เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 848

บทที่847 ช่างหน้าหนาเสียจริง

พี่หลินเห็นว่าเธอไม่อยากพูดออกมาให้มากมาย จำต้องล้มเลิกความตั้งใจเดิมไป

“ในเมื่อเธอไม่อยากพูด ฉันก็จะไม่ถามให้มันมากความแล้วกัน แต่สิ่งที่พี่หลินเคยบอกเอาไว้เธอจะต้องจำเอาไว้ด้วยล่ะ?”

หานมู่จื่อพยักหน้าออกไป “ฉันทราบค่ะ”

“เธอเคยรู้จักตระกูลยู่ฉือมาบ้างหรือเปล่า? รู้หรือเปล่าว่าตระกูลยู่ฉือเป็นตระกูลยังไง? พูดตามตรงเลยนะ นายท่านยู่ฉือได้ออกคำสั่งมา ให้ฉันจัดหาตำแหน่งงานอะไรก็ได้ให้คุณหนูตระกูลตวนมู่สักตำแหน่งนึง และตำแหน่งงานนั้นไม่ว่าจะต้องทำอะไรก็ได้ แต่ขอเพียงแค่ให้เธอได้อยู่ที่บริษัทในตำแหน่งที่สามารถใกล้ชิดท่านประธานได้ก็เป็นพอ”

พูดจบ พี่หลินก็ได้หยุดชะงักไปเล็กน้อย “เมื่อกี้ตอนที่ฉันพูดเรื่องนี้กับท่านประธานเธอก็คงจะอยู่ในห้องทำงานด้วยล่ะมั้ง งั้นบอกเธอตอนนี้ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เธอคงเข้าใจความหมายที่พี่หลินได้พูดออกไปเมื่อกี้นี้แล้วล่ะมั้ง?”

ไม่รอให้หานมู่จื่อตอบอะไรออกมา พี่หลินก็ได้อธิบายออกมาอีกครั้ง “นายท่านยู่ฉือถูกใจตวนมู่เสว่มาก ต้องการจะจับคู่เธอกับหลานชายของเขา ดังนั้นแล้วเธอ...”

เมื่อพูดมาจนถึงตรงนี้แล้วเธอก็ได้ย่นคิ้วออกมา อดไม่ได้ที่จะทอดถอนหายใจออกไป “ความรักที่ไม่ได้รับคำอวยพรจากผู้ใหญ่ มันคงยากที่จะยืนยาวได้”

คำพูดของพี่หลินล้วนแล้วแต่จะหวังดีต่อเธอทั้งนั้น หานมู่จื่อรู้ดี เธอกุมมือพี่หลินเอาไว้พร้อมเอ่ยออกไปนิ่งๆ

“ขอบคุณพี่หลินนะคะ ขอบคุณที่เตือนฉันมากมาย แต่พี่วางใจได้เลย เรื่องพวกนี้ฉันได้คิดเอาไว้แล้ว ฉันรู้ว่าเส้นทางของฉันควรจะเดินต่อไปยังไง ฉันเองก็ทำได้เพียงเดินไปบนทางเส้นนี้ เพราะฉันเข้าบริษัทได้ไม่นาน แล้วยังพัฒนาความสัมพันธ์กับเขาได้รวดเร็วอย่างนั้นอีก พี่ไม่คิดว่าฉันเป็นพวกคนจำพวกเอาดีไม่ได้สักอย่าง แต่กลับเชื่อมั่นในตัวฉันอย่างนี้ ขอบคุณจริงๆค่ะ”

ถึงอย่างไรทุกคนก็จะต้องคิดอย่างนั้นกันแน่ ถ้าเธอเข้าบริษัทได้ไม่นานก็คบกับเย่โม่เซินแล้วล่ะก็ อย่างนั้นแล้วก็จะคิดกันไปว่าเธอเข้าบริษัทมาก็เพื่อหวังจะจับคนรวย

แต่พี่หลินกลับไม่ได้มองเธออย่างนั้น แต่กลับเอ่ยพูดออกมาด้วยความจริงใจมากมาย

“เธอคิดดีแล้วก็ดี ส่วนเรื่องที่เธอเป็นคนยังไง พี่หลินอายุปูนนี้แล้ว ก็ต้องมีสายตามองคนที่เฉียบแหลมหน่อยสิ”

พี่หลินมองออกว่าเธอเข้าบริษัทมาเพราะท่านประธาน แต่ดูท่าทางของเธอแล้วกลับดูไม่เหมือนคนที่เข้ามาจับคนรวยเลย แต่กลับเหมือนกับน้ำท่วมปากพูดอะไรออกมาไม่ได้ บางครั้งเธอก็ยังคิดว่าตนคิดมากเกินไปหรือเปล่า

แต่ในหลายๆคนที่เข้ามานั้น ก็มีเพียงหานมู่จื่อที่ให้ความรู้สึกอย่างนั้นกับเธอ

โดยเฉพาะสายตาที่เธอมองยู่ฉือเซินก่อนหน้านี้

“เอาล่ะ ในเมื่อเธอก็ตัดสินใจดีแล้ว ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก ถึงอย่างไรก็นะ...ฉันก็ยุ่งอะไรเรื่องของพวกเธอไม่ได้อยู่แล้ว”

พี่หลินลุกขึ้น จู่ๆก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จิ้มลงไปบนแก้มขาวเนียนของหานมู่จื่อด้วยสีหน้ายิ้มกริ่ม

“ถ้าสุดท้ายแล้วพวกเธอสามารถอยู่ด้วยกันสำเร็จ ก็อย่าลืมเชิญฉันดื่มเหล้ามงคลด้วยล่ะ และฉันก็อยากได้อั่งเปาซองใหญ่ๆด้วย เพราะถึงอย่างไรฉันก็เป็นคนพาเธอเข้าบริษัทมา”

เมื่อพูดคำนี้ออกมา บรรยากาศระหว่างพวกเธอทั้งสองคนผ่อนคลายลงทันที หานมู่จื่ออดไม่ได้ที่จะหลุดยิ้มออกมา “ได้เลยค่ะ ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น ถึงตอนนั้นจะเชิญพี่มาดื่มเหล้ามงคลแน่ค่ะ”

หลังจากที่ทั้งสองคนตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันไปทำงานของตน

ในช่วงสายๆตวนมู่เสว่ก็มาที่บริษัท เนื่องจากเธอได้รับสายของยู่ฉือจิน ได้โทรมาบอกว่าได้จัดการเรื่องที่บริษัทให้เธอแล้ว ให้เธอมาหาเลขาของยู่ฉือเซินได้เลย เลขาของเขาจะจัดการมอบหมายงานให้เธอเอง

ดังนั้นแล้วตวนมู่เสว่จึงเดินเข้าบริษัทตระกูลยู่ฉือมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนไปเธอก็ได้จัดแต่งตัวให้ดูดีอีกรอบ เลือกลิปสติกอายแชโดว์เบอร์ที่เธอชอบที่สุด

สิ่งที่ผู้หญิงมักจะคาดหวังมากที่สุดก็คืออยากจะโชว์ด้านที่ดูดีที่สุดของตัวเองให้คนที่ชอบได้เห็น ตวนมู่เสว่เองก็เป็นผู้หญิงอย่างนั้นเช่นเดียวกัน

หลังจากที่เธอมาถึงบริษัทแล้วนั้น เมื่อหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เห็นเธอ ก็ไม่ได้สกัดขวางไม่ให้เธอขึ้นไปชั้นบน เนื่องจากทางพวกเธอก็ไม่ได้ทราบข่าวอะไรมา

เพียงแต่หลังจากที่เห็นตวนมู่เสว่เข้าลิฟต์ไปนั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปพูดกับเพื่อนประชาสัมพันธ์สาวที่อยู่ข้างกัน “เธอว่าคนเหมือนกัน แต่ทำไมบางคนถึงได้โชคดีจังเลย ไม่เพียงแต่จะมีชาติกำเนิดที่ดี หน้าตาก็ยังสวยอีก คนที่จะได้คบก็ยังสุดยอดเสียขนาดนั้นอีก?”

ดูยังไงก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนนึง

แต่ทำไมผู้หญิงอย่างนี้ ถึงได้ดึงดูดวิญญาณความรู้สึกของพี่เซินไปได้? เธอมีเวทมนตร์อะไรกันแน่?

หันกลับมามองตัวเองอีกที ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่สวม ก็ล้วนแล้วแต่จะใช้ของที่ดีที่สุดทั้งนั้น

ส่วนเรื่องหน้าตา เธอก็คิดว่าเธอไม่ได้ด้อยไปกว่าหานมู่จื่อเลย แต่ทำไมพี่เซินถึงไม่ยอมมองเธอบ้างเลย?

ยิ่งคิด ภายในใจของตวนมู่เสว่ก็ยิ่งโมโหขึ้นมา มือที่แนบอยู่ข้างลำตัวกำแน่นออกมา

พอดีกับในตอนนี้ที่หานมู่จื่อเงยหน้าขึ้นมาเหลือบมองมาทางนี้อย่างไม่รู้ตัว จากนั้นก็ก้มหน้าลงไปอีกครั้ง แต่เพียงไม่นานก็รับรู้ถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงเงยหน้าขึ้นไปอีกครั้ง

สายตาของทั้งสองคนสบเข้าหากันในอากาศ

ตวนมู่เสว่?

เห็นตวนมู่เสว่ปรากฏตัวขึ้นมาที่นี่ หานมู่จื่อก็ได้ตื่นตกใจขึ้นมาเป็นอย่างแรก แต่เพียงไม่นานก็เรียกสติกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว ทั้งคำพูดที่พี่หลินบอกกับเธอก่อนหน้านี้เธอก็ยังจำมันได้

เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าตวนมู่เสว่จะมาเร็วขนาดนี้ อีกทั้งดูจากสภาพของเธอก็คือได้ผ่านการแต่งเนื้อแต่งตัวมาอย่างดิบดีนั้นอีก

สบตากันเงียบๆอย่างนี้กันอยู่สักพัก จู่ๆตวนมู่เสว่ก็แสยะยิ้มออกมา พร้อมก้าวเดินเข้าไปข้างหน้า

“ก่อนหน้านี้ฉันประเมินค่าเธอต่ำไปจริงๆ นึกไม่ถึงว่าเธอจะตามหาที่นี่จนเจอ ทั้งยังแอบเข้ามาอยู่ในบริษัทนี้อย่างเงียบๆ แอบมาแฝงตัวเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเขา เขาจำเธอไม่ได้แล้ว ไม่คิดว่าเธอจะยังหน้าด้านอยู่ที่นี่อีก หนังหน้าช่างหนาเสียจริงนะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่