เจ้าสาวของนายน้อยลี่ นิยาย บท 5

ตอนที่เจียงตานจวี๋อยู่ในโรงพยาบาลก็ได้รับสายจากพ่อบ้านเหล่าเฉิง บอกให้เธอรีบกลับคฤหาสน์เฉิงหนานเร็วๆ คืนนี้จะต้องไปทานข้าวที่บ้านตระกูลลี่

เมื่อได้ไปเยี่ยมเยือนคุณปู่ของลี่ซุ่ยหานครั้งแรก คงไปมือเปล่าไม่ได้ เธอสืบค้นข้อมูลของคุณปู่ในอินเทอร์เน็ต เห็นว่างานอดิเรกของท่านคือการวาดเขียน

ตอนนี้เธอไม่มีกำลังทรัพย์เพียงพอที่จะซื้อของราคาแพง งั้นก็ไปซื้อพู่กันขนแกะชั้นดีที่ร้านเครื่องเขียนจังซื่อหนึ่งชุดแล้วกัน

พอกลับมาถึงคฤหาสน์เฉิงหนาน

คนรับใช้ก็ตระเตรียมชุดให้เธอเรียบร้อย ซึ่งเป็นชุดคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ร่วงสไตล์คลาสสิคจากร้านในเครือตระกูลเซียง

เธอแต่งหน้าอย่างเรียบง่าย ทำให้ตัวเองดูดีเหมาะสมกับกาลเทศะยิ่งขึ้น

ตอนที่ลงไปถึงชั้นล่างพลันเห็นรถโรลส์รอยซ์จอดอยู่ตรงลานบ้าน คนขับรถยืนรออยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นเธอเดินออกมาก็รีบเปิดประตูให้

เจียงตานจวี๋ครุ่นคิดตลอดทางว่า ครั้งก่อนเอาใจลี่ซุ๋ยหานกลับต้องคว้ำน้ำเหลว ทั้งยังได้ผลลัพธ์ในเชิงลบอีกต่างหาก ไม่รู้ว่าขอให้คุณปู่แห่งตระกูลลี่ช่วยจะได้หรือไม่

เมื่อโชเฟอร์ขับรถเข้ามาในบ้านตระกูลลี่ เจียงตานจวี๋ก็ลงจากรถแล้วเห็นผู้ชายใส่สูทสีขาว ซึ่งมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับลี่ซุ่ยหานหลายส่วน ท่าทางสง่างามและดูมีการศึกษามาก

ผู้ชายเห็นเธอตอนแรกก็ตะลึงพรั่นพรึง ต่อมาก็ปรับสีหน้าให้เป็นธรรมชาติอย่างเร็ว ไว ยิ้มถามว่า "คือน้องสะใภ้สินะ ผมชื่อลี่สุ่ยเหนียนครับ ยินดีต้อนรับสู่ตระกูลลี่ครับ"

เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายเสมือนแม่เหล็กที่สามารถดึงดูดได้ สำหรับเธอแล้วมันเป็นถ้อยคำที่รื่นหูที่สุดในช่วงนี้เลย ไม่มีใครเคยบอกว่ายินดีต้อนรับเธอ ตระกูลเจียงเห็นเธอเป็นดั่งน้ำที่สาดออกไปแล้ว ส่วนลี่ซุ่ยหานไม่แม้แต่จะให้เธอนอนบนเตียงเลย

เธอคลี่ยิ้ม "ขอบคุณค่ะ ฉันคือเจียงตานจวี๋ค่ะ"

สิ้นเสียงของเจียงตานจวี๋ก็ได้ยินเสียงเคลื่อนที่ของวีลแชร์ด้านหลัง

เธอหันหน้ากลับไปมอง จากนั้นก็เห็นแววตามืดครึ้มของลี่ซุ่ยหาน รอยยิ้มบนใบหน้าแข็งค้างทันควัน

ลี่สุ่ยเหนียนเอ่ยเรียกคำว่า "น้องรอง"ก่อนจะเดินเข้าไปเพื่อจะเข็นวีลแชร์ให้เขา ทว่าลี่ซุ่ยหานกลับอ้อมผ่านพวกเขาสองคนแล้วเข้าไปด้านในห้องรับแขก

ลี่สุ่ยเหนียนยิ้มอย่างจนปัญญา "น้องสะใภ้ครับ พวกเราเข้าไปกันเถอะครับ"

พึ่งสาวเท้าเข้าไปด้านในห้องรับแขกก็เห็นตำแหน่งหลักมีคนชราผู้มีชีวิตชีวาและกำลังวังชานั่งอยู่

ลี่สุ่ยเหนียนกระซิบบอกเจียงตานจวี๋ว่า "ท่านนี้ก็คือคุณปู่ครับ ผ่อนคลายหน่อย คุณปู่อัธยาศัยดีมากครับ"

เขาคงสังเกตได้ถึงความตื่นเต้นของเจียงตานจวี๋

เจียงตานจวี๋เดินไปด้านข้างลี่จิ่นหลง "สวัสดีค่ะคุณปู่" แล้วใช้สองมือมอบของขวัญที่ตัวเองเตรียมมา

ลี่จิ่นหลงดูปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นสินค้าจากร้านเครื่องเขียนจังซื่อ พลางรู้ว่าหลานสะใภ้คนนี้รู้ความ สมกับที่ให้แต่งเข้าบ้านจริงๆ

ลี่ซุ่ยหานที่นั่งด้านข้างไม่ส่งเสียงสักแอ๊ด เขาเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตา จึงระมัดระวังตัวจากเจียงตานจวี๋มากขึ้น เธอมาบ้านตระกูลลี่ครั้งแรกก็ทำให้คนในบ้านพากันดีอกดีใจ ไม่รู้ว่าอีกหน่อยเธอจะใช้อุบายแบบไหนอีก

สักพัก มีคนทยอยกันเข้ามาด้านในบ้านหลายคน ซึ่งเจียงตานจวี๋ไม่รู้จักเลยสักคน

บนโต๊ะอาหารมีเสียงเย็นชาของลี่สวินเปล่งออกมา ถามด้วยน้ำเสียงลำพองใจ ซึ่งพูดอย่างเนิบช้าว่า "ซุ่ยหาน พวกนายจดทะเบียนสมรสกันหรือยัง? คณะกรรมการบริหารเร่งให้ดำเนินการโดยเร็ว หากไม่ทำให้ตาเฒ่าพวกนั้นหายห่วง ตำแหน่งของนายก็คงไม่มั่นคงหรอก"

เพียงไม่กี่คำเจียงตานจวี๋ก็รู้ว่าสาเหตุที่ลี่ซุ่ยหานแต่งงานกับเธอแล้ว เพราะอำนาจและชื่อเสียงในบริษัทลี่ซื่อนั่นเอง

เขาในฐานะประธานบริษัทลี่ซื่อ ทุกการกระทำของเขาล้วนเป็นตัวแทนของบริษัทลี่ซื่อทั้งสิ้น แต่กลับมีข่าวลือว่าเขาขาดสมรรถภาพทางเพศ จนทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทเสียหาย คณะกรรมการบริหารจึงได้ซักถามในเรื่องนี้ขึ้นมา

ลี่ซุ่ยหานกล่าวเสียงเย็นเยียบ "อาสามครับ ถึงผมจะโยนทะเบียนสมรสใส่หน้าพวกเขา คนคิดไม่ซื่อก็ไม่ยอมเลิกราหรอกครับ"

ลี่สวินได้ยินใบหน้าก็บูดเบี้ยว เขาพินิจวิเคราะห์เจียงตานจวี๋ที่นั่งอยู่ด้านข้างลี่ซุ่ยหานโดยไม่พูดจา กล่าวเสียงเย้ยหยันว่า "ไม่รู้ว่าฉันควรเรียกหนูว่าคุณเจียงดี หรือเรียกว่าคุณนายลี่ดีล่ะ?"

เจียงตานจวี๋คาดไม่ถึงว่าเพลิงสงครามจะเข้าหาตัวเธอ เธอหันไปมองลี่ซุ่ยหานที่ไร้อารมณ์ทางใบหน้า สูดลมหายใจเข้าหนึ่งเฮือก ก่อนจะกล่าวแบบไม่ถ่อมตัวมากเกินจนดูต้อยต่ำและไม่ได้แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่ง "อาสามค่ะ หนูเป็นเด็ก ไม่ว่าท่านจะเรียกหนูว่าคุณเจียงหรือคุณนายลี่ หนูก็รับไม่ไหวค่ะ หากไม่ถือสา ท่านเรียกชื่อหนูได้ค่ะ"

ลี่สวินรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวบ้านตระกูลเจียง ไหนเลยจะรู้ชื่อของเธอ จึงได้แต่หุบปากเสีย

เวลานี้คุณปู่ลี่จิ่นหลงเอ่ยขึ้นมาว่า "วันนี้เป็นงานเลี้ยงครอบครัว ไม่คุยเรื่องบริษัท"

"คุณชายลี่ครับ พวกเราตรวจสอบวิดีโอบันทึกภาพห้องพักหมายเลขยี่สิบเจ็ดในโรงแรมแล้วครับ สิ่งที่น่าจับตามองของวันนั้นคือมีงานแต่งงานของชาวเอเชียครับ แยกแยะรูปร่างหน้าตาของหญิงสาวยากมากครับ กลุ่มที่พวกเราสันนิษฐานว่าจะเป็นเป้าหมายคือสาวมาเลเซียรับ"

"ไม่ว่าจะเป็นประเทศอะไรก็หาตัวให้เจอก่อนแล้วค่อยว่ากัน"

หลังจากที่ลี่ซุ่ยหานกลับเข้าประเทศมา เขามักจะระลึกถึงหญิงสาวที่อยู่กับเขาคืนนั้น เสียดายที่คืนนั้นแสงไฟมืดสลัว เห็นหน้าคร่าตาไม่ชัดเจน

เจียงตานจวี๋รู้ว่าลี่ซุ่ยหานไม่ค่อยชอบกินมื้อดึก จึงให้ห้องครัวเตรียมอาหารว่างให้เขา

ครั้งนี้เธอไม่กล้าลงครัวเองแล้ว

เจียงตานจวี๋อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็สวมชุดนอนฤดูหนาวตัวหนาๆ เธอเกรงว่าหากนอนอย่างนี้นานๆ ความเย็นของพื้นจะทำให้เสียสุขภาพได้

ลี่ซุ่ยหานกลับเข้าห้องนอนพลันเห็นเจียงตานจวี๋กำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้อง ผมยาวสยายลงมาราวกับสาหร่าย แผ่นหลังอันงดงามถักทอเป็นช่วงเวลาแห่งความสงบสุข

เจียงตานจวี๋ได้ยินลี่ซุ่ยหานเข้ามาก็รีบลุกขึ้นทันที "คุณลี่"

ลี่ซุ่ยหานใช้สายตาเย็นเยียบมองเธอ ยังคงเป็นความเย็นชาและเหินห่างดุจเดิม สิ่งที่ดีขึ้นมาหน่อยหนึ่งคือการพยักหน้านิดๆ คล้ายกับส่งสัญญาณให้เจียงตานจวี๋รู้ว่า คืนนี้อารมณ์ของเขาไม่ได้ย่ำแย่

ในเมื่อเขายอมรับว่าเธอเป็นคุณนายลี่แล้ว เจียงตานจวี๋จึงรวบรวมความกล้า เอ่ยเสียงเบาว่า "คุณลี่ค่ะ วันนี้ฉันนอนบนโซฟาได้ไหมคะ ฉันกลัวเป็นหวัดแล้วจะติดคุณค่ะ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่ดีเลยนะคะ"

ลี่ซุ่ยหานพูดเสียงเย็นเยียบ "อืม" หนึ่งคำ

เจียงตานจวี๋ตะลีตะลานเอาหมอนไปวางบนโซฟา ด้วยกลัวว่าลี่ซุ่ยหานจะเปลี่ยนใจในวินาทีต่อมา เธอรับรู้ว่าตนรีบร้อนเกินไป จึงหันไปส่งยิ้มให้ลี่ซุ่ยหาน "ฉันไปเปิดน้ำอาบน้ำให้คุณนะคะ"

นัยน์ตาอันลุ่มลึกสุขุมของลี่ซุ่ยหานหรี่ขึ้น พลางชะงักค้างตรงที่เธอเดินหายไป

ให้ตายสิ เขาคงอยากหาผู้หญิงคืนนั้นเจอเร็วเกินไป จึงถูกหญิงตรงหน้าทำให้สับสน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวของนายน้อยลี่