บทที่ 555 เข้าอยู่
หลังเลิกงานวันนั้น เย่โม่เซินก็ขับรถไปยังชุมชนที่หานมู่จื่ออาศัยอยู่
ในตอนแรกเข้าหาสถานที่ไม่เจอ ดังนั้นเซียวซู่จึงต้องตามเขาไปด้วยเพื่อนำทาง ร่างสูงของเย่โม่เซินดึงดูดสายตาจากสาวโสดที่อยู่บริเวณโดยล้อม ในช่วงเวลาที่ลิฟต์มาถึงด้านหลังก็มีหญิงสาวสองคนตามเข้ามา
เซียวซู่และเย่โม่เซินต่างก็เดินเข้าไปโดยที่ไม่ทันสังเกตเห็นหญิงสาวที่อยู่ด้านหลัง จึงเผลอคุยกันอย่างปกติ
“คุณชายเย่ เรื่องที่คุณมาอาศัยอยู่ที่นี่ อยากจะให้เชิญคุณป้าสักคน หรือว่า....”
เย่โม่เซินเม้มปากแน่น ก่อนเอ่ยออกไปเสียงเย็น “นิสัยของฉันนายยังไม่รู้อีกเหรอ?”
“เอ่อ คุณชายเย่ครับ จริงๆ แล้วในความหมายของผมก็คือ..... ถ้าไม่เชิญคุณป้ามาสักคน คุณจะไปทานอาหารกับคุณผู้หญิงได้ยังไงกันล่ะครับ?”
เย่โม่เซิน “.........”
ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปที่เซียวซู่
“ขออนุญาตสอบถามหน่อยนะคะ พวกคุณทั้งคู่อาศัยอยู่ที่นี่เหรอคะ?” ทันใดนั้นผู้หญิงที่ตามหน้าและไร้ตัวตนก่อนหน้ามองไปที่เย่โม่เซินก่อนเอ่ยถามออกมา
“..........”
ภายในลิฟต์เกิดความเงียบอยู่หลายนาที เมื่อไม่มีใครตอบกลับ
สีหน้าของสองสาวดูอึดอัดเล็กน้อยเมื่อเย่โม่เซินไม่แสดงท่าทีอะไรตอบกลับ
หญิงสาวมองไปที่หน้าอันหล่อเหลาของเขาอย่างไม่ยินยอม พลางกำหมัดแน่น “บ้านฉันอยู่ที่นี่ พวกคุณอยู่ชั้นไหนเหรอคะ? มีเวลาอยากคุยด้วยกันสักหน่อย.....”
“ไสหัวไป”
หญิงสาวชะงักไป เมื่อเห็นว่าเย่โม่เซินเงยหน้าขึ้นมา สายตาเย็นชาที่จ้องมองมาดูคมกริบราวกับเหยี่ยว อุณหภูมิรอบข้างราวกับถูกแช่แข็ง
หลังจากที่ซึ่งรู้ตัวว่าเขาพูดกับเธอให้ไสหัวไป ใบหน้าหญิงสาวก็ซีดไปในทันที ประจวบเหมาะกับที่ประตูลิฟต์เปิดออกพอดีพร้อมกับเสียงลิฟต์ ผู้หญิงคนนั้นและเพื่อนสาวอีกคนของเธอก็รีบเดินออกจากลิฟต์ไปในทันที
ติ่ง—
เมื่อประตูลิฟต์ปิดลงอีกครั้ง และค่อยๆ เลื่อนขึ้นไปต่อ เซียวซู่ก็กำมือเอาไว้หลวมๆ พลางจรดที่ริมฝีปากก่อนจะกระแอมไอออกมาเล็กน้อย “คุณชายเย่ครับ แบบนี้คุณจะทำให้ผู้พักอาศัยอยู่คนอื่นๆ ขุ่นเคืองได้นะครับ”
เย่โม่เซินไม่ได้ตอบกลับอะไรมา มีเพียงสีหน้าที่แสดงออกถึงความหงุดหงิด
ภายในใจของเซียวซู่ลอบถอนหายใจ ผ่านมาหลายปี ก็มีเพียงคุณผู้หญิงเพียงคนเดียวที่อยู่ในสายตาของคุณชายเย่
ส่วนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อยากจะสานต่อความสัมพันธ์กับคุณชายเย่ คุณชายไม่แม้แต่จะให้ค่าในสายตา
ดังนั้นเซียวซู่ถึงได้รู้สึกว่าถ้าหากคุณผู้หญิงไม่ยินยอมให้อภัยคุณชายเย่แล้วล่ะก็ ตลอดชีวิตของคุณชายเย่...... คงต้องอยู่เป็นม่ายแล้ว
“ขุ่นเคืองอะไร? เรื่องที่ให้ทำนายดันไม่ทำ อยากให้ฉันเชิญพวกเธอหรือไง?” เย่โม่เซินเอ่ยเยาะเสียงเย็น ดวงตาสีนิลกวาดมองมาที่เขา
เซียวซู่รู้สึกสันหลังเย็นวาบ ในความเป็นจริงที่เย่โม่เซินให้คนที่นี่ย้ายแกไปก็เพราะเหตุผลนี้
การที่มีคนมารบกวนเขา เย่โม่เซินรังเกียจพฤติกรรมแบบนี้
แต่ที่นี่ไม่ใช่เขตแดนของพวกเขา หรือต่อให้เป็นเขตแดนของพวกเขา ก็ไม่สามารถขับไล่คนอื่นให้ออกไปตรงๆ ได้
ติ่ง—
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้ง เซียวซู่ก็รีบเดินออกไป
“เป็นที่นี่ครับคุณชายเย่” เย่โม่เซินกวาดตามองจากพื้นลิฟต์ไปที่ชั้นสิบแปด
ขาเรียวยาวของเขาก้าวเดินออกมา เซียวซู่ยืนรออยู่ที่ประตูบานหนึ่ง “คุณผู้หญิงก็อยู่ที่นี่ด้วยครับ อยู่ห้องตรงข้ามคุณชาย”
เย่โม่เซินเม้มริมฝีปากบาง มือข้างหนึ่งล้วงไปที่กระเป๋ากางเกง สายตาเฝ้าจับจ้องไปที่ประตูของหานมู่จื่อ ก่อนที่มุมปากบางจะค่อยๆ โค้งขึ้นมาอย่างสวยงาม
“ไม่เคยมีความรักมาก่อน?” หานมู่จื่อหรี่ตามองด้วยความสงสัย
สายตาของเธอดูราวกับจะมองเสี่ยวเหยียนจนทะลุทะลวงไปถึงข้างใน เสี่ยวเหยียนที่รู้สึกว่าตัวเองถูกจ้องมองขนาดนั้นก็โมโหจนวิ่งเข้าไปบีบคอเธอ “เธออย่ามาแกล้งฉันได้ไหม?”
หานมู่จื่อหัวเราะออกมา “อยู่ต่อหน้าฉันเธอยังจะมาแสร้งทำอีกเหรอ? งั้นตอนที่อยู่ต่อหน้าพี่ชายฉันเธอแสร้งเป็นอะไรล่ะ?”
“อยู่ต่อหน้าเขาก็ไม่จำเป็นต้องแสร้งแล้ว อีกอย่างฉันยังไม่ทันได้สารภาพเขาก็ปฏิเสธฉันแล้ว ดูเหมือนว่าในชีวิตนี้ฉันคงจะไม่มีโอกาสแล้วล่ะ แต่ว่า..... ฉันจะไม่ยอมแพ้หรอกนะ ต่อให้ไม่มีโอกาสก็ตาม ฉันจะกัดฟันสู้ต่อไป ตราบใดที่เขายังโสด ฉันก็ยังยั่วเขาได้ เธอว่าจริงไหม?”
เมื่อได้ฟังอย่างนั้นหานมู่จื่อก็พยักหน้า “ที่พูดมาก็ไม่ผิด เธอนี่กล้าหาญมากเลย”
คนแบบนี้เท่านั้นที่จะไม่ถูกความรู้สึกทำร้าย กล้าหาญที่จะไล่ตามคนที่แอบชอบ
เธอเองก็เคยทำได้มาก่อน
แต่ถ้าจะบอกเรื่องจริงกับเธอ มันก็คงจะไม่ดี
ในตอนแรกที่เสี่ยวเหยียนได้ฟังว่าตัวเองกล้าหาญในใจก็รู้สึกยินดีอย่างมาก ทว่าเมื่อคิดไปคิดมา สีหน้าเธอก็แปรเปลี่ยนเป็นซึมพลางหลับตาลง
“กล้าหาญแล้วจะไปมีประโยชน์อะไรกันล่ะ? ถ้าก่อนหน้าฉันไม่ทำอย่างที่พูด บางทีฉันอาจจะไม่ถูกปฏิเสธเร็วขนาดนี้..... บางทีคนเราก็ไม่จำเป็นต้องมีความกล้าหาญอะไรหรอก อยู่โง่ๆ เคียงข้างอีกฝ่ายอย่างนี้อาจจะทำให้ได้อยู่ด้วยกันนานขึ้นก็ได้”
ทันใดนั้นบรรยากาศก็ดูแปลกขึ้นมา หานมู่จื่อกระแอมไอเบาๆ “เอาล่ะ อย่าพูดเรื่องนี้เลย เธอไปกำชับกับเสี่ยวหมี่โต้วดีแล้วใช่ไหม?”
“อืม กำชับดีแล้ว”
“ช่วงสองวันนี้ให้ลุงหนานไปส่งเขาไปโรงเรียน พี่ชายเธอก็อยู่”
“อืม”
ตกเย็นเสี่ยวเหยียนที่กำลังทำอาหาร ทันใดนั้นเธอก็พบว่าเกลือในห้องครัวหมด ดังนั้นเธอจึงรีบตะโกนออกมาจากห้องครัว “เกลือหมดแล้ว เธอช่วยไปซื้อเกลือให้หน่อยสิ”
หานมู่จื่อที่นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสองวันนี้ เธอก็พยักหน้าพร้อมกับลุกขึ้นยืน “โอเค เดี๋ยวฉันจะไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตมาตุนไว้แล้วกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่