บทที่ 1129 ร้านไม่ให้การต้อนรับ
วันที่1
เสี่ยวเหยียนไม่ได้ไปที่บริษัทตระกูลหาน
วันที่2
เสี่ยวเหยียนเตรียมเงินของตัวเองไว้เรียบร้อย จากนั้นโอนให้เสี่ยวหมี่โต้ว ให้เขาโอนให้ลุงของเขาแทนตัวเอง
เสี่ยวหมี่โต้วทำสีหน้าไม่เข้าใจขึ้นมาทันที
“น้าเสี่ยวเหยียน ติดเงินลุงของผมเหรอครับ?”
“อื้ม ติดเยอะมากด้วย เงินพวกนี้เป็นเงินที่น้าเหยียนเก็บออมไว้เอง น้าคืนเงินพวกนี้ให้ก่อน ถึงตอนนั้นค่อยเก็บสะสมต่อ แล้วเสี่ยวหมี่โต้วค่อยเอาไปคืนแทนน้าเหยียนโอเคไหม?”
เสี่ยวหมี่โต้วกระพริบตาปริบๆ มองดูเงินก้อนใหญ่ที่เสี่ยวเหยียนโอนมาให้ แม้ว่าจำนวนเงินนี้จะเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยของคุณลุง
แต่ช่วงนี้บางครั้งที่เขามาช่วยงานที่ร้าน ก็รู้ว่าน้าเสี่ยวเหยียนหาเงินมาได้ด้วยความยากลำบาก เงินพวกนี้คงเป็นเงินสะสมทั้งหมดที่น้าเสี่ยวเหยียนมีแล้ว
จากนั้นเสี่ยวหมี่โต้วไม่ได้รับเงินมา กลับพูดขึ้นว่า
“น้าเสี่ยวเหยียนติดเงินคุณลุงเท่าไหร่ครับ? ให้ผมคืนให้น้าก่อนไหม?”
“…ว่าไงนะ?” เสี่ยวเหยียนตกใจตะลึง: “หนูจะคือแทนน้า?”
เสี่ยวหมี่โต้วพยักหน้าอย่างจริงจัง
จากนั้น เสี่ยวเหยียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา กอดไหล่ของเสี่ยวหมี่โต้ว ยกมือขึ้นมาลูบท้ายทอยของเขา และหยิกแก้มหนูน้อย
“เด็กน้อย หนูยังเป็นเด็กตัวแค่นี้จะคืนเงินแทนน้าได้ยังไงล่ะ?”
“ผมมีเงิน!”
“มีเงินก็จะใช้ตามใจชอบไม่ได้ นี่เป็นเงินที่เสี่ยวเหยียนติดคุณลุงไว้ ไม่เกี่ยวอะไรกับหนู หนูไม่ควรมาแบกรับภาระนี้ไว้ และอย่าพูดกับใครพร่ำเพรือนะ เข้าใจไหม?”
เสี่ยวเหยียนพูดโน้มน้าวเสี่ยวหมี่โต้วอย่างกล้ำกลืนฝืนใจ: “น้าเสี่ยวเหยียนรู้ดีว่าเสี่ยวหมี่โต้วเป็นเด็กดี และจิตใจดีมาก แต่ต่อไปห้ามพูดเรื่องแบบนี้เรื่อยเปื่อยนะ ถ้าเจอคนหลอกเอาเงินหนูขึ้นมา จะทำยังไง?”
“น้าเสี่ยวเหยียนโง่รึเปล่า เสี่ยวหมี่โต้วไม่มีทางถูกหลอกเอาเงินหรอก!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสี่ยวเหยียนตกใจตะลึงทันที เสี่ยวหมี่โต้วฉลาดขนาดนั้น จะถูกหลอกเอาเงินไปได้ยังไง? เขาพูดแบบนี้ออกมาได้ แสดงว่าเห็นหล่อนเป็นคนสำคัญมาก
หล่อนรู้สึกซาบซึ้งใจมาก แต่ยังคงไม่สามารถยอมรับข้อเสนอของเขาได้
“ไม่ว่ายังไงเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับหนู อันที่จริงน้าเสี่ยวเหยียนก็ไม่อยากให้หนูเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย เพียงแต่...น้าไม่อยากมีปัญหาอะไรกับลุงของหนูอีกแล้ว ดังนั้นจึงต้องขอให้เสี่ยวหมี่โต้วช่วยน้าเหยียนโอนให้เขาแทนน้าหน่อย หนูก็เอาเงินที่น้าเหยียนโอนให้ คืนให้คุณลุงก็พอ โอเคไหม?”
เสี่ยวหมี่โต้วสังเกตเห็นว่าตอนที่เสี่ยวเหยียนกำลังพูด แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด จึงทำได้เพียงเบ้ปาก: “น้าเสี่ยวเหยียน ช่วงนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า? น้ากับคุณลุงมีปัญหาอะไรกันงั้นเหรอ?”
“เด็กน้อยถามเรื่องผู้ใหญ่เยอะขนาดนี้ไหนทำไมกัน? บอกหนูไปก็ไม่เข้าใจหรอก เป็นเด็กดีนะ เชื่อฟังนะจ้ะ”
เสี่ยวหมี่โต้วรู้สึกอึดอัด ครั้งที่แล้วเขาก็อยากถามคุณลุง แต่กลับไม่กล้า เพราะในสายตาของเขา น้าเสี่ยวเหยียนสำคัญกว่าคุณลุงมาก
เขาขาดคุณลุงได้ แต่เขาขาดน้าเสี่ยวเหยียนไม่ได้!
จากนั้นเสี่ยวหมี่โต้วก็โอนเงินหกหมื่นหยวนให้หานชิง เมื่อหานชิงได้รับแล้วก็ส่งเครื่องหมายคำถามกลับมา
เมื่อเสี่ยวหมี่โต้วเห็นเครื่องหมายคำถามอันเย็นชา จึงรู้สึกโกรธมาก จากนั้นก็ออกจากวีแชทและไม่สนใจอะไรเขาอีก
หานชิงรออยู่นานสักพัก ไม่ได้รับการตอบกลับจากเขา
เขามองดูเงินหกหมื่นนั้น ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจู่ๆเสี่ยวหมี่โต้วจึงโอนเงินมาให้ตัวเองเยอะขนาดนี้ คิดจะถามมู่จื่อน้องสาวของตัวเอง
แต่ตอนนี้หล่อนอยู่ในช่วงใกล้คลอด อีกไม่นานก็จะต้องคลอดลูกแล้ว จึงไม่อยากรบกวนหล่อน
จึงทำได้เพียงโทรหาเสี่ยวหมี่โต้ว
แต่ใครจะไปคาดคิด เมื่อกดโทรหา เสี่ยวหมี่โต้วกับตัดสายเขาทิ้ง
หนึ่งครั้ง สองครั้ง...เขาตัดสายทิ้งทั้งหมด
เมื่อทั้งสองสบตามองกัน ใครจะไปคิดว่าจู่ๆหล่อนจะหลบสายตาไป ไม่มองเขาไม่ว่า แต่นี่ยังหนีเขาไปอีก
หานชิงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย เม้มริมฝีปากอันเรียวบาง เขารอต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงก้าวเท้าเดินเข้ามาในร้านทันที
แม้ว่าพนักงานจะรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้านั้นหล่อมาก แต่ยังไงหล่อนก็ต้องพึ่งพาเงินเดือนของเจ้านายประทังชีวิต ดังนั้นหล่อนจึงไม่ลืมคำพูดของเสี่ยวเหยียนที่กล่าวไว้เมื่อครู่ หลังจากที่หานชิงเข้ามาในร้านแล้ว หล่อนก็เข้าไปขวางเขาไว้ จากนั้นพูดอย่างเข้มแข็งและตรงไปตรงมา
“คุณผู้ชายคะ ขอโทษด้วยนะคะ เจ้านายของพวกเราบอกว่าเชิญให้คุณกลับไป ร้านเล็กๆของพวกเราไม่ต้อนรับคุณ”
หานชิง: “…”
เมื่อเดินเข้ามาใกล้แล้ว พนักงานเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าผู้ชายคนนี้หน้าตาดีกว่าที่คิดไว้มาก โอ้โห ผู้ชายหล่อขนาดนี้ ทำไมเจ้านายถึงไม่ต้อนรับเขาล่ะ? ตอนที่หล่อนพูดกับเขาเมื่อครู่ดูเหมือนจะมีท่าทีไม่พอใจด้วย หรือว่าสองคนนี้เป็นคู่รักกัน?
ก่อนที่หานชิงจะมาถึงเขาเผื่อใจไว้แล้วว่าเสี่ยวเหยียนอาจจะอารมณ์เสียบ้าง แต่คิดไม่ถึงว่าหล่อนจะเป็นหนักถึงขนาดนี้ คิ้วที่ดูผ่อนคลายเป็นธรรมชาติมาโดยตลอด ตอนนี้กลับขมวดเข้าหากันมากขึ้น เขาเม้มปาก ค่อยๆพูดขึ้น
“งั้นรบกวนเธอไปบอกหล่อนว่า ไม่ต้อนรับผมก็ได้ ผมจะรอหล่อนอยู่ที่หน้าประตู”
พนักงานพยักหน้าลงอย่างมึนงง: “รับทราบค่ะ ฉันจะไปบอกให้นะคะ”
จากนั้นพนักงานก็เดินเข้าไปบอกเสี่ยวเหยียน หลังจากที่เสี่ยวเหยียนได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที: “เขาพูดว่าอะไรนะ? เขาจะรอฉันที่หน้าประตู? หรือว่าเขาจะไม่ไปไหน?”
“ฟังจากน้ำเสียงของเขาแล้วดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นนะคะ”
เสี่ยวเหยียน: “…”
ทำไมเมื่อก่อนถึงไม่เคยรู้เลยว่าหานชิงก็มีนิสัยแบบนี้ด้วย? เขารอหล่อนทำไม? เธอผลักเขาออกขนาดนี้แล้ว และยังทำสีหน้ารำคาญตัวเองอีกด้วย เขายังมาที่นี่ทำไมกัน?
“เหยียนเหยียน ใครเหรอ?” หลัวหุ้ยเหม่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
“แม่ ไม่มีอะไรค่ะ แค่คนไม่สำคัญคนหนึ่ง พวกเธอไม่ต้องสนใจ เขาอยากจะรอนานขนาดไหนก็ให้เขารอไป”
เจ้านายอย่างฉันไม่ทำตามใจเขาหรอก!
แม้ว่าในใจคิดเช่นนั้น แต่เป็นเพราะรู้ว่าหานชิงรออยู่ที่หน้าประตู พอเสี่ยวเหยียนทำงานต่อก็รู้สึกว่าต้องทำงานด้วยความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก รู้สึกว่ามีสายตาของใครบางคนคอยจ้องมองหล่อนอยู่ตลอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่