เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 1197

บทที่1197 เธอมีธุระอะไรไหม

เห็นสีหน้าของเขาแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้ทันทีว่าครั้งนี้เธอเดาถูกแล้ว เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะยกใหญ่

“อย่าตกใจกับพรสวรรค์ของฉันล่ะ นิยายก็มาจากเรื่องจริงเคยฟังประโยคนี้มาก่อนไหม ฉันเขียนเรื่องราวมามากมายขนาดนี้ ฉันจะคาดเดาเรื่องราวไม่ออกได้ยังไงล่ะ”

เธอลงมือเขียนถึงตัวละครมากมายขนาดนั้น ต้องคาดเดาเรื่องราวกับตัวละครได้อย่างแม่นยำอยู่แล้ว อีกอย่างเจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้สึกว่า คนรู้จักของเธอนั้นเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก

แน่นอน ว่านี่เป็นเพียงความตระหนักรู้ในตนเองของเธอเท่านั้น

“ให้ฉันเดาเรื่องราวต่อจากนั้นนะ นายชอบเพื่อนรักของนางเอกเข้า แต่เพื่อนรักไม่ได้ชอบนาย งั้นคนที่เธอชอบก็น่าจะเป็น......”

พอพูดถึงตรงนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็เริ่มครุ่นคิด ถึงเรื่องที่เธอเขียนไปก่อนหน้านี้ ดังนั้นก็เลยเข้าใจพื้นหลังของตัวนางเอกดี พอลองคิดดูอีกที จู่ๆก็มองไปทางเซียวซู่ “คนที่ไม่ชอบนาย ชอบพี่ชายของนางเอกสินะ”

เดิมทีเซียวซู่ขี้เกียจจะสนใจเธอ ดังนั้นก็เลยยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มต่อ แต่พอได้ฟังเธอพูดประโยคนี้แล้ว เขาก็ถึงกับเผลอพ่นเหล้าออกมา

“.....ถูกฉันเดาถูกเสียแล้วนะ” เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติกลับมาพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง “ฉันนี่เก่งจริงๆเลย แค่พูดไปเรื่อยก็ดันถูกซะงั้น ต่อไปฉันไม่ต้องเขียนนิยายแล้วหันไปเป็นหมอดูดีไหมนะ”

ในที่สุดเซียวซู่ก็หันมามองเธอทีหนึ่ง

“เธอมีธุระอะไรไหม”

เธอมีธุระอะไรไหม ? ความหมายของประโยคนี้ก็คือ ถ้าไม่มีธุระก็อย่ามากวนฉัน ไปอีกทางเลยไป

ถ้าหากผู้หญิงคนอื่นถูกผู้ชายพูดแบบนี้ใส่ จะต้องโมโหเป็นแน่ แต่ว่าเจียงเสี่ยวไป๋กลับไม่ใช่ เธอเป็นคนหน้าหนา อีกอย่างการเข้าใกล้เซียวซู่นั้นก็เพื่อการเก็บข้อมูล ไม่ได้สนใจเขาเสียหน่อย

เธอยื่นมือออกไป ตบบ่าของเซียวซู่

“ฉันว่านะพี่ใหญ่ นายอย่าผิดหวังไปเลย ถ้าตามพล็อตของนิยายแล้ว ถึงแม้คนที่นายชอบจะไปชอบคนอื่น แต่เทพธิดาของนายจะต้องปรากฏตัวตามมาทันทีแน่”

เซียวซู่ “......”

เจียงเสี่ยวไป๋ยังคงพูดต่อไป “ไม่แน่อาจจะเป็นคืนนี้ก็ได้ จู่ๆเธอก็มาปรากฏตัวข้างๆนาย เพื่อช่วยเหลือนายที่กำลังอกหัก พานายออกมาจากความมืด แล้วเดินไปสู่ทางแสงสว่าง”

เซียวซู่ขมวดคิ้วแน่น ฟังจากสิ่งที่เธอพูด แล้วมองดูเธอที่อยู่ตรงหน้า ก็เริ่มรู้สึกว่ามีตรงไหนไม่ถูกต้องขึ้นมา

“ดังนั้นอย่าได้ผิดหวังไปเลย ต้องอดทนและรอต่อไปสิ”

จากนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็ถูกสายตาของเขาทำให้รู้สึกขนลุก เหมือนว่ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง

“ทำไมเหรอ” เธอขยับเข้าไปใกลเซียวซู่ด้วยความประหลาดใจ ดวงตากลมโตคู่นั้นกะพริบปริบๆ ขนตางอนยาวราวกับพัดเล็กๆคู่หนึ่ง

เซียวซู่รู้สึกราวกับหัวใจของตัวเองกำลังถูกเผา พอได้สติกลับมาเขาก็ถอยหลังไปกว่านิ้วครึ่งแล้ว เพื่อเว้นระยะห่างกับเจียงเสี่ยวไป๋

จากนั้นเขาก็ยกแก้วเหล้าขึ้น ก่อนจะดื่มเหล้าเขาก็ยิ้มเย็นที่มุมปากก่อนคำหนึ่ง “คุณนักเขียนนิรนามคุณกำลังพูดถึงตัวเองอยู่เหรอ”

เจียงเสี่ยวไป๋ชะงักไป “อะไร ตัวฉันเหรอ คุณเซียว คุณนี่ตลกจริงๆเลยนะ ฉันจะไปพูดถึงตัวฉันเองได้ยังไงเล่า”

พอได้ยินแบบนั้น เซียวซู่ก็เหลือบไปมองเธอทีหนึ่ง แล้วพูดเบาๆว่า “เธอลองเชื่อมโยงสิ่งที่เธอพูดก่อนหน้านี้ดูสิ”

ก่อนหน้านี้เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกว่ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง ตอนนี้พอถูกเขาพูดแบบนี้แล้ว ก็ลองเชื่อมโยงสิ่งที่ตัวเองพูดก่อนหน้านี้เข้าด้วยกัน

เสียงระเบิดดังขึ้นในหัวเธอ จากนั้นก็ตัวแข็งทื่อไปทันที

“ไม่แน่อาจจะเป็นคืนนี้ก็ได้ จู่ๆเธอก็มาปรากฏตัวข้างๆนาย เพื่อช่วยเหลือนายที่กำลังอกหัก พานายออกมาจากความมืด แล้วเดินไปสู่ทางแสงสว่าง”

นี่เป็นประโยคที่เธอพูดเมื่อครู่นี้ และ......เรื่องจริงมันก็เหมือนว่าเธอกำลังพูดถึงตัวเองอยู่

ในตอนนั้นเอง จู่ๆคนที่อยู่ด้านข้างก็ฟุบลง

เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกตกใจ เลยรีบหันไปมองเซียวซู่ เห็นได้ชัดว่าเขาเมาแล้ว ปิดตาแน่นเหมือนกำลังเจ็บปวด ฟุบอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อน

“......พออกหักก็กินเหล้า นี่มันโรคอะไรกัน ดื่มจนเมาเละขนาดนี้ แค่เห็นก็รู้สึกรังเกียจแล้ว” เจียงเสี่ยวไป๋อดบ่นออกมาคำหนึ่งไม่ได้ จากนั้นก็เฝ้าคอยการมาถึงของเพื่อนสนิท

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป แล้วอีกครึ่งชั่วโมงก็ผ่านไปอีก

ในที่สุดมือกีตาร์ที่อยู่บนเวทีก็ยอมวางไมค์ลงจากเวที เจียงเสี่ยวไป๋ตามหาอยู่นานกว่าจะลากตัวฟางถังถังกลับมาได้

ตอนที่ฟางถังถังทั้งใบหน้าก็เต็มไปด้วยความปลื้มปีติ ดวงตาเป็นรูปหัวใจ กุมมือตัวเองไว้เหมือนกำลังเจียงเสี่ยวไป๋กุมหัวใจด้วยน้อยๆของตัวเองเอาไว้ “เสี่ยวไป๋ เสี่ยวไป๋ไป๋ กรี๊ดเทพบุตรของฉันจับมือฉันด้วยเธอรู้ไหม

“......”

ดังนั้นเธอก็เลยทำท่ากุมมือตัวเองอย่างระมัดระวังแบบนั้นหรือ

“ฉันรู้สึกว่า ฉันไม่ล้างมือตลอดชีวิตยังได้เลย”

“ถ้าไม่ล้างมือต่อไปอย่ามาทานข้าวที่บ้านฉันอีกนะ ขอบคุณ “เจียงเสี่ยวไป๋โมโหใส่หล่อนอย่างไร้เยื่อใยไปทีหนึ่ง จากนั้นก็โบกมือ “ในเมื่อนายดูเทพบุตรของเธอเสร็จแล้ว งั้นก็รีบกลับบ้านเถอะ เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว

เจียงเสี่ยวไป๋เตรียมจะจากไป แต่ด้านหลังกลับมีคนเรียกเธอเอาไว้

“คุณผู้หญิงท่านนี้ครับ......”

ฟางถังถังหันหลังกลับไปมองด้านหลังของเธอด้วยความสงสัย เจียงเสี่ยวไป๋เองก็หันกลับไปด้วย

คนที่เรียกไว้ก็คือพี่ชายที่ผสมเครื่องดื่มให้เธอเมื่อครู่นั่นเอง เขาหันไปมองเซียวซู่ที่ฟุบอยู่บนเคาน์เตอร์บาร์ไม่ขยับเขยื้อนทีหนึ่ง จากนั้นก็มองไปทางเจียงเสี่ยวไป๋ “คุณผู้ชายท่านนี้......”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่