บทที่ 432 ขี้งอน
ทำดีชดเชยความผิดเหรอ?
เสี่ยวเหยียนมองเขาแวบหนึ่ง พอเห็นว่าดวงตาของเซียวซู่เต็มไปด้วยความขอโทษและพบว่าเขาอยากขอโทษตัวเองอย่างจริงใจ
เขาพูดก็มีเหตุผล ทั้งสองคนยืนอยู่คนละฝั่ง คำพูดที่พูดออกมาก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ชิน
แต่ เสี่ยวเหยียนยังคงรู้สึกว่าคำพูดที่เขาพูดคืนนี้มันเกินไปแล้วจริงๆ
ดังนั้นเธอจึงไม่ตอบอะไร
เซียวซู่กลัวเธอจะโกรธจริงๆ จึงเดินไปอีก ทำได้แค่ลดท่าทีลงและขอร้องเธอเบาๆ
“ผมขอโทษคุณ คุณยอมขึ้นรถได้หรือยัง?”
เสี่ยวเหยียน: “……”
ถ้าเธอยังโกรธอยู่ นั้นไม่แสดงว่าเธอใจแคบและไม่มีเหตุผลมากเหรอ?
พอแล้ว อย่างไรเสียก็ไม่ได้อยู่ร่วมทางเดียวกับพวกเขา พอคิดแบบนี้ เสี่ยวเหยียนก็มองเข้าอีกครั้งแล้วเดินกลับไปที่รถ เซียวซู่เห็นแบบนี้ก็ถอนหายใจ อดยิ้มออกมาไม่ได้
ในโรงพยาบาล
เงียบสงบจนมีแค่เสียงของเครื่องมือที่ดัง เย่โม่เซินนั่งนิ่งไม่ขยับอยู่ที่ขอบเตียงราวกับรูปปั้น สายตาพิจารณาที่ใบหน้าของหานมู่จื่อตลอด
ทันใดนั้นขนตาของหานมู่จื่อก็ขยับราวกับว่าเธอกำลังจะตื่น
เย่โม่เซินที่ดูสงบนิ่งมาตลอดกลับรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยแล้วนั่งเหยียดตัวตรงเพียงเพราะขนตาที่ขยับเบาๆ นี้ของเธอ
หานมู่จื่อสลบไปเป็นเวลานาน ดังนั้นตอนที่เธอลืมตาขึ้น แสงไฟที่แสบตาทำให้เธอไม่สามารถลืมตาได้ทันที ในขณะที่เธอกำลังปรับตัวให้เข้ากับความมืดอยู่นั้น กลับได้ยินเสียงปิดไฟตื๊ก แสงไฟภายในห้องถูกคนปิดแล้ว แทนที่ด้วยโคมไฟตั้งโต๊ะสลัวๆ ที่อยู่ห่างออกไป
แบบนี้เธอจึงวางใจแล้วลืมตา
สิ่งที่สะท้อนเข้าสู่ม่านตา เงาร่างแข็งแกร่งสูงเพรียว
“ตื่นแล้ว?”
เสียงเย็นชาของผู้ชายดังมาจากด้านบนหัวเตียง หานมู่จื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเย่โม่เซินอย่างชัดเจน รวมถึงริมฝีปากบาง ๆ ที่ปราศจากอุณหภูมิที่เอ่ยถ้อยคำเย็นชา
ริมฝีปากของเธอขยับเล็กน้อย อยากพูดอะไรบางอย่างแต่กลับพบว่าตนเองไม่มีแรง
วินาทีต่อมา มือคู่ใหญ่ก็โอบเธอไว้แล้วพยุงเธอขึ้นมา หลังจากนั้นนำหมอนสองใบมาหนุนด้านหลังเธอ ให้เธอนั่งพิงอยู่ตรงนั้นอย่างสงบ
“ดื่มน้ำสักแก้ว” เย่โม่เซินนำแก้วน้ำยื่นไปที่ริมฝีปากเธอ แสดงหมายความว่าให้เธอดื่ม
หานมู่จื่อมองมือซึ่งมีข้อต่ออย่างชัดเจนที่อยู่ใกล้ๆ นี้ แล้วส่ายหัวปฏิเสธเล็กน้อย ไม่อยากดื่ม
“เหอะ” เย่โม่เซินหัวเราะเสียงต่ำ: “ทำไม? ไม่มีแรงแล้วยังอยากจะรินน้ำด้วยตัวเองเหรอ?”
หานมู่จื่อไม่ยอมพูด ถึงแม้ริมฝีปากจะขาวซีดแต่กลับรักษาท่าทางดื้อรั้นแบบนั้นอยู่
เย่โม่เซินมองท่าทางแบบนี้ของเธอ แล้วถูกเธอทำให้โกรธจนไม่อยากโกรธแล้วจริงๆ
หลังจากนั้นแป๊บเดียว เขาก็พูดเสียงต่ำ: “เวลาห้าปี ฉันก็ยังนึกว่านิสัยเธอจะเปลี่ยน คิดไม่ถึงว่าเธอยังดื้อเหมือนเมื่อก่อน แต่ความดื้อรั้นนี้จะให้ผลดีอะไรกับเธอ?”
“……” หานมู่จื่อกัดฟันกรอดเงยหน้าจ้องเขาแวบหนึ่ง
ดูเหมือนว่าเขาจะตั้งใจ ยื่นแก้วน้ำมาที่ริมฝีปากเธอ
“จะดื่มไม่ดื่ม?”
พอคิดสักพัก หานมู่จื่อจึงดื่มน้ำไปอึกหนึ่ง แต่ถ้าว่าตอนนี้เธอไม่มีแรง เขาอยากดูแลเธอตรงนี้ อย่างนั้นก็แล้วแต่เขาเถอะ
ก่อนหน้านี้หานมู่จื่อหิวจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว พอตอนนี้มองโจ๊กสีขาวนี้ ก็ไม่รู้สึกอยากอะไร แค่มองด้วยสายตาเรียบๆ แววหนึ่งแล้วดึงสายตากลับมา หลังจากนั้นเอ่ย: “ฉันไม่อยากกิน”
พอได้ยิน เย่โม่เซินก็หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย: “ไม่อยากกิน?”
เธอไม่ตอบ เพียงแค่ส่ายหน้า หลังจากนั้นอยากจะเอนตัวลงนอนอีกครั้ง
เย่โม่เซินมองโจ๊กสีขาวในชามแวบหนึ่ง ไม่มีชีวิตชีวา แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ก็กินรสชาตินี้ไม่ลง แต่ตอนนี้เธอเป็นโรคกระเพาะ นอกจากดื่มโจ๊กนี้ เธอยังจะกินอะไรได้อีก?
“ไม่กิน เธออยากหิวตาย?” แปลกประหลาดมาก น้ำเสียงของเย่โม่เซินเริ่มเปลี่ยนเป็นเลวร้ายขึ้น เขาเอื้อมมือไปจับข้อมือของหานมู่จื่อ: “ตื่นขึ้นมาดื่มก่อนแล้วค่อยนอน”
หานมู่จื่อที่เพิ่งจะฟื้นฟูเรี่ยวแรงขึ้นมาได้นิดหน่อย ก็เริ่มขัดขืนขึ้นมา แล้วพูด: “คุณปล่อยฉันนะ ฉันไม่อยากดื่ม”
“ไม่ดื่มแล้วกระเพาะเธอจะรับไหวเหรอ? ไม่กินอะไรทั้งวัน เธอคิดว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์เหรอ?” น้ำเสียงของเย่โม่เซินแย่มาก สายตาก็เริ่มดุดัน นับว่ามีความสามารถ เขาเทียบผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ไม่ได้จริงๆ
แน่นอน ความสามารถที่บีบบังคับให้คนป่วยได้
หานมู่จื่อไม่ตอบ เพียงแต่คิดจะดึงมือของตนเองกลับไปอย่างดื้อรั้น แต่ว่าจากเดิมที่ไม่มีแรงสู้เย่โม่เซินอยู่แล้ว ยิ่งป่วยอีก ดังนั้นจึงยิ่งไม่มีแรงไปใหญ่
เรี่ยวแรงแบบนี้สำหรับเย่โม่เซินแล้ว เหมือนกับลูกแมว
เดิมทีเย่โม่เซินมีความโกรธสุมอยู่เต็มอก แต่เย่โม่เซินกลับตะลึงกับแรงมือที่ดึงนั้นสักพัก หลังจากนั้นก้มหน้าลงมองท่าทางของหานมู่จื่อ เธออยู่ตรงนั้นแสดงสีหน้าที่จริงจังและเคร่งขรึมอยากที่จะดึงมือตัวเองกลับไป ราวกับเด็กน้อยขี้หงุดหงิด
น่าแปลก ความโกรธในใจดับลงเล็กน้อย
จากนั้น ก็ถูกแทนที่ด้วยสัมผัสของความอ่อนโยนและนุ่มนวล
เย่โม่เซิน นายจะคิดเล็กคิดน้อยกับผู้หญิงที่ป่วยอยู่ทำไม? จะโกรธอะไร? เธอรู้สึกไม่สบายกระเพาะ แน่นอนว่าคนก็ไม่สบายตาม ตอนนี้เธอกำลังงอนอยู่
พอคดแบบนี้ สายตาของเย่โม่เนก็อดที่จะอ่อนโยนไม่ได้ น้ำเสียงก็อ่อนลงไปมาก
“ก็ลุกขึ้นมาดื่มสักหน่อย หืม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่