บทที่1148 เขาสมควรตาย
ในที่สุดหลี่ซือห้านก็เข้าใจว่าทำไมวันนี้จู่ๆเธอถึงบอกว่าจะเลี้ยงข้าวตัวเอง ที่แท้ก็เพื่อมาเทเขาสินะ
สีหน้าเขาเริ่มย่ำแย่ขึ้นมา “ทำไมจะไม่ระวังล่ะ ที่ผ่านมาก็เข้ากันได้ดีไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ แต่ว่าฉัน......” เสี่ยวเหยียนไม่รู้จะอธิบายกับอีกฝ่ายว่าอย่างไรดี ทำได้แค่พยายามรักษาน้ำเสียง “คุณหลี่ ต้องขออภัยจริงๆนะคะ แต่ว่าเรื่องดูตัวแบบนี้ ถ้ารู้สึกว่าไม่เหมาะสมก็สามารถหยุดได้”
เธอไม่อยากปั้นน้ำเป็นตัว ดังนั้นจึงพยายามพูดให้กระชับที่สุด เพื่อให้อีกฝ่ายฟังแล้วเข้าใจ
หลี่ซือห้านไม่มีอารมณ์จะกินอาหารต่อแล้ว ฝันหวานของตัวเองแหลกสลายในพริบตา เดิมทีคิดว่าต่อไปตัวเองจะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายแล้ว ใครจะไปคิดว่าเธอจะมาบอกว่าไม่ไปต่อแล้ว
“เป็นเพราะผู้ชายคนเมื่อวานใช่ไหม”
สีหน้าของเสี่ยวเหยียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ใช่”
“ไม่ใช่ แต่ฉันว่าคงใช่แหละมั้ง เธอกับผู้ชายคนนั้นแอบส่งสายตาข้ามโต๊ะกันต่อหน้าต่อตาฉัน เธอคิดว่าฉันตาบอกเหรอ เมื่อวานเพิ่งจะเจอกับผู้ชายคนนั้น วันนี้เธอก็มาบอกว่าจะไม่ไปต่อ ยังจะกล้าปฏิเสธอีก”
“......”
“เอาแบบนี้แล้วกัน เมื่อก่อนเธอกับเขาจะมีอะไรกันฉันไม่ถือสา พวกเราหาวันมงคลแล้วไปจดทะเบียนกัน จากนั้นค่อยจัดงานแต่ง”
จดทะเบียน เสี่ยวเหยียนสีหน้าซีดเผือดไปหลายระดับ ก่อนจะปฏิเสธข้อเสนอของเขา
“ขออภัยค่ะ ฉันไม่ได้ชอบคุณ แต่งงานกับคุณไม่ได้”
หลี่ซือห้านพยายามพูดโน้มน้าว แต่ว่าท่าทีของอีกฝ่ายกลับแข็งกร้าวมาก แสดงให้เห็นว่าไม่อยากไปต่อกับเขาอย่างชัดเจน หลี่ซือห้านเห็นว่าฝันหวานกำลังสลายไป ก็เลยเริ่มโมโหขึ้นมา
“เห็นท่าว่าเรื่องที่เสี่ยวหมี่โต้วพูดจะเป็นเรื่องจริงสินะ ยังไม่ได้แต่งงานก็ไปอยู่ที่บ้านผู้ชายคนนั้น ผู้หญิงไร้ยางอายที่พอเห็นผู้ชายมีเงินเข้าหน่อยก็พุ่งเข้าใส่อย่างเธอฉันเห็นมาเยอะแล้ว ด้านหนึ่งก็เกาะถังเงินถังทองของเธอไม่ปล่อย อีกด้านก็จับฉันที่เป็นคู่ดูตัวไว้เป็นตัวเผื่อเลือก จางเสี่ยวเหยียน เธอนี่มันชั่วน่าดูเลยนะ”
เสียงของเขาดังมาก เลยดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมายโดยรอบทันที ทุกคนต่างก็หันมามองทางนี้
จางเสี่ยวเหยียนนิ่งอึ้งอยู่กับที่ แต่ก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าคนตรงหน้าคงอับอายจนกลายเป็นโมโห และต้องการให้เธออับอายด้วย
แต่ว่าเขาประเมินความอดทนทางจิตใจของเสี่ยวเหยียนต่ำไป นอกจากคนที่เธอใส่ใจแล้ว ถึงแม้จะถูกสายตาแปลกๆของคนรอบข้างมองมาอย่างไรก็ไม่เป็นไร ท้ายที่สุดเสี่ยวเหยียนก็เลยหยิบกระเป๋าแล้วยืนขึ้นมาทันที
“ในเมื่อฉันพูดสิ่งที่ฉันต้องการพูดกับคุณชัดเจนแล้ว ขออภัย ที่ร้านยังมีงานต้องทำอีก ฉันขอตัวก่อน”
เสี่ยวเหยียนเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ แล้วเดินออกไปเรียกรถที่ด้านนอกร้านอาหาร แต่จู่ๆหลี่ซือห้านกลับพุ่งมาคว้าข้อมือเธอแล้วลากเข้าไปในมุมตึก
“นังผู้หญิงชั่ว กล้านอกใจฉันเหรอ คอยดูสิว่าวันนี้ฉันจะจัดการกับเธอยังไง”
ผู้ชายสวมแว่นท่าทางเรียบร้อยคนนั้นหายไปแล้ว ตอนนี้หลี่ซือห้านดูแล้วเหมือนสัตว์ร้ายที่กำลังคลุ้มคลั่ง ตาแดงก่ำแล้วลากเสี่ยวเหยียนเข้าไปยังที่ลับตาคน
“ปล่อยฉันนะ คุณจะทำอะไร ช่วยด้วย......”
เพี๊ย!
เธอเพิ่งจะตะโกนไปครั้งเดียว บนหน้าก็ถูกตบเข้าเต็มแรง วินาทีต่อมาก็ถูกหลี่ซือห้านอุดปากไว้ทันที “ยังจะมีหน้ากรีดร้องอีกเหรอ”
พอด่าเสร็จก็หันไปตะคอกใส่คนรอบๆ
“มองหาอะไร ไม่เคยเห็นผัวตีเมียเหรอ ผู้หญิงคนนี้แอบมีชู้นอกบ้าน ฉันจะสั่งสอนเธอแล้วจะทำไม”
ถึงแม้คนที่สงสัยใจมีมากมาย แต่ว่าทุกคนก็กลัวจะมีเรื่อง พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ ต่างก็ถอยห่างกันหมด
เสี่ยวเหยียนถูกเขาลากเข้าไปในซอยเล็กๆ
“นังผู้หญิงชั่ว ถ้ารู้ว่าเธอเป็นคนที่เอาไม่เลือกหน้าแบบนี้ ฉันก็คงไม่ต้องแสดงละครตบตา แล้วข่มขืนเธอทันที ถึงตอนนั้นท้องแล้วลองดูสิว่าเธอจะยอมแต่งหรือไม่ยอมแต่ง”
เขามัดมือของเสี่ยวเหยียน ไม่ว่าเสี่ยวเหยียนจะเตะต่อยอย่างไร เขาก็ฉีกเสื้อผ้าของเธอออกทันที พอได้เห็นผิวขาวนวลราวกับหิมะนั้นปรากฏสู่สายตา ตาของหลี่ซือห้านก็หื่นกระหายขึ้นมาทันที คำรามเสียงต่ำออกมาครั้งหนึ่งก่อนจะพุ่งเข้าใส่
“ไม่นะ......ปล่อยฉัน......” เสี่ยวเหยียนหวั่นกลัวเพราะพบว่าแรงของตัวเองสู้เขาไม่ได้ และรู้สึกหมดหวังมาก
ปัง!
“คุณหยุดตีได้แล้ว ฉันไม่อยากให้คุณต้องเข้าคุกนะ”
เสียงร้องไห้ดึงสติของหานชิงกลับมา
เขายืนนิ่งอยู่กับที่ หยุดการกระทำทั้งหมด จากนั้น ก็กลับหลังหันช้าๆ มองดูสาวน้อยที่น้ำตาไหลอาบแก้ม ดวงตาสีเข้มพลุ่งพล่านไปด้วยความอดกลั้น
“ได้ ไม่เข้าคุก”
พอสิ้นเสียง เขาก็ถอดเสื้อสูทออกมา แล้วสวมบนตัวของสาวน้อย ห่อเธอไว้อย่างมิดชิด
เพื่อเมื่อครู่ร้องไห้อย่างหนัก ดังนั้นตอนนี้เสี่ยวเหยียนก็ยังคงควบคุมความรู้สึกอยากร้องไห้ของตัวเองไม่ได้ น้ำตาไหลพราก หานชิงก้มหน้าลงเช็ดคราบน้ำตาของเธอ จ้องมองดวงตาที่แดงก่ำและใบหน้าบวมเป่งของเธอเนิ่นนาน จากนั้นก็อุ้มเธอขึ้นมาในอ้อมกอด
ตอนที่เสี่ยวเหยียนถูกเขาวางลงในรถอย่างอ่อนโยน ก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปดึงแขนเสื้อของหานชิง
“คือ......เขาคงไม่ตายใช่ไหม”
พอหานชิงได้ยินเข้าแววตาก็เย็นชาขึ้นมาทันที
“ไม่ตายหรอก”
“จริงเหรอ ต้องโทรเรียกรถพยาบาลมารับเขาไหม”
หานชิงมองเสี่ยวเหยียน เสี่ยวเหยียนยังคงร้องไห้อยู่ “ฉัน ฉันก็แค่กังวลว่า......”
“ฉันเข้าใจว่าเธอกังวลเรื่องอะไร เรื่องนี้ฉันจะให้คนไปจัดการเอง”
เสี่ยวเหยียนเหมือนได้กินยาที่ทำให้ใจมั่นคง เลยโล่งอกขึ้นมาในที่สุด
“ไปตรวจเช็กร่างกายที่โรงพยาบาลก่อน”
“ไม่ ฉันไม่ไปโรงพยาบาล” เสี่ยวเหยียนส่ายหัวอย่างแรง ดวงตาแดงก่ำจ้องมองไปทางเขา “ฉัน ฉันไม่เจ็บ......ฉันไม่ต้องไปโรงพยาบาลหรอก”
เธอไม่อยากให้คนอื่นเห็นสภาพน่าอับอายของตัวเอง เสื้อผ้าของเธอขาดรุ่งริ่งไปหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่