เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 414

บทที่ 413 ขัดจังหวะเรื่องดีของประธานเย่

“ไม่มีใครบอกคุณหรือว่าอย่าทำแบบเดิมซ้ำสอง”

แต่ทว่าครั้งนี้ หานมู่จื่อกลับทำไม่สำเร็จ

เย่โม่เซินอย่างกับเหมือนจะมองเห็นการกระทำของเธอล่วงหน้า หยุดขาทั้งสองข้างของเธอไว้ได้ล่วงหน้าและอย่างกับดูท่าทางของเธอออกได้อย่างง่ายดาย

เดิมทีความแตกต่างในด้านพละกำลังของทั้งสองคนก็แตกต่างกันมาก ก่อนหน้าที่หานมู่จื่อสามารถทำร้ายเขาได้ เพียงเพราะว่าช่วงเวลานั้นเขาเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับกลิ่นหอมของเธอ นอกจากนี้เขาไม่คาดคิดว่าเธอจะขยับเท้าอย่างกะทันหัน ดังนั้นเขาจึงถูกกระแทกโดยไม่ได้ทันระวังตัว

แต่กลอุบายเดียวกัน ถ้าใช้ครั้งที่สอง ผลที่ได้รับคือเล็กน้อยมาก

ขาของหานมู่จื่อถูกเขากดไว้ สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที “คุณปล่อยฉันนะ”

รอยยิ้มที่ชั่วร้ายเล็กน้อยของเย่โม่เซิน “ปล่อยไปแล้ว ให้คุณเอาเท้ามาทักทายต่อไปเหรอ คุณคิดว่าผมโง่มากหรือไง ถึงให้คุณหลอกอีก”

หานมู่จื่อสูดหายใจเข้าลึกๆ และบังคับตัวเองให้สงบลง

เธอกัดริมฝีปากล่าง แล้วพูดเสียงเบาว่า “นายเย่ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำแบบเดิมอีก ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ พวกเรามาคุยเรื่องงานกันอย่างจริงจังดีไหมค่ะ”

“คุยเรื่องงานเหรอ” เย่โม่เซินยิ้มเสียงทุ้มต่ำ “ดีครับ คุยสิครับ”

ตอนแรกหานมู่จื่อคิดว่าเขายอมจะลุกขึ้น แต่ใครจะไปรู้ว่าพอเขาพูดประโยคนี้จบ หลังจากนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เลย เขายังคงกดเธออยู่และไม่ปล่อยให้เธอเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น

หานมู่จื่อยื่นมือออกไปและผลักอย่างแรง แต่คนที่กดร่างกายของเธอนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวสักนิด

“ ……นายเย่คุณล้อเล่นกับฉันเหรอ” ในที่สุดสายตาของหานมู่จื่อก็เย็นลง

สายตาของเย่โม่เซินก็หนักอึ้งลงเล็กน้อย เขาก้มลงเพื่อให้ศีรษะอยู่ห่างจากเธอเพียงไม่กี่นิ้ว “คุณคิดว่าผมดูเหมือนล้อเล่นหรือไง”

อุณหภูมิทั้งตัวที่ออกมาจากตัวของเขาทำให้อากาศโดยรอบลดต่ำเย็นลง และทำให้ทั้งห้องทำงานหนาวเย็นราวกับหิมะที่ปกคลุมไปทั่วเฉกเช่นฤดูหนาวในช่วงเดือนธันวาคม

ก๊อก ก๊อก ----

ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอย่างพอดิบพอดี

หานมู่จื่อพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “มีคนมา”

“ไม่มีคำสั่งของผม เขาไม่สามารถเข้า......”

พูดยังไม่ทันจบ ประตูห้องทำงานก็โดนคนเปิดออก ผู้ถือหุ้นสองคนที่เคยโต้เถียงกันมาก่อนก็เดินหน้าเขียวเข้ามาพร้อมกัน

“พวกเรามาหาประธานเย่เพื่อที่จะดูว่าเรื่องนี้ท่านประธานจะทำอย่างไร ถึงอย่างไรผมก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดของเขาแน่”

“ดีครับ งั้นไปถามประธานเย่ว่าเขาคิดยังไง ผมไม่เชื่อหรอกว่า ประธานเย่จะไม่ฟังคุณ”

ผลปรากฏว่าทั้งสองคนเดินอย่างมาดมั่นเข้าไปข้างใน แต่ในขณะเดียวกัน ก็ส่งผลให้พวกเขาหยุดเดินเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนโซฟา พร้อมกับลืมตาอ้าปากด้วยความไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด

หานมู่จื่อกัดฟัน “ไหนคุณบอกว่าจะไม่เข้ามาไง”

มุมปากของเย่โม่เซินอดไม่ได้ที่จะกระตุก ชายแก่สองคนที่รนหาที่ตาย

ดวงตาอันเย้ายวนกะพริบไปอย่างรวดเร็ว ริมปากของเย่โม่เซินยิ้มเล็กน้อย

“รอผมสักครู่”

พูดจบ เขาก็จับหลังของหานมู่จื่อด้วยมือใหญ่ ดันตัวของเธอขึ้นและดึงเธอไปที่ด้านหลังของเขาด้วยความเร็ว เร็วมากจนชายแก่ทั้งสองยังไม่ทันเห็นใบหน้าของหานมู่จื่อ

“ประ ประธานเย่” หนึ่งในนั้นรู้สึกอึดอัดวางตัวไม่ถูกและดึงเคราจากมุมปากของตัวเองโดยไม่รู้ตัว

ส่วนอีกคนก็ยิ้มให้ “โอ้ นึกไม่ถึงว่าประธานเย่ของเรา...”

“ไสหัวออกไป” แต่ทว่าในวินาทีถัดมา ใบหน้าที่แสดงออกของทั้งสองกลับแข็งกระด้างขึ้น เพราะเย่โม่เซินจู่ๆ ก็เอ่ยปากอย่างไร้ความปรานีเพื่อไล่พวกเขาออกไป

สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไป คนที่ยิ้มในตอนนั้น เริ่มเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมา “โม่เซิน ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นถึงประธานเย่ แต่คุณก็ไม่ควรดูถูกผู้อาวุโส คุณหมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าไสหัวออกไป”

แม้ว่าอีกฝ่ายสีหน้าเปลี่ยนสีไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดเกินจริง แต่กลับก้าวไปข้างหน้าและรั้งเขาไว้ “พวกเราขัดจังหวะเรื่องดีของประธานเย่ แน่นอนว่าเขาไม่ยินดีด้วยหรอก แม้ว่าจะให้พวกเราไสหัวออกไปมันก็เป็นเรื่องธรรมดานี่นา”

“แกพูดว่าอะไรนะ”

เพราะคำพูดของเขา การกระทำของหานมู่จื่อ สีหน้าของเธอกลับไร้ซึ่งความรู้สึก แต่ในใจกลับมีคำด่าหมื่นคำได้ หรือว่าเขาจะจับกินไม่ได้

เมื่อสักครู่ที่จับเธอกดลงบนโซฟาสายตาและท่าทางก็เหมือนเช่นสัตว์ร้าย

นี่อาจเป็นวิธีที่เขาทำให้ตัวเองอับอายขายหน้าก็ได้

หานมู่จื่อนำเอกสารที่เตรียมมาอย่างเรียบร้อยออกมาจากกระเป๋า จากนั้นก็วางไว้บนโต๊ะ

“พวกเราเริ่มกันได้เลย”

เย่โม่เซินก้าวขาที่ยาวของเขาเดินตรงไปนั่งลงที่โซฟาตรงหน้าเธอ

“เกี่ยวกับการออกแบบในครั้งนี้ นายเย่วางแผนไว้จะออกแบบเสื้อผ้าให้ตัวคุณเองหรือออกแบบให้กับคนในครอบครัวค่ะ”

ได้ฟังแล้ว เย่โม่เซินก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว “คนในครอบครัว มู่จื่อสนใจในสถานะครอบครัวของผมมากขนาดนั้นเชียว”

หานมู่จื่อ “......”

ครู่ต่อมาเธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นายเย่เข้าใจฉันผิดแล้วค่ะ ในฐานะนักออกแบบของคุณ ฉันมีสิทธิ์ที่จะทราบความต้องการของคุณในขณะนี้ อีกอย่างหนึ่งช่วยเรียนฉันว่าShellyด้วยค่ะ”

เย่โม่เซิน “โอ้ มู่จื่อนั้นไม่ใช่ชื่อของคุณหรือ”

มู่จื่อเป็นชื่อของเธอก็จริง เป็นชื่อที่ครอบครัวหานตั้งให้เธอ หลังจากที่เธอบอกลาชื่อเสิ่นเฉียวเมื่อห้าปีก่อน

ฟังที่หานชิงบอกมา ชื่อนี้ถูกคนในครอบครัวหานร่วมแรงร่วมใจกันตั้งให้ มีความหมายที่พิเศษ

สำหรับหานมู่จื่อนั้น ชื่อนี้นอกเหนือจากที่ได้รับจากครอบครัวแล้ว ยังแสดงถึงการเกิดใหม่และการนิพพาน

มันเป็นการเกิดใหม่ของเธอคนเดียว

เธอไม่ใช่เสิ่นเฉียวในอดีตอีกต่อไปแล้ว และจะไม่ตายใจกับเย่โม่เซินอีก

“ในตอนทำงาน ฉันอยากให้ลูกค้าเรียกฉันว่าShelly ขอบคุณค่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่