เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 664

บทที่ 663 คิดหนีตอนนี้ ก็ได้สายไปแล้ว

จากรูปร่างหน้าตาก็รู้ว่านายเป็นพ่อของเขา

“เธอรู้?” เย่โม่เซินได้นึกเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน รอหลังจากที่พนักงานก็ล้วนจากไปแล้ว เขาก็ได้ลากหานมู่จื่อมานั่งลงบนโซฟาที่อยู่ทางด้านหนึ่ง และการแสดงออกบนใบหน้าก็ได้มีความเคร่งขรึมอยู่บ้าง: “เธอได้พูดถึงการมีอยู่ของฉันกับเขาแล้วไหม”

พูดแล้วไหม?

หานมู่จื่อพูดแต่เพียงว่าต้องการจะหาพ่อให้กับเขา แต่หากว่าเย่โม่เซินถามเช่นนี้แล้วละก็ เธอคือได้เคยพูดหรือว่าไม่เคยพูดกันแน่?

เธอไม่รู้

และเย่โม่เซินได้มองสีหน้าของเธอก็รู้อย่างลึกซึ้งแล้ว จากนั้นเขาก็ได้ดึงหน้าลงมา

“เดิมทีเธอก็ไม่เคยเอ่ยถึงใช่ไหม?”

“ฉัน......”

“อยู่ในใจเธอ ฉันก็ไม่มีน้ำหนักเช่นนี้จริงๆเหรอ?”

“เย่โม่เซิน ฉัน......”

“แม้แต่เอ่ยก็ไม่คุ้มค่าที่จะเอ่ย?”

หานมู่จื่อ: “นายให้ฉันพูดสักประโยคได้ไหม?”

เขานั่งอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าหน้าเขียว และได้จ้องหานมู่จื่อไว้อย่างไม่ละสายตา ซึ่งเป็นสายตาที่ดุดันจนไม่ไหว หานมู่จื่อก็ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายต่อเขายังไงไปชั่วขณะแล้ว

“อยากพูดอะไร ก็พูดได้แล้ว”

“ฉันกับเสี่ยวหมี่โต้ว......เคยเอ่ยเรื่องที่ช่วยเขาหาพ่อ แต่ว่า......”

“แต่ว่าเธอคิดไม่ถึงว่าคนคนนั้นจะเป็นใช่ ใช่ไหม?”

“ไม่ใช่!” หานมู่จื่อได้ตัดบทคำพูดของเขา “เย่โม่เซิน อารมณ์ของนายไม่ต้องฉุนเฉียวง่ายเช่นนี้ได้ไหม? ฉันก็ได้อยู่ด้วยกันกับนายแล้ว นายยังรุนแรงเช่นนี้กับฉัน?”

เมื่อถูกคำพูดของเธอจุดประเด็น เย่โม่เซินถึงได้มีสติกลับมาช้าๆแล้ว

ใช่สิ เธอก็ได้อยู่ด้วยกันกับตัวเองแล้ว เขาจะรุนแรงกับเธอทำไม? ถึงอย่างไรก็ตามเธอจะพูดหรือไม่พูด ช้าเร็วลูกชายก็จะเป็นของเขา ก็ต้องเรียกเขาว่าพ่อ

ความคิดจนถึงตอนนี้ เย่โม่เซินก็ได้เม้มริมฝีปากบางๆลง หลังจากนั้นก็ได้พูด

“เช่นนั้นก็ได้ ฉันไม่รุนแรงกับเธอ คืนนี้ฉันจะอยู่ที่นี่”

“ฉันก็จะอยู่ตรงนี้ รอลูกชายของฉันกลับมาเปิดของขวัญ”

หานมู่จื่อได้ถลึงตาโตใส่ “นายต้องการจะอยู่ที่นี่จริงๆ? ก่อนหน้านี้นายไม่ใช่ว่าได้พูดว่าให้เวลากับฉันงั้นเหรอ?”

“เพียงแต่ว่าก็เป็นเวลาสามวัน เวลาของวันนั้นก็ได้ผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้ว เธอก็ไม่ต้องการให้ฉันพบเขาเช่นนี้?”

“ฉันไม่ได้มีความหมายเช่นนี้......”

“ถ้าเช่นนั้นก็ให้ฉันอยู่ต่อ”

หานมู่จื่อ:“……”

เธอได้มองเขาด้วยความงุนงงอุตลุดอยู่นาน จากนั้นก็ได้ลุกขึ้นตรงๆ: “นายอยากจะอยู่ก็อยู่เถอะ ฉันไม่สนใจนายแล้ว”

เมื่อพูดจบเธอก็ได้ข้ามผ่านเย่โม่เซินตรงๆและขึ้นไปด้านบนโดยตรงแล้ว เพื่อเตรียมตัวที่จะไปอาบน้ำ ถึงอย่างไรเสียจางเสี่ยวเหยียนก็คงจะไม่กลับมาเร็วเช่นนั้น

หลังจากที่หานมู่จื่อเข้าไปในห้องแล้ว แต่กลับยังคงคือกดในที่เต้นวุ่น ปัง ปัง ไว้ไม่อยู่ และได้หยิบโทรศัพท์มือถือต่อสายโทรศัพท์ไปให้กับจางเสี่ยวเหยียนแล้ว

ไม่รู้ว่าตอนนี้ที่ทางด้านจางเสี่ยวเหยียนนั้นไปพัฒนาความคืบหน้าที่หานชิงที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง เธอจะต้องถามๆว่าจางเสี่ยวเหยียนจะกลับมาตอนไหน เธอรู้สึกว่าตัวเองยังคงไม่ได้เตรียมตัวดี

ทางด้านนั้นดังขึ้นนานมากแล้วถึงได้รับโทรศัพท์

บนสีหน้าของหานมู่จื่อมีความดีใจ เมื่อตอนที่กำลังจะพูด เอวก็ได้ถูกคนโอบล้อมไว้จากทางด้านหลังแล้ว ทันทีหลังจากนั้นระหว่างลำคอก็รู้สึกถึงลมหายใจที่ร้อนแรงของเพศชายแล้ว หานมู่จื่อแทบจะไม่ต้องบิดหัวไปก็รู้ว่าเย่โม่เซินในเวลานี้ได้โอบล้อมเอวของเธอ และคางก็ได้พิงไว้อยู่บนไหล่ของเธอ

“เฮลโล?”

เสียงของจางเสี่ยวเหยียนได้ดังขึ้นมาจากโทรศัพท์ด้านนั้น

หานมู่จื่อได้กะพริบตาไปมา และได้ส่งเสียงเฮลโลไปเสียงหนึ่งอย่างแทบจะมีความพูดไม่เป็นอยู่บ้าง หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรแล้ว

เดิมทีสิ่งที่เธอต้องการพูด หลังจากตอนที่เย่โม่เซินมาแล้ว ก็ได้กลืนกลับเข้าไปในท้องทั้งหมดแล้ว

“นาย เมื่อ......เมื่อกี้ก็ได้ยินแล้วว่าฉันคือให้เธอกลับมาเร็วหน่อยและไม่ได้......”

“เป็นเพราะว่าฉันอยู่ที่นี่เถอะ?” เย่โม่เซินได้เผลอหัวเราะออกมา และได้ลงโทษในการกัดแล้วกัดอีกไปยังคางที่ขาวผ่องของเธอ เพราะว่าผิวขาวๆของเธอที่ก็อ่อนนุ่ม ดังนั้นไม่ช้าคางก็ได้ประทับตรารอยฟันสีแดงมากขึ้นแล้ว

เย่โม่เซินได้มองรอยฟันนี้ ก็รู้สึกว่าทั้งน่าสงสารทั้งน่ารัก มองไปแล้วครู่ใหญ่ๆ จากนั้นก็ได้ก้มหน้าลงจูบแล้วจูบอีก

“ผู้หญิงคนนี้ ตอนที่ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ก็ไม่มีใครใจดำได้ไปกว่าเธอ ก็โชคดีที่ฉันมีจิตใจและสติปัญญาที่เฉลียวฉลาด มิเช่นนั้นคืนนี้ฉันก็ไม่ได้พบกับลูกชายของฉันอีกแล้ว

“เจ็บ!”

หานมู่จื่อได้ประท้วงขึ้นมาไปทางเขา จากนั้นก็ยื่นมือดันออกไป

มือทั้งคู่ทั้งถูกเขาจับกุมไว้ ดวงตาของเย่โม่เซินได้หรี่ตาขึ้น “ถ้าเช่นนั้นก็จำให้ดีๆ หลังจากนี้ห้ามผลักฉันออกเช่นนี้อีก”

คางของหานมู่จื่อได้ถูกเขากัดอีกทีหนึ่งแล้ว มือคู่ก็ได้ถูกเขาจับเอาไว้ ถัดไปก็เหมือนกับภาพของท่าทางที่มีเสื้อผ้ายุ่งเหยิงได้ถูกเขากดอยู่บนโต๊ะเครื่องสำอาง หงุดหงิดจนไม่ไหวแล้วจริงๆ

“ได้แล้ว ฉันรู้แล้ว......ปล่อยฉันออกเถอะ พวกเขาก็อาจจะใกล้กลับมาแล้ว”

เย่โม่เซินไม่ได้เคลื่อนไหว

“เย่โม่เซิน?”

หานมู่จื่อผลักเขาแล้วผลักเขาอีก ทันใดนั้นหานมู่จื่อก็ได้เงยหัวขึ้นมา ในลูกตาดำทั้งคู่ได้มีรังสีสะท้อนของการเผาไหม้ซัดสาดอย่างรุนแรง ทำให้คนรู้สึกตื่นตกใจ “นาย นายไม่ใช่ก็......”

“อืม” เย่โม่เซินได้พยักหน้าไปมาด้วยความซื่อสัตย์ “ช่วงเวลาที่รอคอยมันช่างเงียบเหงาจนเกินไป พวกเรามาทำเรื่องอื่นที่มีความหมายกันหน่อย?”

หานมู่จื่อ:“……”

อะไรคือเรื่องที่มีความหมาย? ตอนนี้เธอคิดแต่เพียงต้องการจะหนี หานมู่จื่อทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด และได้ผลักเขาออกคิดต้องการจะจากไป ผลสุดท้ายในวินาทีถัดไปขาคู่ของเธอก็ได้อยู่ในอากาศ ถูกคนอุ้มขึ้นมาเลย

“คิดหนีตอนนี้ ก็ได้สายไปแล้ว”

“เย่โม่เซิน!!!”

ตรงหน้าของหานมู่จื่อก็ได้หัวหมุนลง คนของเธอได้ถูกกดไปถึงบนเตียงใหญ่ที่อ่อนนุ่มแล้ว เธอตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน และได้รีบผลักเขาออก: “ประตู ประตูไม่ได้ล็อก......”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่