บทที่ 480 อย่าได้คืบจะเอาศอก
เนิ่นนาน หานมู่จื่อพูดขึ้นเสียงเบา “คุณบาดเจ็บ ฉันไม่ใช่หมอ ฉันอยู่ที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์”
“ใครบอกว่าไม่มี?” เย่โม่เซินเงยหน้าขึ้น แววตามองเธออย่างลึกซึ้งโดยตรง ริมฝีปากบางเปิดขึ้นเล็กน้อย “เข้ามา”
แม้ว่าสีหน้าของเขาจะยังคงดูแย่อยู่ แต่ก็ดูดีขึ้นกว่าเมื่อครู่อย่างเห็นได้ชัด หานมู่จื่อไม่ได้เดินหน้าต่อไป แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ แล้วพูดขึ้นเสียงเบา “มีเรื่องอะไรพูดแบบนี้ก็ได้ ฉันได้ยิน”
“จริงเหรอ?” เย่โม่เซินหัวเราะเยาะ “แต่ฉันทำไม่ได้ เข้ามา”
หานมู่จื่อ “......คุณอย่าได้คืบจะเอาศอก!”
“ได้ งั้นฉันเข้าไป” พูดจบ เย่โม่เซินก็จะลุกขึ้นเดินไปหาเธอจริงๆ
เขาเพิ่งขยับตัวเล็กน้อย ทันใดนั้นสีหน้าของหานมู่จื่อก็เปลี่ยนไปอย่างหนัก ยังไม่ทันจะคิดอะไรก็เดินเข้าไปหาเขาทันที แล้วผลักเขากลับไปบนเตียง “คุณอย่าทำอะไรซี้ซั้ว หมอเพิ่งจะทำแผลให้คุณใช่ไหม? ทำไมคุณถึง......”
คำพูดหลัง ถูกอ้อมกอดของเขาครอบงำแล้ว หานมู่จื่อถูกเขากอดไว้ในอก สีหน้างุนงงเล็กน้อย หัวใจเหมือนจะหยุดลงในวินาทีนั้น ในลมหายใจเต็มไปด้วยกลิ่นของผู้ชายคนนี้
ถึงแม้ว่า...... ที่นี่จะเป็นโรงพยาบาล
ขนตาของหานมู่จื่อสั่นเบาๆ เสียงก็สั่นไหวเล็กน้อย “คุณ คุณทำอะไร?”
เย่โม่เซินสูดลมหายใจอย่างละโมบระหว่างคอของเธอ เสียงซึมเล็กน้อย “ทำความแน่ใจว่า คุณปลอดภัยหรือเปล่า?”
หานมู่จื่อ “......”
“ฉันสบายดี คุณรีบปล่อยฉันเร็วๆ” หานมู่จื่อพูดพร้อมกับอยากผลักเขาออก
“อืม......” เย่โม่เซินส่งเสียงทุ้มต่ำด้วยความเจ็บปวด ทำให้หานมู่จื่อหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดได้สำเร็จ เธอเป็นคนที่ได้เห็นบาดแผลของเขาด้วยตาของเธอเอง และยังได้ดูนานขนาดนั้น จะไม่รู้ความสยองของบาดแผลนั้นได้อย่างไร?
ดังนั้นตอนนี้เขาร้องด้วยความเจ็บปวด มันก็ต้องเจ็บปวดมากจริงๆ เพราะแม้แต่เธอที่แค่เห็น ยังทนไม่ไหว
"คุณสบายดี แต่ฉันไม่ดี” น้ำเสียงของเย่โม่เซินมีความน้อยอกน้อยใจด้วย ไอความร้อนที่หายใจออกมา พ่นลงบนคอของหานมู่จื่อทั้งหมด เขาเศร้าเป็นพิเศษ “แม้จะเป็นแค่การกอด คุณก็ต้องผลักฉันออกไปหรือ?”
หานมู่จื่อกะพริบตา รู้สึกคนคนนี้กำลังใช้อาการบาดเจ็บฉวยโอกาสเธอ
เธอหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง
“แล้วคุณอยากจะกอดนานแค่ไหน?”
“ไม่นาน ครู่เดียวก็พอ”
ได้!
นั้นฉันก็จะเชื่อคุณสักครั้ง! กอดแค่ครู่เดียวก็ครู่เดียว ใครให้เขาว่าเป็นผู้ป่วยล่ะ? ใครให้เขาต้องเจ็บตัวเพื่อตัวเองล่ะ?
เธอคงไม่สามารถใช้แรงผลักเขาออกไปใช่ไหม?
ยังไงโดนกอดสักพัก เธอก็ไม่เสียหายอะไรมาก และเย่โม่เซินเมื่อก่อนก็ใช่ว่า ไม่เคยกอดเธอเลย ก็ถือว่าเป็น...... กอดจากเมื่อก่อนแล้วกัน
แต่เธอประเมินระดับความไร้ยางอายของเย่โม่เซินต่ำไป เดิมทีคิดว่าเขาจะกอดเธอไว้อย่างเงียบๆ แต่ไม่คิดว่านายนี่แค่สงบไปสักพัก มือที่อยู่รอบเอวของเธอ ก็เริ่มไม่สงบเสงี่ยม
ในตอนแรก มือของเขาแค่ขยับเล็กน้อย ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอื่นใด
แต่คงตระหนักถึงว่า หานมู่จื่อไม่ได้ขัดขืน ดังนั้นเย่โม่เซินจึงทำตามอำเภอใจขึ้นอย่างไร้ยางอาย มือของเขาเริ่มค่อยๆขยับขึ้นไป สัมผัสที่หลังเธอเบาๆ จนกระทั่งหานมู่จื่อรู้สึกว่ามีผิดปกติ ขมวดคิ้วแล้วเงยหน้าขึ้น เพื่อจะดูว่าเย่โม่เซินกำลังจะทำอะไรกันแน่
แต่ทันทีที่เงยหน้าขึ้น ตรงหน้าก็มีเงาทับลงมา
จากนั้น ริมฝีปากก็นุ่มละมุน
สัมผัสที่อบอุ่น ประทับริมฝีปากของเธอ
หานมู่จื่อเบิกตากว้าง หัวใจเหมือนโดนช็อกไฟฟ้า รู้สึกชาเล็กน้อย
เธอมองเย่โม่เซินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมอย่างอึ้งทึ่ง
อาจเป็นเพราะความเจ็บปวด เขาจึงไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นมาเลย เงาที่ขนตาสาดส่องอยู่รอบข้าง ยังรู้สึกเหมือนจะเปราะบาง
แต่เธอสามารถทำอะไรได้? คงจะไม่ปล่อยทิ้งเขาไว้ที่นี่จริงๆ
หานมู่จื่อกัดฟันกรอดแล้วพูดว่า “ดูแลคุณก็ได้ แต่คุณไม่สามารถทำเหมือนเมื่อกี้อีก”
“เมื่อกี้ยังไง? แบบไหน?” เย่โม่เซินเลิกคิ้วขึ้น ระหว่างคิ้วยังคงเต็มไปด้วยความพึงพอใจ
ท่าทางนี้ทำให้คนน่าโมโหจริงๆ หานมู่จื่อเลิกสนใจเขาเลย พูดอย่างเย็นชา “ฉันกลับไปก่อน เดี๋ยวค่อยมาเยี่ยมคุณตอนเย็น คุณตัวคนเดียวไม่มีปัญหาใช่ไหม?”
“นานแค่ไหน?”
“ใครจะรู้?”
“ห้ามนานเกินไป ถ้าแผลฉันเจ็บมากเกินไป เป็นลมจะทำยังไง?”
หานมู่จื่อ “ฉันจะมาภายในหนึ่งชั่วโมง”
ในที่สุดเย่โม่เซินก็ยกริมฝีปากด้วยความพึงพอใจ “ได้”
ตอนที่หานมู่จื่อออกไป ยังมองเย่โม่เซินอย่างเป็นห่วง แม้ว่าสีหน้าของเขาจะมีความสุขมาก ดูยังไงก็น่ารังเกียจยิ่งนัก แต่ริมฝีปากสีซีดและเหงื่อที่หน้าผากของเขา ยังคงสามารถดูออกว่า สภาพร่างกายของเขาในตอนนี้ไม่ดีนัด
ดังนั้น เธอรีบไปรีบกลับดีกว่า
หลังจากร่างของหานมู่จื่อหายจากไปในห้องผู้ป่วย ฟังเสียงฝีเท้าที่เดินจากไปไกล รอยยิ้มที่เลวร้ายบนใบหน้าของเย่โม่เซิน ก็ค่อยๆหายไป จากนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยสีหน้าแห่งความเจ็บปวด
ความเจ็บปวดที่หลัง ให้เขาไม่รู้ว่าควรจะรักษาท่าไหนดี นอนราบก็นอนไม่ได้ นอนคว่ำก็นอนไม่ได้
แต่เพียงว่า......เมื่อนึกถึงรสชาติที่หวานละมุนตรงริมฝีปากในเมื่อกี้ เย่โม่เซินก็รู้สึกว่า ตัวเองได้รับบาดเจ็บเป็นเรื่องที่ดี
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็หลับตาลง ล้อเลียนตัวเองอย่างจนปัญญา
“เย่โม่เซิน โปรดทำตัวเหมือนคนเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่