ้อเจียงและเมืองเซี่ยงไฮ้ สองมณฑลกับหนึ่งเมือง)”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของถังเฉาเป็นประกาย “ไปที่คลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ย”
……
พอถึงเวลากลางคืนคลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ยเปิดให้บริการ
มีรถโรลส์รอยซ์สีดำคนหนึ่งขับมาจอดที่โรงจอดรถ
มีรถสปอร์ตราคาแพงทุกประเภทจอดอยู่รอบ ๆ ตั้งแต่ราคาหลักล้าน จนถึงหลายสิบล้าน แต่เมื่อเทียบกับรถคันนี้แล้วทำให้รถพวกนั้นดูหมองไป
เพราะเพียงแค่มูลค่าป้ายทะเบียนรถของ ‘A88888’ ก็มีมูลค่าเพียงพอที่จะนำรถเหล่านี้ที่จอดอยู่ไปทิ้งบนถนนได้นับสิบสาย
เมื่อประตูรถถูกเปิด ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ใบหน้าเรียบเฉยสวมชุดสูทเดินออกจากรถ เขาคือถังเฉา
ตอนนี้เฟิ่งหวงเปลี่ยนเป็นชุดราตรีชุดเกาะอกสีดำ ซึ่งทำให้รังสีนักฆ่าลดน้อยลงไป ทำให้รู้สึกถึงความเป็นผู้หญิงมากขึ้น
“สวยมาก” ถังเฉากล่าวด้วยรอยยิ้ม
เฟิ่งหวงหน้าแดงขึ้นมา ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความรักแอบมองถังเฉา
“คุณเฟิ่งหวง คุณมาถึงแล้ว”
ในเวลานี้ ชายวัยกลางคนวิ่งไปมาต้อนรับ พูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า “ผมรอคุณตั้งนานแล้ว”
“อืม”
สีหน้าเฟิ่งหวงเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น ตอบด้วยเสียงเบา ๆ
ชายวัยกลางคนกำลังจะพูดขึ้น ทันใดนั้นเขาก็เห็นถังเฉายืนอยู่ข้างเฟิ่งหวง สีหน้าของเขาก็แสดงความตกใจ “คุณคือผู้ใหญ่ท่านนั้นใช่มั้ย? ”
“คุณคือใคร?” ถังเฉาไม่รู้จักชายวัยกลางคนคนนี้
“ผมชื่อหูอีซาน คุณเรียกผมว่าเสี่ยวหู”
ชายวัยกลางคนยิ้มแล้วก็พูดว่า “เงินที่ซื้ออาคารกั๋วจี้ ผมเป็นคนออกเอง ถือเป็นของขวัญเล็กน้อย สิ่งนี้ยังไม่เพียงพอต่อการแสดงความเคารพเลย”
บังเอิญตอนนี้ไม่มีคนเลย ถ้าหากถูกคนอื่นเห็นว่า ชายที่ร่ำรวยที่สุดของเมืองหมิงจูได้โค้งคำนับเขาเช่นนี้ จะต้องตกเป็นข่าวอย่างแน่นอน
“อืม”
ถังเฉาพยักหน้าอย่างสงบ แล้วถามว่า “ คุณเป็นคนของใคร?”
เมื่อได้ยินประโยคนั้น ท่าทางหูอีซานยิ่งนอบน้อมมากขึ้น “ผมเป็นสมาชิกสมาคมการค้าหงยิง”
“สมาคมการค้าหงยิง?”
เฟิ่งหวงผงกศีรษะ แล้วคีย์ตัวเลขลงไปสิบหลัก
ทันใดนั้น คนประมูลข้างล่างเหมือนบ้าคลั่งไปแล้ว
“โอ้สวรรค์ แขกห้องหมายเลข 0 ให้ราคาอยู่ที่1000ล้าน มีใครให้สูงกว่า1000ล้านไหม!”
ครั้งนี้ เสียงนั้นไม่ดังอีกแล้ว
“1000ล้านครั้งที่หนึ่ง 1000ล้านครั้งที่สอง 1000ล้านครั้งที่สาม!”
“ขอแสดงความยินดีด้วย Tears of Venus เป็นของแขกห้องหมายเลข 0 !”
“พวกเรากลับ”
เมื่อประมูลแหวนเพชรเลือด(เปรียบของที่ได้มาต้องแย่งชิงมาหรือต้องเสียเลือดเสียเนื้อ)ได้แล้ว ถังเฉาก็ไม่อยู่ต่อ เดินออกจากห้องทันที
พูดตามตรงว่า นอกเหนือจาก Tears of Venus ของชิ้นอื่น ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลย
ณ.ห้องหมายเลข 8
ซ่งเทียนซานหน้าดำคร่ำเครียด
อยู่ในถิ่นของตนเองยังถูกคนอื่นแย่งของที่ตนเองหมายตาอยู่ นี่สำหรับเขาแล้วถือเป็นความอับอายที่สุด
“ห้องหมายเลข 0 คือใคร?” ซ่งเทียนซานถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่สู้ดี
เจ้าของคลับเฮาส์ปินเจียงฮุ่ยเหงื่อแตกเหมือนสายน้ำ “คุณชายใหญ่ เขาเป็นคนรวยที่สุดในหมิงจู ชื่อหูอีซาน”
ฮึ่ม....
ชั่วพริบตาเดียวแววตาของซ่งเทียนซานฉายรังสีอำมหิตออกมา“หูอีซานหูอีซาน กล้าดียังไงคิดมาต่อกรกับฉัน........”
เพียงชั่วข้ามคืน ในงานประมูลปิงเจียงข่าวเศรษฐีลึกลับได้ประมูล Tears of Venus ในราคาสูงถึง1000ล้าน ได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหมิงจู
ใคร ๆ ก็อยากตามหาคนรวยที่ลึกลับคนนั้น ที่ทุ่มพันล้านเหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ ทำให้คนรู้สึกทึ่ง
“หูอีซานคนนี้ ที่ทำเสียเรื่อง!”
บริษัทตระกูลซ่ง ซ่งเทียนซานตบโต๊ะอย่างรุนแรง และพูดอย่างโกรธ ๆ
ตรงข้ามเขา มีผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งเงียบสงบราวกับเซียน แม้ว่าเธอจะสวมชุดทำงาน แต่ก็ยากที่จะปกปิดความสง่างามของเธอได้ ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มจาง ๆ อยู่
“หากเพียงแค่หูอีซานคนเดียว มันไม่กล้ามาแย่งกับคุณหรอก”
ใบหน้าของซ่งเทียนซานเปลี่ยนไปเล็กน้อย “สาวน้อย คุณหมายความว่าไง.......”
ซ่งหรูอี้ยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เพียงแค่หยิบการ์ดเชิญงานแต่งงานที่ทำมาอย่างประณีต และส่งให้ซ่งเทียนซาน
“งานแต่งงานนิรนามนี้ คุณไปในนามของตระกูลซ่ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม