“คุณจ้าวก็ถือเป็นบุคคลที่มีบทบาทสูงเหมือนกัน เหตุใดถึงต้องปล่อยอารมณ์ใส่ผู้หญิงคนหนึ่งด้วยล่ะ?”
“มิหนำซ้ำไม่ว่ายังไงกู้หยุนม่งก็เธอเป็นเพื่อนร่วมห้องสมัยมัธยมปลายของผมอยู่”
ซ่งซานสี่ยกจานรองแก้วกาแฟพลางเดินตรงมา ก่อนจะนั่งยองลงแล้วยื่นไปให้กู้หยุนม่ง
กู้หยุนม่งรู้สึกอบอุ่นหัวใจเล็กน้อย
มือเล็กจับมือใหญ่ของซ่งซานสี่เอาไว้
ซ่งซานสี่ออกแรงดึง ดึงตัวเธอขึ้นมาจากพื้น
ยืนกาแฟไป “นี่ ดื่มก่อนแก้วหนึ่ง ค่อยไปทำงานต่อ”
“ฉัน……ขอบคุณนะ!”กู้หยุนม่งมองดูใบหน้าที่กำลังอมยิ้มของเขา แล้วรู้สึกอบอุ่นมาก
รับแก้วกาแฟมา ก่อนจะกลับโต๊ะทำงาน
ไอ้สารเลวจ้าวเหลียงโย่วนี่ เมื่อก่อนคิดที่จะทำอะไรไม่ดีไม่ร้ายต่อเจ๊ ตอนนี้กล้าผลักเจ๊เพราะเรื่องเงินงั้นเหรอ
หึ โชคดีที่เจ็ไม่ติดกับดักแก!
เมื่อเทียบกับซ่งซานสี่แล้ว แกมันก็ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลยสักนิด
ดูซ่งซานสี่เขาสิ แค่เมล็ดกาแฟนี่ก็ดีกว่าจ้าวเหลียงโย่วแกไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้ว
รสชาตินี้มันชวนมัวเมามากแค่ไหน?
ซ่งซานสี่เอากาแฟอีกแก้วหนึ่งยื่นให้จ้าวเหลียงโย่ว
“ดื่มแก้วหนึ่งสิ! แพ้พนัน แต่เราไม่ใช่ศัตรูต่อกัน ยังสามารถเป็นเพื่อนกันได้อยู่ ใช่ไหม?”
“คุณ……”จ้าวเหลียงโย่วต้านทานกลิ่นกาแฟที่เข้มข้นนั่นไม่ได้จริง ๆ ก่อนจะรับมันมา
ซ่งซานสี่ยกแก้วสุดท้ายที่เหลือขึ้นมา แล้วนั่งลงบนโซฟาโซนพักผ่อน จิบกาแฟหนึ่งอึกแล้ววางแก้วลง
“คุณจ้าวครับ ไม่ต้องท้อใจขนาดนั้นหรอกครับ การที่ชีวิตของผู้ชายมีขึ้นมีลงนั้นเป็นเรื่องปกติ มานั่งลงก่อนสิ มาคุยกันก่อน”
จ้าวเหลียงโย่วรู้สึกโศกเศร้ามาก
แต่เมื่อแพ้ให้ฝ่ายตรงข้ามแล้ว เขาจึงไม่มีความไม่พอใจใด ๆ
ความเย่อหยิ่งและความดูหมิ่นต่าง ๆ ในอดีตล้วนหายไปหมดแล้ว
เขาคิดเองเออเองว่าตนเล่นหุ้นได้เซียนดุจเทพ สรุปแล้ว……ซ่งซานสี่ต่างหากที่เป็นเทพ
นั่งลงฝั่งตรงข้ามของซ่งซานสี่ รู้สึกอึดอัดอย่างยิ่ง
ดื่มกาแฟหนึ่งอึกแล้วก็รู้สึกดีมาก ๆ
“เออคือ น้อง……น้องซ่ง คุณอยากคุยเรื่องอะไรเหรอครับ?”
ซ่งซานสี่ควักบุหรี่ออกมา บุหรี่ยูนนานที่ราคาซองละสิบหยวน
เมื่อจ้าวเหลียงโย่วเห็นแบบนี้ “มา ๆ ๆ สูบของผมสิ!”
เขาหยิบบุหรี่จงหัวออกมา รีบใช้ทั้งสองมือยื่นให้ซ่งซานสี่
สถานการณ์ในตอนนี้ ไม่เป็นลูกน้องไม่ได้แล้ว
“ขอบคุณ”
ซ่งซานสี่จุดบุหรี่ “เมื่อคำนวณจากพอร์ต หุ้นจิ๋วเสวียนเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นติดต่อกันสามครั้งแล้วหยุดนิ่ง ผมได้กำไร 42417000 มองข้ามเศษเงินนั่น ถือซะว่าคุณจ้าวแพ้ให้ผม 40 ล้านก็พอแล้วครับ”
“ห๊ะ?”จ้าวเหลียงโย่วตื่นเต้นหวั่นไหวอยู่ครู่หนึ่ง
สองล้านกว่าหายวับไปในทันที
เมื่อกู้หยุนม่งที่กำลังคำนวณอยู่ทางฝั่งนั้นได้ยินคำพูดดังกล่าว จึงเงยหน้าขึ้นมามองซ่งซานสี่
ในใจรู้สึกโมโหมาก!
ไอ้เวรซ่งซานสี่ นายโง่หรือไง?
นั่นเป็นเงินที่นายได้มา ทำไมถึงต้องลดให้สองล้านกว่าด้วย?
ถ้าเอาสองล้านกว่านั่นให้เจ๊ เอาไปทำเรื่องดี ๆ ได้หลายเรื่องเลย
ซ่งซานสี่พูด: “ผมเป็นคนที่ค่อนข้างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไหนลองพูดมาหน่อยสิครับว่า 40 ล้านในตอนนี้ คุณจ้าวจ่ายให้ผมได้เท่าไหร่?”
จ้าวเหลียงโย่วรู้สึกลำบากใจมาก ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา: “เงินฝากส่วนตัวของผมมี 15 ล้าน หากขายหุ้นทั้งหมดที่มีในมือออกไป จะขายได้ประมาณ 23 ล้าน ทั้งสิ้นจ่ายได้แค่ประมาณ 38 ล้านครับ……”
ตอนที่กำลังพูดคำนี้ หัวใจกำลังมีเลือดไหลหยดเลยนะ!
จ้าวเหลียงโย่วอยากตบหน้าตัวเองแรง ๆ อย่างอดไม่ได้
จะไปพนันกับมันทำไมเนี่ย!
ตอนนี้ขายทรัพย์สินทุกอย่างแล้ว ก็รวบรวมเงิน 40 ล้านไม่ได้!
“ห๊ะ?”จ้าวเหลียงโย่วรู้สึกดีใจต่อเรื่องที่คาดไม่ถึง ตื่นเต้นดีใจมากจริง ๆ
ราวกับว่ากำลังแรงทั้งหมดของร่างกายกลับคืนมาแล้ว
“น้องซ่ง คุณพูดจริงไหมครับ?”
“ถ้าเกิดคุณไม่อยากให้ผมพูดจริง งั้นก็ได้”ซ่งซานสี่ยิ้มตาพยีพลางขยี้ก้นบุหรี่ให้ดับ
จ้าวเหลียงโย่วรีบยื่นบุหรี่ไปอีกหนึ่งมวน “แค่ดูก็รู้แล้วว่าน้องซ่งเป็นเพื่อนที่ตรงไปตรงมา จิตใจกว้างขวาง! เพื่อนอย่างคุณน่ะ ผมคบด้วยแน่นอนครับ ต่อไปถ้ามีเรื่องไหนที่ต้องการใช้งานผม คุณบอกมาได้เลยนะครับ ในจงไห่เสียงของตระกูลจ้าว ไม่ว่ายังไงก็มีพลังอำนาจอยู่ครับ”
“เหอะ ๆ เกรงใจกันเกินไปแล้ว เอาแบบนี้เถอะ ตอนนี้จ่าย 20 ล้านมาก่อน? ยังไงเรื่องเงินกับเรื่องเพื่อนมันก็เป็นคนละเรื่องกันอยู่แล้ว”
“ได้ครับ!”
ได้เงินกลับมา 20 กว่าล้านในทีเดียว จ้าวเหลียงโย่วรู้สึกสะใจและมีความสุขเหมือนตัวเองเป็นฝ่ายได้กำไรยังไงอย่างนั้น
รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาธนาคาร โอนเงิน 15 ล้านไปให้ซ่งซานสี่
หลังจากทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบกลับไปอย่างรวดเร็ว เลือกหุ้นตัวหนึ่งในมือตัวเองแล้วขายออกแปดล้าน
จากนั้นเขาก็ถอนออกมาห้าล้าน และโอนให้ซ่งซานสี่เช่นกัน
หลังจากจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็รู้สึกสบายตัวมาก ก่อนจะยื่นมือออกมา “น้องซ่ง มาเป็นเพื่อนกันเถอะครับ!”
ซ่งซานสี่จับมือกับเขาอย่างสุขุมมาก “โอเค เป็นเพื่อนกัน”
“ผมว่านะน้องซ่ง คุณอาจจะยังไม่รู้ เงินของผมน่ะ ตอนแรกผมได้รับ 10 ล้านมาจากทางตระกูล จนค่อย ๆ เล่นหุ้นจนทำกำไรได้ขนาดนี้ ทีนี้ดีเลย ปล่อยให้คุณฉกไปในการพนันเดียว แต่ดีที่จิตใจคุณเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ลดให้ผมครึ่งหนึ่ง นี่คุณรู้เบื้องหลังบางอย่างใช่ไหมครับ? ทำไมถึงวิเคราะห์จิ๋วเสวียนเทคโนโลยีได้แม่นยำขนาดนี้?”
ซ่งซานสี่ตอบกลับว่า: “เรื่องนี้คือความลับ ขอไม่แบ่งปันกับคุณแล้วล่ะ ตลาดหุ้นเป็นการพนันแบบกลาย ๆ อย่างหนึ่ง ผมก็แค่ลงถูกตัว คุณจ้าวก็เป็นผู้มากความสามารถคนหนึ่งเหมือนกัน สามารถเล่นหุ้นแล้วร่ำรวยถึงขั้นนี้ได้ ถือว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ เลยนะครับ!”
“อ้อ……”จ้าวเหลียงโย่วรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงยิ้มอยู่ “ผมมีความสามารถตรงไหนล่ะครับ ยังเทียบน้องซ่งไม่ได้ เทียบน้องซ่งไม่ได้ เหอะ ๆ ……”
“ต่อไปส่วนมากผมก็จะไม่มาเล่นหุ้นอีกแล้ว จะไปทำเรื่องอื่นบ้าง ไม่แน่อาจจะสร้างปัญหาให้ตระกูลจ้าวของคุณเล็กน้อยด้วย แบบนี้มีปัญหาหรือเปล่าครับ?”
จ้าวเหลียงโย่วตบอกรับประกัน “น้องซ่งมีปัญหาอะไรก็พูดมาเลย หากเป็นเรื่องที่จ้าวเหลียงโย่วสามารถช่วยได้ ผมจะช่วยแน่นอนครับ เที่ยงนี้เดี๋ยวผมจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงข้าวน้องซ่งเอง ช่วยให้เกียรติผมไปทานด้วยกันได้ไหมครับ?”
“แบบนั้นไม่ได้หรอก ตอนเที่ยงผมต้องไปทำกับข้าวให้ลูกสาวและน้องภรรยา เป็นเพื่อนกันน่ะ จะกินข้าวด้วยกันหรือไม่กิน มันก็ไม่เป็นอะไรหรอก ใช่ไหม?”
“อื้ม~~”จ้าวเหลียงโย่วพยักหน้าอย่างเกิดแรงบันดาลใจและเข้าใจตระหนักได้เล็กน้อย “น้องซ่งช่างเป็นพ่อและพี่เขยที่ดีจริง ๆ ชีวิตของคนเราไม่เหมือนกัน พูดได้มีเหตุผลมากเลยครับ มีเหตุผลมาก……”
และในเวลานี้เอง กู้หยุนม่งก็กลับมาแล้ว
ก่อนจะพูดกับซ่งซานสี่ด้วยสีหน้าที่ดูไม่ค่อยดี: “เห้อ ประธานเฉียนรบกวนให้นายไปออฟฟิศของเขารอบหนึ่งน่ะ ไม่งั้นเขาจะไม่อนุมัติเรื่องการถอนเงิน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าพ่อกบฏโลก
อัพเดทหน่อยครับ...
อัพเดทหน่อยเถอะ...
อัพเดทตอนหน่อยครับแอด...