บทที่ 733 ไม่เห็นใจคนอื่น
หานชิงไม่แปลกใจที่ได้ข่าวว่าหานมู่จื่อจะกลับประเทศ เพราะค่อนข้างรู้จักน้องสาวตัวเองดีพอ
เพียงแค่คิดไม่ถึงว่าในใจของเธอเย่โม่เซินจะสำคัญสำหรับเธอทุกย่างก้าว ขนาดที่ทรัพย์สินของครอบครัวจะถูกแย่งชิงไปไม่ได้
“ฝากคนกลุ่มหนึ่งเพื่อค้นหาเกี่ยวกับที่อยู่ของเย่โม่เซินต่อไป แล้วพวกเราจะเดินทางกลับก่อน”
ทีมที่จะกลับประเทศก่อนนั้นแข็งแกร่งมาก รวมถึงเซียวซู่ที่ได้รับบาดเจ็บทั่วร่างกายก็ขึ้นเครื่องบินกลับด้วย
เขาเป็นผู้ช่วยของเย่โม่เซิน เมื่อได้ยินว่าเย่หลิ่นหานต้องการกลับสู่ตระกูลเย่ เขาก็กระโดดเด้งด้วยความโกรธก่อนจะร้องโอ้ยเพราะปากแผลเปิด
เสี่ยวเหยียนทำหน้าพูดไม่ออก
“นายช่วยมีสติกว่านี้หน่อยได้ไหม? จำไว้หน่อยว่านายคือคนป่วยนะ จะมากระโดดแบบนี้ได้ไง?”
เซียวซู่: “........”
บนเครื่องบินขากลับ
หานมู่จื่อเอนกายลงบนเบาะเพื่อนอนพักผ่อน หานชิงถอดเสื้อคลุมนอกเพื่อคลุมร่างของเธอ หานมูจื่อลืมตาขึ้นมา
“คิดดีแล้วใช่ไหม? ถ้าเธอได้ก้าวออกมา ฉันกลัวว่ามันจะเป็นการต่อสู้น่ะสิ”
หานมู่จื่อเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะพยักหน้ารับ
“อันที่จริงไม่ต้องคิดเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เพียงแค่เป็นของเขาฉันก็อยากทำให้มันดีเหมือนเดิมก่อนที่เขาจะกลับมา”
“พี่รู้แล้ว ถ้ามีอะไรรีบบอกพี่เลยนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ นี่เป็นเรื่องของตระกูลเย่ ฉันไม่อยากให้ตระกูลหานเข้ามาเกี่ยวข้อง”
หานชิงเงียบไปจนสุดท้ายก็ไม่ตอบอะไรออกมา
ทันทีที่เขาลงจากเครื่อง โทรศัพท์มือถือของหานชิงก็ดังขึ้น เป็นสายเรียกเข้าจากลุงหนาน ก่อนน้ำเสียงจริงจังจากปลายสายจะดังมา
“คุณชายหาน คุณท่านได้ยินมาว่าวันนี้คุณชายหานกับคุณหนูมู่จื่อกลับประเทศวันนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงให้ผมไปส่งเขาที่สนามบิน ผมก็ถูกเขาขอร้องมาผมก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ดังนั้น.......”
เมื่อหานชิงได้ยินดังนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองไปทางข้างหน้า “ลุงหนาน ตอนนี้พวกคุณลุงอยู่ที่สนามบินเหรอครับ?”
“ใช่ครับ พวกผมอยู่ทางเข้าเพราะคนแน่นมาก ผมไม่ปล่อยให้คุณชายลงไปหรอกครับ เพราะคนแน่นเกินไป”
“ผมเข้าใจแล้วครับ”
หลังจากวางสายไป หานชิงก็เหลือบมองไปที่มู่จื่อ
ช่วงเวลาแห่งความทรมานนี้ทำให้เธอดูผอมลงมาก เสื้อผ้าที่เธอเคยใส่ก่อนหน้านี้ดูหลวมขึ้นมากแถมเธอไม่แต่งหน้าเลย ริมฝีปากและใบหน้าเธอเลยดูซีดเซียวเล็กน้อย
ใครจะคิดล่ะว่าการเกิดเรื่องของเย่โม่เซินจะทำให้มู่จื่อเพิกเฉยไม่สนใจลูกชาย
เสี่ยวหมี่โต้วมาถึงสนามบินแล้ว แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า......เธอเห็นกันแล้วหรือยัง?
เมื่อนึกถึงตรงนี้แล้วหานชิงจึงเม้มริมฝีปากแน่น เขาคิดอยู่นานก่อนจะพูดออกไปอย่างไม่แน่ใจ “ฉันบอกเสี่ยวหมี่โต้วแล้วว่า......ให้มารับ”
หานมู่จื่อหยุดเดินชั่วขณะ ซูจิ่วและคนอื่นๆที่เดินตามมาข้างหลังท่าทางก็เปลี่ยนไป
ทุกคนคิดว่าหานมู่จื่อจะเกิดปฏิกิริยาอะไรรุนแรงขึ้น แต่ใครจะรู้ว่าที่จริงแล้วเธอกลับตอบออกมาอย่างเฉยเมย “เหรอ? ก็ให้เขามาสิ”
ไม่มีใครพูดอะไร เพราะก่อนหน้านี้หานมู่จื่อไม่อยากเจอเสี่ยวหมี่โต้วแม้แต่วิดีโอคอลก็ไม่แม้อยากจะคุยกับเขา
ทุกคนชักจะไม่แน่ใจว่าตอนนี้เธอคิดอะไรอยู่จึงได้แต่เดินตามเธอไปทางออก
แน่นอนว่าผู้มารับที่สนามบินแน่นขนัด
“ลองดูสิ ว่าเธอจะหยิ่งได้นานขนาดไหนกัน?”
แน่นอนว่าคำพูดของคนเหล่านี้ไม่ได้เข้าหูหานมู่จื่อเลยสักนิด เพราะถ้าเธอได้ยินเข้าเกรงว่าเธอจะไปสู้รบปรบมือกับคนพวกนี้เอา
คนกลุ่มนี้กล้าที่จะกระซิบกระซาบเมื่ออยู่ลับหลังพวกเธอไม่กล้าที่จะยั่วยุคนตระกูลใหญ่ในเมืองเป่ย
และไม่ต้องพูดเลยว่าตระกูลใหญ่ที่หมายถึงคือตระกูลหานและตระกูลเย่
*
เสี่ยวเหยียนเดินตามหลังหานมู่จื่ออย่างระวังตัว และสังเกตเห็นว่าสื่อล่าถอยออกไปแล้วตามที่เธอคาดการณ์ไว้ เพราะไม่มีแม้แต่กล้องที่จะยกขึ้นมาถ่ายอีก
“ว้าว มู่จื่อ.....เธอสุดยอดไปเลย ไม่คิดเลยว่าคนพวกนั้นจะกลัวเธอมากขนาดนี้”
เซียวซู่พยักหน้าเห็นด้วย คุณผู้หญิงของเขาน่าทึ่งมากจริงๆ
หานมู่จื่อหยุดเดินกะทันหัน เพราะเธอเหลือบเห็นรถของตระกูลหานที่จะอยู่ริมถนน
หานมู่จื่อเห็นประตูรถคันนั้นเปิดออกก่อนจะพุ่งตัวไปที่รถคันนั้นอย่างคนไม่ทันได้คิดอะไรเพื่อจะเข้าไปภายในรถด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วจนสำเร็จ
ปฏิกิริยาของผู้คนรอบๆรวมทั้งนักข่าวต่างก็แสดงออกถึงความประหลาดใจ ถ้าให้พวกเขาเห็นเสี่ยวหมี่โต้วเข้าล่ะก็ ความโกลาหลมากมายจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
จริงๆเดิมทีเสี่ยวหมี่โต้วต้องการเปิดประตูรถและกระโดดเข้าไปในอ้อมกอดของหม่ามี๊ แต่ไม่คิดว่าหานมู่จื่อจะเร็วกว่านั้น ไม่ต้องรอเขาออกไป หานมู่จื่อก็เข้ามานั่งภายในรถเรียบร้อยแล้ว
“หม่ามี๊?”
เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่เธอวิดีโอคอลหา หม่ามี๊ดูไม่สนใจเขาเท่าไรนัก
ดังนั้นตอนนี้เสี่ยวหมี่โต้วจึงกังวลมากว่าหม่ามี๊จะคุยกับเขาไหม? ดังนั้นเขาจึงเอียงศีรษะไปตรงหน้าเพื่อมองหานมู่จื่อ ก่อนที่จู่ๆจะตะโกนออกมาอย่างไม่คาดคิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่