เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 696

บทที่695 เลือกรังแกคนที่อ่อนแอกว่า

เขาได้ยื่นหน้าสั่งอาหารมาด้านหน้าเธอ หานมู่จื่อไม่ได้บอกปัดปฏิเสธออกไปอีก หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแป๊บนึง เดิมที่ไม่ได้มีความอยากกินอะไร แต่ในตอนที่กดสั่งอาหารจู่ๆกลับรู้สึกว่ามีหลายอย่างที่อยากกิน

ดังนั้นแล้วหานมู่จื่อจึงกดสั่งไปหลายอย่าง หลังจากที่เธอสั่งจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้พบว่าดูเหมือนว่าเธอจะสั่งเยอะไปหน่อย เธอส่งโทรศัพท์ให้เย่โม่เซินอย่างเคอะเขิน

“ตามนี้แล้วกัน”

เนื่องจากเธออยู่ในอ้อมแขนของตน ดังนั้นการกระทำทั้งหมดเมื่อสักครู่นี้ของเธอก็ได้ตกอยู่ในสายตาของเย่โม่เซินทั้งสิ้น เห็นเธอคืนโทรศัพท์มาให้ตน อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ

“สั่งอย่างนี้ จะพอหรอ?”

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ใบหูของหานมู่จื่อก็ร้อนขึ้นมาทันที กัดฟันเอ่ยออกไป “คุณเห็นฉันเป็นหมูหรือไง เยอะขนาดนี้กินไม่หมดแล้ว”

เย่โม่เซินหลุดหัวเราะเบาๆออกมา นิ้วเรียวเลื่อนลงบนหน้าจอโทรศัพท์อีกสองสามที เพื่อกดสั่งเพิ่มอีกสองสามอย่าง จากนั้นก็กดให้อีกฝ่ายส่งอาหาร

หลังจากทำสิ่งเหล่านี้จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว หานมู่จื่อก็กลับเข้าไปซุกอยู่ในอ้อมแขนของเย่โม่เซินต่อ

“คุณประชุมเสร็จแล้วหรอ?”

เมื่อเอ่ยถึงเรื่องการประชุมขึ้นมา เย่โม่เซินก็นึกขึ้นมาได้ว่าเธอรอเขาอยู่ตรงนี้มาหลายชั่วโมงแล้ว เม้มริมฝีปากพร้อมทั้งเอ่ยออกมาว่า “ครั้งหน้าก็มาหาผมได้เลย จะได้ไม่ต้องรอนานอย่างนี้”

หานมู่จื่อ “คุณกำลังประชุมจะให้ไปหาคุณ? งั้นการประชุมจะไม่ถูกฉันรบกวน...”

พูดออกมาถึงครึ่งนึง จู่ๆเย่โม่เซินก็ก้มหน้าลงมา ลมหายใจร้อนรดลงข้างๆใบหูของเธอ “ไม่มีเรื่องไหนที่สำคัญไปกว่าคุณ”

คนผู้นี้...

เหมือนกับว่าหลังจากที่ขอแต่งงานกันแล้ว ก็หยอดคำหวานออกมาอย่างลื่นไหลเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าเขาจะพูดออกมาอย่างนั้นแล้ว แต่หานมู่จื่อก็ยังคิดว่าถ้าครั้งหน้าเขากำลังยุ่งอยู่ล่ะก็ เธอจะไม่เข้าไปรบกวนงานของเขาแน่

เธอนั้นไม่ใช่คนประเภทที่ต้องมีคนมาอยู่เป็นเพื่อน หรือประเภทที่ว่าถ้าในตอนนั้นฉันต้องการคุณไม่ว่าตอนนั้นคุณจะกำลังทำอะไรอยู่ คุณจะต้องวางทุกสิ่งทุกอย่างในมือลงทันที ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ไหนก็ต้องรีบมาหาฉันให้ได้จำพวกนั้นเสียหน่อย

เธอไม่ได้เอาแต่ใจ และก็ไม่มีทางที่จะเอาแต่ใจได้ถึงขนาดนี้

การรักกันควรจะเป็นการเปิดใจให้กว้างเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกันสิ

เธอกับเย่โม่เซินไม่ง่ายเลยที่จะได้ลงเอยด้วยกัน เธอต้องรักษาทะนุถนอมมันให้ดีสิถึงจะถูก

อาหารที่พวกเขาสั่งมาก็ได้มาส่งอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานเซียวซู่ก็ได้หอบหิ้วข้าวของขึ้นมาบนห้องทำงาน จากนั้นเสียงเคาะประตูห้องพักของเซียวซู่ก็ดังขึ้น “คุณชายเย่ครับ อาหารที่คุณกับคุณนายน้อยสั่งมาแล้วครับ ผมวางไว้บนโต๊ะนะครับ”

“อืม”

เย่โม่เซินตอบกลับออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม จากนั้นก็ลุกขึ้นอุ้มร่างของหานมู่จื่อขึ้นมา

“อุ้มฉันทำไมกันคะ? ใกล้แค่นี้เอง ฉันเดินเองก็ได้”

เย่โม่เซินยิ้มอย่างจนใจออกมา “เห็นคุณนอนจนเลอะเลือนไปหมดแล้ว ผมอุ้มคุณไปเองจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นแล้วเดี๋ยวคุณจะหกล้มลง มันไม่คุ้มหรอกนะครับ”

หานมู่จื่อ “...”

อยู่ดีๆเธอจะไปหกล้มได้ยังไงกัน

“อยากอุ้มฉันก็บอกมาตรงๆสิ ทำไมต้องทำไขสือหาข้ออ้างบ้าบออย่างนั้นออกมาด้วย” หานมู่จื่อบ่นพึมพำออกมาเบาๆ

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ฝีเท้าของเย่โม่เซินที่กำลังอุ้มเธออยู่ก็ได้หยุดชะงัก แล้วมองมายังเธอ เมื่อสบเข้ากับสายตาอันคมกริบของเขา หานมู่จื่อก็ได้หลบเลี่ยงออกไปอย่างเคอะเขินทันที “รีบเดินไปสิคะ ไม่ใช่ว่าจะไปกินข้าวหรือไง”

“เมื่อกี้คุณพูดว่า...”

“เมื่อกี้ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น

หานมู่จื่อหลุบตาต่ำลง ไม่กล้าสบตากับเขาอีก หลังจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะออกมาเบาๆของเย่โม่เซิน เหมือนกับว่าจะปล่อยเธอไป จากนั้นก็เดินออกไปด้านนอก

เย่โม่เซิน “...”

เขาเงียบไปสักพักนึง จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ให้เซียวซู่มาจัดการของพวกนี้ไปเสีย จากนั้นก็พาหานมู่จื่อออกจากบริษัทไป

หานมู่จื่อนั่งลงข้างที่นั่งคนขับ คิดอยู่สักพักนึง “ฉันอยากกินร้านอาหารมังสวิรัติ ได้มั้ยคะ?”

“ขอเพียงแค่คุณชอบ แน่นอนว่าไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”

เย่โม่เซินพาเธอไปร้านอาหารมังสวิรัติด้วยตัวเอง หานมู่จื่อคึกเป็นอย่างมาก สั่งมาเยอะมาก จากนั้นในตอนที่กินข้าวกันนั้นก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาที่ไม่ดีออกมาอีก

เห็นสีหน้าของเธอค่อยๆดีขึ้นมาเรื่อยๆ ในที่สุดความกังวลในใจของเย่โม่เซินนั้นได้สลายไปสักที

จากเดิมที่อยากจะพาเธอไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจดูสักหน่อยว่าไม่สบายตรงไหนหรือเปล่านั้น ในตอนนี้ดูเหมือนว่าอาหารที่สั่งมาเมื่อกี้นี้มันไม่ถูกปากเธอเพียงเท่านั้น

ในตอนที่ทั้งสองคนกินข้าวกันอยู่นั้น เย่โม่เซินก็รู้สึกถึงแสงไฟเย็นๆส่องเข้ามา สายตาอันดุดันของเขาก็ได้กวาดมองไปยังตำแหน่งขอบหน้าต่าง สบตาเข้ากับคนที่กำลังแอบถ่ายเข้าพอดี

คนที่กำลังแอบถ่ายอยู่นั้นนิ่งแข็งไปแป๊บนึง จากนั้นก็รีบหอบกล้องหลบหนีไปอย่างเงียบๆ

“เป็นอะไรไปคะ? คุณไม่กินหรอคะ? ไม่ถูกปากหรือเปล่า?”

เสียงของหานมู่จื่อได้เรียกสติของเย่โม่เซินกลับมา เขาเห็นหานมู่จื่อมองเขามาด้วยความกังวล “จู่ๆวันนี้ฉันมานึกอยากจะกินอาหารมังสวิรัติ แต่ไม่ได้คิดเลยว่ามันจะถูกปากคุณหรือเปล่า คุณ...”

“ไม่เป็นไร ผมไม่ได้เลือกกินสักหน่อย กินอะไรก็ได้”

หานมู่จื่อร้องอ้อออกมา เมื่อนึกถึงเรื่องการติดโปสเตอร์พวกนั้นขึ้นมาได้ ดังนั้นก็เลยอยากจะปรึกษากับเย่โม่เซินขึ้นมา

“จริงสิ โปสเตอร์พวกนั้น...เอาออกไปได้มั้ยคะ ถ้าติดไปตลอดล่ะก็...มันรู้สึกเกินเรื่องไปหน่อย”

ได้ยินคำพูดนี้แล้ว เย่โม่เซินอดไม่ได้ที่แสยะยิ้มน่ามองออกมาเล็กน้อย “ก็อยากให้มันดูเกินเรื่อง ก็เพื่อจะให้ทุกคนได้รับรู้ว่าคุณแต่งให้กับผมแล้ว ทำไม? ทุกคนล้วนอิจฉาคุณกันทั้งนั้น แต่คุณกลับไม่พอใจ?”

เธอนั้นไม่ใช่ว่าจะไม่พอใจ เพียงแต่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปอีกล่ะก็ เธอคงไม่มีทางได้เข้าทำงานอย่างปกติแน่...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่