เขามองไปที่เธอด้วยความสนใจในขณะที่เธอกำลังอุ้มข้าวปั้น มาร์ครู้สึกได้ถึงความน้อยใจของตนเอง มันดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนเดียวที่แอเรียนทำตัวไร้หัวใจใส่ แม้ขนาดเจ้าแมวน้อยยังได้รับความรักมากกว่ามาร์คมาก
แอเรียนไม่ค่อยกล้าที่จะขึ้นรถไปกับมาร์คเพราะเธอรู้ดีว่าเขาเป็นคนกลัวเชื้อโรคและเป็นห่วงว่าขนของเจ้าแมวน้อยจะไปร่วงในรถ “ความจริงแล้วคุณไม่ต้องรีบมาก็ได้... วันนี้การให้น้ำเกลือก็ได้เสร็จไปแล้ว มันก็แค่ ฉันให้ยามันเองที่บ้านคนเดียวไม่ได้... และพรุ่งนี้ก็ต้องมาให้น้ำเกลือใหม่อีกรอบด้วย”
มาร์คกระโดดออกจากรถและเอากระเป๋าใส่สัตว์เลี้ยงที่แอเรียนใส่ข้าวปั้นมาในตอนแรกและโยนมันเข้าไปในรถ “ฉันไม่มีเวลาให้กับเรื่องไร้สาระของเธอหรอกนะ ขึ้นรถมา”
แอเรียนตกใจ เธอเป็นห่วงว่าหากข้าวปั้นอยู่ข้างในนั้นจะเป็นยังไงบ้างหลังจากที่เขาโยนกระเป๋าแมวแบบนั้น แต่เธอก็ไม่กล้าเถียง อากาศวันนี้ร้อนและแห้งมาก ทำให้คนอารมณ์เสียได้ง่าย คนอย่างเขาไม่แปลกหรอกที่จะมีอารมณ์ฉุนเฉียว
พอกลับไปถึงที่พักมาร์คก็จัดการถอดเสื้อสูทของเขาและวางมันไว้บนโซฟาทันทีที่เขาเดินเข้าห้องพัก จากนั้นเขาก็จัดการพับแขนเสื้อตนเองขึ้น “มา”
แอเรียนไม่รอช้าและหยิบยาข้าวปั้นออกมา “เอ่อ… คุณจะจับขามันแล้วให้ฉันป้อนหรือจะสลับกัน…”
มาร์คมองไปที่แมวที่ช่างไร้ชีวิตชีวาและเลือกที่จะเป็นคนป้อนยาเองดีกว่า พอมาร์คสัมพัสโดนข้าวปั้น ๆ ก็กระโดดตัวหนีมุดไปที่ใต้โซฟาทันทีราวกับมันรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น
แอเรียนเรียกหามันด้วยความใจเย็นแต่ดูเหมือนว่าข้าวปั้นจะไม่สบอารมณ์ เนื่องจากว่าเธอท้องเธอจึงไม่อยากนั่งย่อง ๆ นานเกินไปจึงต้องเปลี่ยนมาเป็นการก้มแทนโดยใช้มือค้ำโซฟาไว้เพื่อพยุงตนเอง มาร์คยืนอยู่ตรงกันข้ามกับเธอจึงสามารถมองเห็นเนินอกของเธอได้เวลาที่เธอก้ม ความคิดแวบขึ้นมาในใจของเขา -- ดูเหมือนว่าพวกมันจะเติบโตขึ้นมาก...
เมื่อมาร์คนึกภาพว่าคนอื่นอาจจะได้เห็นดั่งที่เข้ากำลังเห็นอยู่เขาก็หงุดหงิด “เธอช่วยแต่งตัวให้มิดชิดกว่านี้ได้ไหม?”
แอเรียนรู้สึกสับสนกับสิ่งที่เขาพูดจึงหันกลับไปมองเขา “อะไรนะ?”
มาร์คทำมือให้เธอขยับออกมาแล้วจึงทำการดันโซฟาออก เมื่อพวกเขาเห็นข้าวปั้นมาร์คก็เข้าไปยกมันขึ้นอย่างรวดเร็ว
แอเรียนยังคงครุ่นคิดกับคำพูดของเขาแต่เมื่อเธอเหลือบไปเห็นคอเสื้อของตนเองเธอก็หน้าแดงทันที ...
ขั้นตอนในการให้ยาแมวนั้นทรมานมาก ข้าวปั้นร้องโวยวายอย่างกับว่าพวกเขากำลังจะป้อนยาพิษมัน หลังจากนั้นทั้งแอเรียนและมาร์คก็ต่างเหงือท่วม เมื่อนึกได้ว่าปกติมาร์คอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างไรแอเรียนก็รู้สึกแย่ “เอ่อ… ปกติแล้วฉันไม่ค่อยได้ใช้ห้องนั่งเล่นเท่าไหร่เลยไม่ได้ติดแอร์ ถ้าคุณร้อนคุณไปตากแอร์ในห้องนอนก่อนก็ได้”
มาร์ควางข้าวปั้นลงและเดินไปที่ห้องนอนโดยไม่พูดอะไร ทันทีที่ลมเย็นนั้นถูกปล่อยออกมาเขาก็ถอนหายใจอย่างดัง อากาศร้อนแบบนี้แทบจะฆ่าคนได้
หลังจากที่ดูแลข้าวปั้นเสร็จแอเรียนก็ชงชาดำให้เขา “มันไม่ร้อนแล้ว”
เมื่อมาร์คอาบน้ำเสร็จแอเรียนก็แกล้งหลับ แต่หูเธอยังฟังทุกการเคลื่อนไหวของเขา เขาเดินเข้ามาในห้องนอนแล้วก็เดินออกไป แอเรียนสงสัยจึงต้องลุคขึ้นมาดู เธอแปลกใจเมื่อเห็นมาร์คไปนอนที่โซฟา แต่สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจไปมากกว่านั้นก็คือเตียงของข้าวปั้นที่ถูกย้ายให้มาอยู่ข้างโซฟา เขาจะนอนเฝ้าข้าวปั้น...
“ที่ฉันมานอนบนโซฟาก็เพื่อที่เธอจะได้นอนหลับสบายไม่ใช่ให้เธอมากังวลเรื่องไม่เป็นเรื่อง มันก็แค่แมว ฉันดูแลได้” มาร์คนอนแน่นิ่งบนโซฟาหลังจากที่เขาพูดจบหลังจากขยับตัวหาท่าที่สบายที่สุด
แอเรียนรู้สึกอารมณ์วูบวาบ ถ้าเขาไม่ได้ช่วยดูข้าวปั้นเธอเองที่จะต้องตื่นมาหลายครั้งเพื่อเช็คดูว่าข้าวปั้นโอเคหรือเปล่า นี่เป็นสิ่งที่หมอสั่งให้เธอทำตั้งแต่แรก ทั้ง ๆ ที่มาร์คกลัวสัตว์ขนมาก แล้วเขารู้วิธีเลี้ยงแมวได้อย่างไร?
อยู่ ๆ เธอก็นึกถึงคำพูดที่เขาพูดเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้
“ผมรักคุณ แต่นั้นมันเป็นอดีตไปแล้ว”
จนถึงตอนนี้แอเรียนก็ยังไม่เข้าใจในคำพูดของเขา เธอคิดมาตลอดว่าเขาดูถูกคำว่า ‘รัก’ แต่ที่จริงเธอไม่รู้จักเขาดีพอ แม้จะใช้เวลาอยู่ร่วมกันมาหลายปี เธอกลับไม่รู้จักเขาเลยแม้แต่นิดเดียว สิ่งที่เธอคิดว่าเธอรู้เกี่ยวกับเขาเป็นเพียงการคิดไปเองของเธอล้วน ๆ เช่นเดียวกับที่เธอคิดว่าเขาต้องไม่รู้วิธีดูแลสัตว์เล็ก ๆ เพราะว่าเขาเกลียดพวกมันและไม่ถือถิฐิกับพวกมันมากนัก ; แต่มันกลับเป็นตรงกันข้าม
ดูเหมือนว่าเธอจะได้ทิ้งผู้ชายที่ผู้หญิงทุกคนต่างอิจฉาทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเห็นมุมนี้โดยไม่รู้ตัว และเธอได้ทำให้เขาผิดหวังตลอดมา...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์
มีนิยายหลายเรื่องที่หยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหวเลยค่ะและมีแต่เรื่องเดิมฯไม่มีเรื่องใหม่ฯให้อ่านบ้างเลย...