บทที่1017 ดื่มซุปสักคำก็ยังดี
มีใจให้ในเวลาเช่นนี้........
สายตาของหานมู่จื่อเบลอๆเล็กน้อย ในหัวสมองมีเสียงเตือนดังอยู่ตลอด บอกกับตัวเองเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้วนะ
แต่ว่าร่างกายกลับไม่มีแรงต่อต้านเลยสักนิด อยู่ใต้หน้าตาที่เซ็กซี่และเล้าโลมในขณะนี้ของเย่โม่เซินมือของหานมู่จื่อค่อยๆคล้องที่ต้นคอของเย่โม่เซิน เริ่มตอบสนองอย่างเหลวไหลและหลงใหล
ก่อนหน้านี้เธอไม่มีการตอบรับ ที่สำคัญยังต่อต้านตลอดเวลาด้วยซ้ำ เย่โม่เซินจึงดำเนินการเสียงแรงไปมากเลยทีเดียว
แต่ว่าคราวนี้หลังจากเธอเริ่มมีการตอบรับ เย่โม่เซินถึงได้รู้ว่าเรื่องราวได้แย่ลงขนาดไหนแล้ว
เดิมทีเขาแค่อยากเล้าโลมสักหน่อย
ไม่ได้ทานเนื้อ ดื่มซุปสักคำก็ยังดี?
แต่ว่าตอนนี้......
ขณะที่หานมู่จื่อกำลังหลงใหลอย่างเคลิบเคลิ้ม จู่ๆก็รู้สึกว่าคนที่ดันไว้บนตัวเธอพลิกตัวลุกขึ้นมานั่งข้างเตียงอย่างกะทันหัน เพราะว่าเธอตั้งครรภ์แล้ว เพราะฉะนั้นเย่โม่เซินได้แค่ดันมือสองข้างไว้ กลัวทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ
เดิมทีหานมู่จื่อถูกเขาเล้าโลมจนตัดสินใจเรียบร้อยแล้วแต่ว่าตอนนี้เขาพลิกตัวจากไปอีกแล้ว นี่เป็นเพราะอะไร?
"ทำไมล่ะ?" หานมู่จื่อจ้องแผ่นหลังของเขา อดที่จะถามอย่างเสียงเบาไม่ได้
เย่โม่เซินหันหน้ามองเธอ สีที่ใต้ตาเขาเข้มงวดมาก เหมือนกับกองไฟที่เคลื่อนไหวอย่างรุนแรง ริมฝีปากบางเม้มไว้อย่างหมดหนทาง หลังจากนั้นถึงพูดว่า:"ตั้งครรภ์อยู่ไม่ใช่หรือ?"
ในชั่วขณะหนึ่งหานมู่จื่อไม่รู้ว่าคำพูดของเขาคำนี้หมายความว่าไง ได้แต่พยักหน้า
"ถูกแล้ว"
ใต้ตาของเขาเหมือนหมดหนทางและไม่รู้จักพอ ขยับเข้ามาอีกครั้ง หานมู่จื่อคิดว่าเขาต้องการทำต่อ ขณะที่ยื่นมือออกไปกอดเขาไว้ คิดไม่ถึงริมฝีปากบางๆของเย่โม่เซินแค่จูบที่หน้าผากเธอเบาๆหนึ่งครั้งก็จากไปแล้ว
“……”
นี่ก็ จบสิ้นแล้ว?
หานมู่จื่อขมวดคิ้ว เห็นว่าเย่โม่เซินช่วยเธอห่มผ้าห่มเรียบร้อยแล้ว เสียงที่อ่อนโยนแฝงความยับยั้งกิเลสในใจเอาไว้:"นอนเถอะ"
คนๆนี้.........ประสาทรึเปล่าเนี่ย? ไม่อยากทำต่อไป ถ้างั้นจู่ๆเขาเป็นบ้าอะไรขึ้นมา ทำไมต้องเล้าโลมเธอ?เล้าโลมเสร็จก็ไม่มีความรับผิดชอบเลยสักนิด ยังทำให้หน้าตาตัวเองเป็นผีบ้าผีบอแบบนี้ด้วย
คิดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ เอาขาออกไปจากผ้าห่มและถีบเขาหนึ่งครั้ง จากนั้นรีบลากผ้าห่มมาห่มให้เรียบร้อย หันหลังให้กับเย่โม่เซิน
ช่างเถอะ ไม่เอาก็ไม่เอา
ยังไงซะคนที่ทรมานไม่ใช่เธอ เขาจะเล้าโลมให้ได้ เล้าโลมเสร็จก็ไม่รับผิดชอบ ถ้างั้นก็ให้เขาทรมานไปเองเถอะ
หลังจากหานมู่จื่อหันหลังกลับมาก็ไม่ได้สนใจคนข้างหลังอีกเลยว่ามีปฏิกิริยายังไง ยังไงซะเขาเสียใจตอนนี้ก็ไม่ทันซะแล้ว
คนข้างหลังนั่งอยู่ข้างเตียงสักพัก จากนั้นหานมู่จื่อรู้สึกว่าข้างเตียงเบาๆ เย่โม่เซินออกไปแล้ว
หานมู่จื่อแอบหันไปมอง พบว่าเขาถึงขั้นวิ่งไปที่ดาดฟ้าข้างนอกอีกแล้ว
"เชอะ ไปดาดฟ้าเถอะ เอาให้คุณหนาวตายไปเลยสมน้ำหน้า"
เธอกะจะไม่สนใจเขาแล้ว ปรับเปลี่ยนท่านอนที่สบายที่สุด แล้วเตรียมตัวนอน
ตอนนี้เป็นสตรีตั้งครรภ์ ความจริงก็ขี้หลับขี้นอนอยู่แล้วที่สำคัญหลับเร็วมาก เดิมทีหานมู่จื่อยังมองแผ่นหลังเขาอยู่ สุดท้ายมองอยู่มองอยู่ ก็ไม่รู้ว่าหนังตาเป็นอะไรถึงกลายเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากนั้น เธอก็ลืมตาไม่ได้อีกเลย หลังจากนั้นก็หลับตาลง เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เธอก็จำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น
ส่วนอีกฝั่ง
หลังจากเซียวซู่ได้ยินเสียงของหานมู่จื่อ ยังอยากขอให้คุณนายน้อยช่วยเขาสักหน่อย ใครจะไปรู้เย่โม่เซินทางโน้นก็วางสายไปซะแล้ว
เซียวซู่คิดอยู่สักพัก ไม่กล้าโทรไปอีก ได้แต่นั่งอยู่บนเตียงมองดูมือถืออย่างปวดหัว
มอบภารกิจนี้ให้กับเขา ให้เขาลงไปที่กองไฟโดยตรงยังจะดีเสียกว่า เขาเซียวซู่จะได้ไม่ต้องอึดอัดเหมือนเช่นตอนนี้ พูดว่าขึ้นไปก็ขึ้นพูดว่ากระโดดก็กระโดด
รอไปสักพัก เซียวซู่ไม่ได้รับสายจากเย่โม่เซินอีกเลย เซียวซู่ถึงขั้นคิดว่า นอนหลับดีกว่าช่างมันเป็นไร จากนั้นแกล้งทำเป็นคืนนี้คุณชายเย่ไม่เคยโทรศัพท์มา?
อืม เงียบอย่างสบายๆ
เพราะว่าเขาคาดการณ์ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้วในระดับความยากลำบากของภารกิจนี้ ไม่แน่เขาต้องจากไปแบบเงียบๆและสบายๆจริงๆ??เฮอเฮอ
รู้นิสัยคุณชายเย่ตั้งนาน เขาก็ไม่ควรถาม ยังไงซะเขาก็ไม่ได้พูดว่าตอนไหน พูดแค่ว่ามะรืนนี้ ถ้างั้นเขาถ่วงเวลาไปถึงวันมะรืนกลางคืนเถอะ
ตอนนี้เป็นไงล่ะ ขุดหลุมเองก็กระโดดลงไปเอง
*
ตั้งแต่เสี่ยวเหยียนลาออกจากงาน ก็ไม่ได้ไปหางานอย่างอื่นอีกเลย นานมากแล้วที่เธอไม่ได้กลับบ้าน ความจริงมีเหตุผล ก่อนหน้านี้เธอจะไปต่างประเทศกับหานมู่จื่อ
เพราะฉะนั้นเธอก็เลยลาออกจากงานฝ่ายการเงินของบริษัทตระกูลเย่
ส่วนหัวหน้าฝ่ายการเงินเป็นพ่อของเธอพอดี สำหรับเรื่องที่เสี่ยวเหยียนลาออกเขาโกรธสุดๆ ยังไงซะโอกาสดีๆแบบนี้ ถ้าหากเธอไม่เอา ก็จะถูกคนมาเสียบแทนอย่างรวดเร็ว
ถึงเวลานั้นเธอเสียใจและอยากจะกลับมาอีกก็หมดโอกาสแล้ว
แต่ว่าขณะนั้น เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่าเย่โม่เซินเป็นผู้ชายที่เหี้ย ไม่อยากทำงานที่บริษัทของเขาต่อไปอีกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเคยเกลี้ยกล่อมให้พ่อของเธอไม่ต้องทำงานให้กับคนเหี้ยคนนี้ด้วย ทำให้พ่อเธอโมโหและด่าเธอชุดใหญ่
ยังชี้จมูกเธอพูดว่า ถ้าหากเธอต้องการลาออกให้ได้ ถ้างั้นพวกเขาก็ตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูกกันไปเลย และให้เธอไม่ต้องกลับมาตลอดไป
เสี่ยวเหยียนในตอนนั้นยังวัยรุ่นอยู่ เพราะฉะนั้นเอาแต่ใจตัวเองมาก ทีแรกเธอยังอยากเกลี้ยกล่อมดีๆอีกครั้ง แต่ว่าคิดไม่ถึงท่าทางพ่อของเธอดื้อดึงถึงขนาดนี้ หากว่าเธออ่อนข้ออีกนิดถ้างั้นก็เสียหน้าแย่เลย
ตอนนั้น เสี่ยวเหยียนก็เลยตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูกกับพ่อของเธอโดยตรง พูดว่าตัวเองจะไม่กลับมาอีกเลย!
พริบตาเดียวก็ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว พ่อของเธอก็ไม่เคยโทรศัพท์ให้กับเธออีกเลย พ่อลูกทั้งสองก็ไม่ได้ติดต่อกัน
มีแต่แม่ของเธอ คอยโทรศัพท์ถามเธอทุกปี กลับไปเมื่อไหร่?
ขณะนี้เสี่ยวเหยียนก็กำลังคิดอยู่ว่า ทำไมคนที่โทรศัพท์ให้กับเธอไม่ใช่พ่อนะ?
เขาไม่ได้เรียกตัวเองกลับไปนี่ ถ้างั้นหากว่าเธอกลับไปแล้วละก็ ก็ขายขี้หน้าแย่เลยสินะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่