บทที่ 1276 คุณมันไร้เหตุผล
หานมู่จื่อพูดเรื่องพวกนี้กับพี่ชายของเธอ ไม่มีสาเหตุอื่นใด
ก็ได้หวังว่าหานชิงจะสามารถให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ จากนั้นก็จะได้จัดการไปอย่างเหมาะสม
อันที่จริงนี่มันเกี่ยวกับประเด็นทางด้านชื่อเสียงในเรื่องของความน่าเชื่อถือส่วนบุคคล อีกทั้งความสัมพันธ์อันดีเมื่อครั้งอดีตของทั้งสองตระกูล ถ้าอย่างนี้แล้วทำเป็นไม่รู้อีก ไม่คิดให้รอบคอบเลยจริงๆ
อีกส่วนนึง หานมู่จื่อก็ได้หวังว่าทางหานชิงจะสามารถจัดการเรื่องสวี่เย็นหวั่นให้เรียบร้อย ทางด้านเสี่ยวเหยียนเองก็จะสามารถนอนหลับฝันดีไม่ต้องไปกังวลกับเรื่องอะไรอีก
หึ เธอที่เป็นทั้งน้องสาว และทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทอีก มันยากลำบากมากเลย
หานชิงเองก็นึกไม่ถึงว่าหานมู่จื่อจะคิดไปหลากหลายด้านขนาดนี้
แท้จริงแล้วในตอนแรกเขาก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ แต่มาตอนนี้หลังจากที่หานมู่จื่อพูดออกมาอย่างนี้แล้ว หานชิงก็ได้รับรู้ถึงจุดที่ไม่ถูกต้อง
เป็นไปอย่างที่คิดผู้หญิงค่อนข้างจะคิดละเอียด ผู้หญิงถึงจะเป็นฝ่ายเข้าใจผู้หญิงด้วยกัน
เขาคิดว่าเธอจะไม่ใส่ใจ แต่ทำไมเธอถึงต้องมาหาเขาในเวลานี้กัน ไม่ได้มาเพื่อขอความช่วยเหลือ แล้วมันจะยังมีอะไรอีก?
“คิดใช่มั้ยล่ะว่าที่น้องสาวพี่พูดก็มีเหตุผล?”
หานชิงชำเลืองมองเธอเล็กน้อย “โตขึ้นแล้วนะ”
หานมู่จื่อ “...เรื่องพวกนี้มันก็ชัดเจนอยู่แล้วมั้ยล่ะ ตอนนี้พี่วางแผนจะทำยังไง? อยากจัดการเอง หรือว่าจะให้น้องสาวพี่คนนี้ออกหน้าจัดการให้พี่?”
ความจริงแล้วเรื่องนี้ หานมู่จื่อเองก็อยากออกหน้าเข้าไปจัดการเองสุดๆ ถ้าให้หานชิงออกหน้าเองล่ะก็ สวี่เย็นหวั่นที่หยิ่งยโสไม่ยอมแพ้ง่ายๆคนนั้น ถูกคนที่ตัวเองชื่นชมปฏิเสธ ถึงตอนนั้นแล้วคาดว่าคงจะยิ่งทนไม่ได้กว่าเดิม
อีกทั้งหานมู่จื่อเองก็กังวลว่าตอนที่หานชิงจัดการเองจะพูดตรงเสียจนทำคนอื่นเขาเสียใจเข้า
“จัดการให้พี่?” หานชิงมองเธอไปอย่างขำๆ “น้องแน่ใจ”
“แน่ใจสุดๆ ถึงยังไงฉันก็เป็นผู้หญิง ค่อนข้างจะเข้าใจเธอเลยทีเดียว อีกอย่างฉันก็คิดว่าการช่วยให้เธอหลุดพ้นจากเรื่องนี้ไปในเวลาที่เหมาะสมมันก็ไม่นับว่าเกินไปนัก เดิมทีเธอก็มีความสามารถนั้นอยู่แล้ว ให้เธอได้เจอเข้าไปตั้งแต่แรกเริ่ม มันจะเป็นการทำแย่กับเธอจริงๆ”
“อืม เย็นหวั่นเป็นคนที่มีความสามารถคนนึง บวกกับที่ได้อยู่กับคุณลุงสวี่มาหลายปีด้วยแล้ว ก็คงเรียนมาไม่น้อย”
“พูดอย่างนี้แล้ว ตกลงพี่จะให้ฉันจัดการเรื่องนี้เองแล้ว?”
“ถ้าน้องต้องการล่ะก็นะ”
“OK งั้นก็ตกลงตามนี้นะ”
หลังจากที่สองพี่น้องคุยกันเสร็จ ก็กินไปอย่างเงียบๆไปอีกสักพักนึง หลังจากนั้นสายของเย่โม่เซินก็โทรเข้ามา บอกว่าเสี่ยวโต้วหยากำลังร้องไห้อยู่ด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น ให้เธอรีบกลับเร็วๆ
หานมู่จื่อตั้งใจฟังอย่างละเอียด เดิมทีก็ไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของทารกดังขึ้นมาจากปลายสายเลยมั้ยล่ะ
เขากำลังหลอกเธอ
แต่เธอก็ไม่อยากเปิดโปงของเขาออกไป ทำได้เพียงเอ่ยออกไป “ใกล้แล้วล่ะ ฉันกินข้าวเสร็จเดี๋ยวจะกลับไป”
“กินเสร็จแล้วหรือยัง?”
หานมู่จื่อมองอาหารบนโต๊ะ “ใกล้แล้วล่ะ อีกห้านาทีล่ะมั้ง”
“ดี งั้นผมจะรอคุณอยู่ด้านนอกแล้วกัน”
หานมู่จื่อ “???”
คนผู้นี้วิ่งแจ้นมาที่นี่ด้วยหรอ?
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน? คุณคงจะไม่ได้อยู่นอกร้านหรอกใช่มั้ยคะ?”
เย่โม่เซินเงียบไปสักพัก จากนั้นก็ส่งเสียงอืมออกมา
หานมู่จื่อ “...เย่โม่เซิน!”
“เอาล่ะ กลับบ้านกันเถอะ”
หานมู่จื่อถูกเขาโอบเอาไว้ พร้อมเดินหน้าออกไปอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
ระหว่างทางกลับ หานมู่จื่อเอาเนื้อหาบทสนทนาของทั้งสองคนบอกกับเย่โม่เซินไป จากนั้นก็บอกว่าเธอคิดจะชวนสวี่เย็นหวั่นไปทำงานที่บริษัท ได้ยินแล้วเย่โม่เซินก็ขมวดคิ้วออกมา
“นั่นเป็นเรื่องของพี่ชายคุณ ทำไมต้องให้คุณออกหน้าด้วย?”
“เพราะว่าเขาเป็นพี่ชายของฉันไง ฉันก็เลยกลัวว่าเขาจะจัดการได้ไม่ดี ฉันก็เลยต้องออกหน้าแทนเขา มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
เย่โม่เซินขมวดคิ้วออกมา คิดว่าเขาควรจะโทรหาหานชิง ผู้ชายตัวโตคนนึงแม้แต่เรื่องของตัวเองก็ยังจัดการไม่ได้ นึกไม่ถึงว่าจะต้องมาให้น้องสาวของเขามาจัดการ?
แต่หานมู่จื่อดูเหมือนว่าจะสามารถรู้ได้ว่าภายในใจของเขากำลังคิดอะไรอยู่ยังไงอย่างนั้น จึงขัดความคิดของเขาออกไป “ถ้าคุณกล้าโทรหาพี่ชายฉันพูดอะไรออกไป คืนหลังจากนี้ไม่อนุญาตให้คุณเข้ามาในห้องฉัน”
เย่โม่เซิน “...ห้องของคุณอะไรกัน นั่นมันห้องของเราต่างหาก”
“งั้นหรอ? งั้นถ้าคุณโทรไปพูดไร้สาระกับพี่ชายฉัน ฉันจะย้ายออกไป”
เย่โม่เซิน “...”
“ฉันขอเป็นคนตระกูลหานก่อน แล้วค่อยเป็นคนตระกูลเย่ เรื่องนี้ฉันจะต้องจัดการมันให้ได้”
เธอยืนกรานออกมา เย่โม่เซินเองก็จนปัญญา สุดท้ายทำได้แค่เพียงปล่อยเธอไป
ดังนั้นแล้วในวันต่อมาหานมู่จื่อก็ได้ติดต่อไปยังสวี่เย็นหวั่น สอบถามเธอว่าช่วงนี้หางานเป็นยังไงบ้างแล้ว สวี่เย็นหวั่นบอกว่าส่งประวัติส่วนตัวไปแล้ว อยู่ในระหว่างที่รอการตอบกลับ หานมู่จื่อบอกไปว่าบริษัทสามีของเธอมีตำแหน่งว่าง บางทีเธอก็มาลองดูสักหน่อยก็ได้
จากนั้นทางสวี่เย็นหวั่นก็เงียบไปนาน ถึงจะเอ่ยถามออกมาว่า “น้องมู่จื่อ พี่รู้ว่าน้องอยากช่วยพี่ แต่...วันนั้นพี่ก็บอกแล้วนี่ว่าพี่ไม่อยากรับการช่วยเหลือจากใคร พี่หวังว่าจะสามารถฟื้นฟูตระกูลสวี่ขึ้นมาได้ด้วยกำลังของพี่เอง พี่ไม่อาจให้พ่อกับแม่พี่ต้องผิดหวัง พี่ขอบคุณความหวังดีของน้องนะ แต่พี่รับมันเอาไว้ไม่ได้จริงๆ”
หานมู่จื่อ “พี่เย็นหวั่น พี่เข้าใจผิดแล้วล่ะมั้งคะ? ตำแหน่งงานที่บริษัทว่างไม่ใช่ฉันที่เป็นคนสร้างมันขึ้นมาเองหรอกนะคะ ฉันเพียงแค่ให้พี่ไปลองดู พี่ยื่นประวัติส่วนตัวไปตั้งหลายบริษัท เพิ่มไปอีกบริษัทนึงก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่คะ? ยิ่งไปกว่านั้น ตัวพี่เองมีความสามารถอะไรพี่ไม่รู้เลยหรอคะ? ถึงตอนนั้นยื่นประวัติไปแล้ว สามารถผ่านการสัมภาษณ์งานหรือเปล่าก็ต้องดูจากการตัดสินใจของฝ่ายบุคคลของบริษัทน่ะสิ นี่จะนับเป็นการช่วยเหลือพี่ได้ยังไงกันคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่