เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 1111

บทที่1110 ลองคิดกลับกันดูสิ

เย่โม่เซิน:“……”

มีเรื่องอะไรที่พูดออกมาตรงๆไม่ได้ด้วยงั้นเหรอ?

พอเห็นว่าเขาขมวดคิ้วเหมือนกับว่ากำลังคิดหนักอยู่นั้น ส้งอานก็เลยตัดสินใจออกปากเตือนหลานชายของตัวเองสักหน่อย ดังนั้นก็เลยพูดว่า “ลองเอาสมองด้านการทำธุรกิจของแกมานึกถึงสถานการณ์ตอนนี้ของมู่จื่อดูสิ หรือไม่ก็ลองเอาตัวเองลงไป ก็น่าจะรู้เหตุผลนะ”

“……”

“โอเค ยังไงวันนี้ภารกิจของฉันก็สำเร็จลุล่วงแล้ว กลับบ้านไปดูตาแก่หน่อยดีกว่า เมื่อกี้ตาแก่ส่งข้อความมาหาฉัน”

กลางดึก ในห้องเต็มไปด้วยความเงียบงัน

สองสามีภรรยานอนเงียบอยู่บนเตียง หานมู่จื่อหันหลังให้กับเย่โม่เซิน เย่โม่เซินก็มองดูท้ายทอยที่หันหลังให้กับเขา แล้วก็ถอนหายใจอยู่ในใจเงียบๆ

ถึงแม้ว่าเธอจะยอมให้เขาเข้ามาในห้องแล้ว แต่พอเข้ามาแล้วเย่โม่เซินก็พบว่าทั้งห้องมืดสนิท ไม่ได้เปิดไฟ แม้แต่ผ้าม่านก็ปิดลงมาหมด ขนาดยื่นมือออกไปยังไม่เห็นห้านิ้วของตัวเองเลย

เย่โม่เซินไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ได้รับอนุญาต เพียงแค่ลดเสียงลงแล้วก็เอ่ยปากถามว่า “ทำไมไม่เปิดไฟล่ะ?”

หานมู่จื่อรีบตอบในทันที “ปิดไฟนอน จะได้ไม่แสบตา”

ที่จริงแล้วเธอก็พูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ตัวเธอเองก็ไม่ได้มีนิสัยปิดไฟนอนอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างหลังจากตั้งครรภ์ก็ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำตอนดึกอยู่บ่อยๆ ก็เลยจำเป็นต้องเปิดไฟไว้

ส้งอานมาหาเธอและพูดอะไรตั้งมากมาย ถึงแม้ว่าเธอจะรับฟัง แต่แล้วสุดท้ายแนวป้องกันทางด้านจิตใจของเธอก็ยังไม่คลายออกอย่างสมบูรณ์

สุดท้ายแล้วเย่โม่เซินก็ไม่ได้พูดอะไร ปีนขึ้นไปบนเตียงอย่างเงียบๆ

ที่จริงแล้วหานมู่จื่อเองก็นอนไม่หลับ เย่โม่เซินไม่ได้ทำอะไรผิด เธอเองต่างหากที่ดูน่าเกลียด เธอกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง ในใจรู้สึกไม่ยุติธรรมเล็กน้อย

ด้านหลังของเธอมีร่างกายที่อบอุ่นขยับเข้ามาใกล้ ลมหายใจของเขาพ่นลงบริเวณคอของเธอ รู้สึกจั๊กจี้เล็กน้อย หานมู่จื่อหดไหล่ทันทีโดยไม่รู้ตัว

“เป็นอะไรไป?” เสียงที่แหบต่ำของเขาดังขึ้นที่ข้างหูของเธอ หานมู่จื่อหดไหล่อีกครั้ง แล้วก็ขยับตัวขึ้นไปด้านหน้าหน่อย แต่คนด้านหลังก็ขยับเข้ามาอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้

“ฉันทำอะไรผิดไปรึเปล่า? เมื่อสองวันก่อนยังดีๆอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?”

ถึงแม้ว่าส้งอานจะให้เย่โม่เซินใช้สมองของตัวเองคิด แต่ว่าเขาคิดจนแทบตายก็คิดไม่ออกว่าตัวเองไปทำอะไรให้มู่จื่อโกรธกันแน่ ความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียว ก็คงจะเป็นที่เขาทำเพื่อบริษัทมากเกินไปจนละเลยเธอไป

“เพราะว่าเรื่องที่บริษัทรึเปล่า? การประชุมเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเป็นการประชุมที่ค่อนข้างจะสำคัญเลย เพราะฉะนั้นฉันก็เลยต้องออกไปแป๊บหนึ่ง แต่ว่าประชุมเสร็จแล้วฉันก็กลับมาแล้วนี่ ถ้าเกิดว่าเธอไม่ชอบล่ะก็ งั้นช่วงนี้ฉันจะผลักเรื่องที่บริษัททั้งหมดออกไปก่อน แล้วตั้งใจอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง”

ยิ่งเขาแคร์เธอมากขนาดนี้ หานมู่จื่อก็ยิ่งรู้สึกผิด เพราะว่าเย่โม่เซินทำเพื่อเธอมามากพอแล้ว แต่ว่าเธอกลับดื้อรั้นเหมือนกับเด็กที่ไม่รู้จักโต แค่เธอส่องกระจก แล้วเห็นความน่าเกลียดของตัวเอง เธอก็ไม่อยากจะเผชิญหน้ากับเขาแล้ว

ก่อนหน้านี้เคยได้ยินมาว่าคนท้องจะเปลี่ยนไปกลายเป็นไร้เหตุผล ตอนนั้นเธอยังไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่ ตอนนี้ก็เหมือนโดนตบหน้า

เธอนึกคิดมาตลอดว่าอย่างน้อยตัวเองก็เป็นคนที่มั่นใจในตัวเอง ไม่คิดเลยว่า…..

“ไม่ใช่เรื่องพวกนี้หรอก”

หานมู่จื่อส่ายหัว ปฏิเสธ

เพื่อที่จะมาอยู่กับเธอ เขาได้ผลักเรื่องงานที่บริษัทออกไปเยอะมากแล้ว นอกจากการประชุมที่ค่อนข้างจะสำคัญเท่านั้น ไม่ยังงั้นเขาจะไม่เข้าร่วมเรื่องอื่นๆเลย ช่วงนี้เขาดีกับเธอมาก พยายามชดเชยเรื่องที่ก่อนหน้านี้ตัวเองเคยได้ทำผิดไป เหมือนกับตอนที่เขาเคยสัญญาตอนที่ขอแต่งงานที่ห้องผู้ป่วยยังไงยังงั้น ไม่ได้มีอะไรที่ไม่ซื่อสัตย์เลย

เดิมทีเย่โม่เซินตั้งใจจะจัดงานแต่งงาน แต่ว่าหานมู่จื่อไม่ยอมใส่ชุดแต่งงานทั้งๆที่ท้องโต ใครจะไปรู้ว่ายิ่งผ่านไปเธอจะยิ่งอ้วนขึ้นกันล่ะ

“ถ้ายังงั้นมันเพราะอะไรกัน บอกฉันได้มั้ย?” พอเห็นว่าสุดท้ายเธอก็ยอมพูด ก็ขยับเข้าไปใกล้อีก ร่างกายของเขาก็แนบกับแผ่นหลังของเธอแน่น มือหนาก็ลูบที่ท้องของเธอเบาๆ การกระทำของเขาแผ่วเบาเป็นอย่างมาก

เย่โม่เซินเงียบไป

ไม่คิดเลยว่า เธอจะมีความกังวลอะไรมากมายในใจขนาดนี้ ถ้าเกิดว่าเธอไม่พูด เขาก็จะไม่มีวันรู้เลยว่าภรรยาของตัวเองมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ตอนแรกเย่โม่เซินไม่สามารถเข้าใจได้ แต่ว่าพอลองคิดในแง่มุมของเธอนั้น เขาก็รู้แล้วว่าทำไมเธอถึงได้แคร์มากขนาดนั้น

ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งตัวเขาเองเปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน แล้วต้องยืนอยู่ข้างๆเธอ เขาก็คงมีความรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับเธอเหมือนกัน

ตอนนี้พอมาได้ฟังเธอพูดแบบนี้แล้ว เย่โม่เซินก็รู้สึกว่าตัวเองเข้าใจเธอแล้ว

“ใครจะกล้ารู้สึกว่าเธอตลกกัน? คนๆนั้นต้องไม่สามารถอยู่กับฉันเย่โม่เซินได้อย่างแน่นอน คนที่อยู่กับเย่โม่เซินไม่ได้นั้น ฉันไม่มีวันปล่อยให้อีกฝ่ายมีชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน” ตอนที่กำลังพูดอะไรพวกนี้อยู่นั้น น้ำเสียงของเขามั่นคงมาก แล้วก็ปกป้องหานมู่จื่อมากเช่นกัน “ถ้าเกิดว่าแบบนี้ยังไม่โอเคล่ะก็ ถ้ายังงั้นฉันไปเป็นเพื่อนเธอดีมั้ย?”

หานมู่จื่อไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด “หมายความว่ายังไง?”

“ถ้าเกิดว่าเธอรู้สึกว่าตัวเธอเปลี่ยนไปกลายเป็นน่าเกลียด ถ้ายังงั้นฉันก็จะน่าเกลียดเหมือนกับเธอ”

หานมู่จื่อ:“……”

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้มีความคิดที่จะลากอีกฝ่ายมาตกอยู่ในสถานเดียวกัน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามเขาอย่างสงสัย

“แต่ว่านายก็ลองว่ามาซิ ว่าจะกลายเป็นน่าเกลียดได้ยังไง? นายตั้งท้องไม่ได้ซะหน่อย….”

ริมฝีปากบางของเย่โม่เซินยกขึ้น “ง่ายจะตาย แค่ทำให้ตัวเองเสียโฉม ไม่งั้นก็กินกับเธอจนอ้วน”

ตอนที่พูดว่าจะทำให้ตัวเองเสียโฉมนั้น หานมู่จื่อก็ตกใจกลัวจนหัวใจเต้นแรง แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะพูดออกมาได้อย่างสบายๆ ท่าทางเหมือนไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่นิดเดียว

คิดไปคิดมาก็น่าโมโห หายมู่จื่อตำหนิเขา “นานพูดบ้าๆบอๆอะไรของนายกัน? อะไรคือทำให้เสียโฉม? นี่นายคิดจะทำอะไรกับใบหน้าของตัวเองงั้นเหรอ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่