เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 1681

บทที่ 1680 พูดให้มันชัดเจน

“แกจะรู้ได้ยังไงว่าเขายังไม่มีแฟน ไม่แน่อาจจะมีมานานแล้ว”

“เป็นไปไม่ได้” ถางหยวนหยวนส่ายหน้าอย่างมั่นใจ

จางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันทั้งสองคนเดินมาตรงด้านหน้าเธอ หนึ่งในนั้นยืนกอดอก

“ทำไมแกถึงมั่นอกมั่นใจขนาดนี้? หรือว่าเขาเคยบอกแกแล้วเหรอ? ความจริงแล้วหลายครั้ง ที่แกไม่ต้องไปเชื่อกับคำพูดของผู้ชาย ถึงแม้ว่าจะหลุดออกมาจากปากเขาตรงๆ ก็ใช่ว่าจะเป็นความจริงไปซะทั้งหมด”

“ใช่ๆ นี่คือประสบการณ์ของพวกเราที่เคยผ่านมาแล้ว”

ถางหยวนหยวนทำปากยื่น “ฉันไม่สนใจ เพราะถึงอย่างไรฉันรู้ ว่าพี่ชายของฉันนั้นไม่ใช่ผู้ชายประเภทคนที่พวกแกพูดออกมา ฉันเชื่อมั่นในตัวเขา”

พูดจบถางหยวนหยวนก็เดินตรงปรี่เข้าห้องน้ำ แล้วก็ปิดประตู ทิ้งเสียงสองคนนั้นไว้ด้านนอก

จากนั้นเธอก็เอาแต่ยืนมองตนเองด้านหน้ากระจก นานพอควรถึงได้ยื่นมือออกมาสัมผัสใบหน้าของตนเอง ทำไม? เธอรู้สึกว่าตนเองนั้นช่างน่าผิดหวังจริงๆ ทั้งๆ ที่ถูกทอดทิ้งให้เย็นชามาตั้งนาน ทว่าคืนนี้เมื่อได้ยินคำพูดของยู่ฉือยี่ซูออกมาแล้ว ในใจของเธอพลันยกโทษให้เขาหมดแล้ว

อีกอย่าง คำพูดพวกนั้นที่เขาพูดออกมา จนถึงตอนนี้มันยังสะท้อนอยู่ข้างหู

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิด แต่มันหวาดกลัว กลัวว่าจะทำให้เธอตกใจจนวิ่งหนีเตลิดไป คำพูดตามความจริงนี้พูดในตอนที่เหมาะที่ควร ถางหยวนหยวนรู้สึกว่ามันไพเราะเพราะพริ้งมาก

ตอนที่เธอเดินกลับมานั้น อีกนิดก็จะอดใจไม่ไหวที่ตนเองจะกระโจนลอยไปหา

พอเถอะ ยังไม่ต้องคิดดีกว่า

ถางหยวนหยวนขยี้ศีรษะของตนเอง เพื่อลบทิ้งวิธีการความคิดอันสับสนเหล่านั้นออกไปจากสมอง หลังจากอาบน้ำเสร็จก็พักผ่อนทันที

เช้าวันรุ่งขึ้น

ถางหยวนหยวนก็เจอกับจงหย่งหรันที่ด้านนอกโรงเรียน เพราะว่าเรื่องเมื่อคืนนี้ ดังนั้นยามเมื่อเธอเจอหน้ากับจงหย่งหรันเลยรู้สึกทำตัวไม่ถูกมาก พลางหันตัวกลับเพื่อจะวิ่งหนี

“รุ่นน้อง”

จงหย่งหรันดันเรียกเธอมาทางด้านหลัง เขาไม่อ้าปากพูดก็ยังดี พอพูดแล้วถางหยวนหยวนได้แต่ยืนนิ่ง พลางหันกลับไปมองจงหย่งหรัน

“รุ่น รุ่นพี่”

“เห็นฉันแล้ววิ่งหนี? รุ่นพี่อย่างฉันเปลี่ยนเป็นคนน่ากลัวแบบนี้ไปตั้งแต่ตอนไหนกัน?”

จงหย่งหรันเดินตรงมาด้านหน้าของเธอ พร้อมทั้งจ้องมองเธออย่างเบื่อหน่าย

“ขอโทษด้วยรุ่นพี่ ฉันก็แค่....”

“พอแล้ว คุณไม่ต้องอธิบายอะไร” จงหย่งหรันเอาคำพูดที่เธออยากจะพูดแทนแล้ว “ผู้ชายคนที่มาทีหลังคนนั้น เป็นคนที่คุณชอบใช่ไหม?”

เมื่อได้ยินแล้ว ใบหูของถางหยวนหยวนแดงแจ๋ สัญชาตญาณอยากจะโต้ตอบ

“คุณไม่ต้องรีบร้อนปฏิเสธ มองออกอยู่” จงหย่งหรันยิ้มให้เล็กน้อย “อีกอย่างความสัมพันธ์ของคุณสองคนถือว่าสนิทสนมกันมากใช่ไหม”

ถางหยวนหยวนไม่ได้ตอบ

“ชอบ ก็อย่าปล่อยเลยตามเลย รุ่นพี่ไม่มีความหมายอื่นใด ต่อไปเรายังเป็นเพื่อนกันได้”

“ตกลง” ถางหยวนหยวนพยักหน้าให้

“อย่าได้เก็บกดเอาไว้ มีเรื่องอะไรก็มาหารุ่นพี่นะ”

หลังจากรอให้คนไปแล้ว ถางหยวนหยวนถึงได้ถอนหายใจโล่งอก โชคดีจัง เธอยังคิดว่าจงหย่งหรันจะออกมาพูดคำพูดที่สร้างแรงกดดันให้เธอ ไม่คิดเลยว่าเขาจะไม่พูดอะไรเลย

เพราะว่าคำพูดของยู่ฉือยี่ซูเมื่อวานนี้ ถางหยวนหยวนไม่อาจจะเรียนหนังสือได้ตามปกติ อึดอัดจนทนไม่ไหว ไม่ง่ายเลยที่จะทนจนเลิกเรียน

จางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันดึงเธอพร้อมทั้งเตรียมตัวออกจากโรงเรียนไปจับจ่ายซื้อของ

ทว่าเมื่อทั้งสามคนเดินออกจากประตูโรงเรียนก็เจอกับยู่ฉือยี่ซูที่มายืนอยู่ตรงประตูโรงเรียน

เขายืนสะดุดตาท่ามกลางฝูงชน เมื่อเงยหน้าขึ้นก็สามารถเห็นได้

ถางหยวนหยวนมือเรื่องให้คิดอยู่ในใจ ดังนั้นเอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาดูด้านหน้าเลย จนสองคนที่อยู่ด้านข้างหยุดเท้าลง เธอถึงได้สติกลับมา

“พวกแกเป็นอะไร? ไม่ใช่ว่าจะไปซื้อของหรอกเหรอ?”

หยวนเย่าหันกับจางเสี่ยวลู่ใช้สายตาอันสับสนมองเธอมาแวบหนึ่ง “มีคนยืนรอแกตรงประตู ยังจะไปซื้อของ ซื้ออะไรล่ะ?”

คน?

ยู่ฉือยี่ซูมองถุงใต้ตาที่มันเป็นสีเขียวปนดำพลางยิ้มเล็กน้อย “โอเค ฉันนอนไม่ค่อยหลับ คุณนอนหลับสบายมาก งั้นเราไปกินข้าวเย็นกัน?”

“ใครจะไปกินข้าวเย็นกับคุณกัน?” ถางหยวนหยวนบ่นเป็นหมีกินผึ้ง

“ไม่กินข้าวเย็นกับฉัน หรือว่าคุณอยากกินข้าวกับเด็กหนุ่มคนเมื่อคืนนี้?”

“ฉันเปล่า!”

“งั้นก็ไปกินข้าวกับฉัน”

พูดจบ ยู่ฉือยี่ซูก็ดึงมือเธอเดินขึ้นหน้าไปอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง ถางหยวนหยวนได้แต่เดินตรงไปด้านหน้ากับเขา การก้าวเท้าของเขานั้นกว้างมาก ถางหยวนหยวนถึงกับต้องวิ่งเหยาะๆ ถึงตามเขาทัน

ผ่านไปชั่วครู่ การก้าวเท้าของยู่ฉือยี่ซูก็เริ่มผ่อนช้าลง ถางหยวนหยวนถึงได้ถอนหายใจออก

จากนั้นหลายวัน ทุกวันยู่ฉือยี่ซูก็จะปรากฏกายตรงหน้าประตูโรงเรียนตรงเวลาทุกวัน พร้อมทั้งมาพาถางหยวนหยวนไปกินข้าวตรงเวลา ทว่าไม่มีการปริปากเอ่ยถามในสิ่งที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าเรื่องเป็นอย่างไรบ้าง

ทุกวันก็เป็นเช่นนี้ การแสดงออกนั้นสงบเสงี่ยมทำตัวปกติ ราวกับคนที่รีบร้อนจะเป็นถางหยวนหยวนคนเดียว

หลายครั้งที่เธอคิดว่ายู่ฉือยี่ซูจะถาม แต่ทุกครั้งเขาก็เอาคนมาส่งหน้าประตูโรงเรียน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ในใจของถางหยวนหยวนนั้นร้อนรนจนทนไม่ไหวแล้ว

แต่พอเห็นว่าเขาไม่ปริปากพูดอะไร ถางหยวนหยวนได้แต่หันหลังให้แล้วเดินกลับเข้าไป

พริบตาเดียว ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์

“นานขนาดนี้แล้ว ยังคิดไม่ได้อีกเหรอ?”

เมื่อเจอกันครั้งแรกในวันนี้ ยู่ฉือยี่ซูพลันถามประเด็นหลักขึ้นมาทันที

ถางหยวนหยวนเม้มริมฝีปากเอาไว้ “ไม่ใช่ว่าไปกินข้าวเหรอ? กินข้าวกันก่อนเถอะ”

ตอนที่ทั้งสองคนกำลังกินข้าวกันอยู่นั้น จนกลายเป็นความเคยชิน อีกอย่างถางหยวนหยวนก็รู้สึกว่าอารมณ์ของตนเองนั้นชัดเจนมากแล้ว ถ้าไม่ตอบตกลงแล้วละก็ ทุกวันนี้เธอก็คงไม่ออกมากินข้าวกับเขา

เหมือนรุ่นพี่จงหย่งหรันคนนั้น เธอกลัวมากที่จะได้เจอกับเขา จากนั้นก็โดนบังคับให้ไปนั่งกินข้าวกับเขาอีก ความรู้สึกเช่นนี้มันไม่ดีมากเลย

เมื่อเดินได้สองก้าว ข้อมือของถางหยวนหยวนก็ถูกเขาคว้าไว้แน่น

“พูดออกมาให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยไปกินข้าวกัน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่