เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 863

บทที่ 862 การปรากฏตัวของส้งอาน

จากนั้นตระกูลยู่ฉือและตระกูลตวนมู่ต่างพากันส่งคนออกตามหาตวนมู่เสว่พร้อมกัน

แต่หานมู่จื่อไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้ สำหรับเธอแล้วยังมีเรื่องที่สำคัญกว่ารอเธออยู่

นั่นก็คือน้าของเย่โม่เซิน ที่ตัดสินใจแล้วว่าจะมา

ตอนทานอาหารกลางวันหานมู่จื่อได้คุยโทรศัพท์กับหล่อน เมื่อทราบข่าวว่าหล่อนตกลงจะมา ทำให้หล่อนยังรู้สึกประหลาดใจ

หล่อนยังคิดว่าใช้เวลาคิดตัดสินใจนานขนาดนี้ ส้งอานคงไม่ยอมมาช่วยหล่อนแล้ว กลับคิดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะตอบตกลง

หลังจากนั้นหานมู่จื่อได้เล่าเรื่องคร่าวๆที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ให้ส้งอานฟัง รวมถึงแนวโน้มความน่าจะเป็นในตอนนี้ เมื่อส้งอานฟังจบก็เงียบไปนานมาก จากนั้นจึงพูดขึ้น: “ตอนที่ฉันไปถึงสนามบิน เธอให้เขามารับฉันพร้อมเธอนะ”

ได้ยินเช่นนั้น หานมูจื่อรู้สึกลังเลขึ้นมาทันที: “น้าส้ง ตอนนี้เขาจำคุณไม่ได้ คุณจะบอกความจริงกับเขาเหรอคะ? ฉัน...”

“ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอดี เธอสบายใจได้ ฉันยังไม่บอกความจริงกับเขา แต่ฉันเป็นน้าของเขา ฉันอยากเจอเขาบ้าง อยากเห็นว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง”

ส้งอานไม่มีทางทำร้ายยู่ฉือเซินแน่นอน หานมู่จื่อมั่นใจในตัวหล่อนมาก จึงตกปากรับคำอย่างรวดเร็ว

ให้เย่โม่เซินไปรับหล่อนที่สนามบินกับหล่อน คงไม่มีปัญหาอะไร

ปัญหาคือไม่รู้ว่าเย่โม่เซินจะจำน้าของตัวเองได้หรือไม่ เพราะชื่อเดิมของส้งซินก็คือยู่ฉือซิน ถ้าตระกูลยู่ฉือเคยทดลองกับเขาแล้วล่ะ?

หานมู่จื่อกัดริมฝีปากแน่น รู้สึกคิดลังเลขึ้นมาทันที

คิดอยู่นานสักพัก หานมู่จื่อรู้สึกว่าตัวเองคิดมากกับเรื่องที่ยังไม่เกิดมากเกินไป จึงกลับมาตั้งใจทำงาน รอให้เลิกงานก่อนค่อยให้เย่โม่เซินไปรับส้งอานกับตัวเองก็พอ

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักก็ถึงเวลาเลิกงาน ขณะที่หานมู่จื่อกำลังเก็บของ พี่หลินอดไม่ได้ที่จะเข้ามาถามหล่อน

“ช่วงนี้เธอเลิกงานพร้อมกับท่านประธานเหรอ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หานมู่จื่อตกตะลึงไปทันที สุดท้ายก็พยักหน้าตอบกลับ

พี่หลินเผยรอยยิ้มอันมีเลศนัยออกมา “ไม่ธรรมดาเลยนะ พัฒนากันอย่างรวดเร็วขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าพวกเธอยังอยู่ห้องเดียวกันอีกด้วย?”

สำหรับพี่หลินแล้ว หานมู่จื่อไม่อยากปิดบังหล่อน เพราะวันนั้นเห็นทัศนคติที่หล่อนมีต่อตวนมู่เสว่แล้ว ก็สัมผัสได้ว่าไม่ใช่คนประจบประแจง ตามกระแส และไม่ชอบนินทาใครลับหลังอีกด้วย

หล่อนรู้ดีว่าเรื่องระหว่างตัวเองกับเย่โม่เซินเกิดขึ้นมานานมากแล้ว แต่ไม่เคยมีข่าวคราวถูกแพร่ออกไปแม้แต่น้อย

จนหานมู่จื่อยังรู้สึกว่า หากจะพูดเรื่องที่ตัวเองแต่งงานกับเย่โม่เซินแล้ว พี่หลินก็คงไม่พูดจาลับหลังหล่อน

เมื่อคิดได้เช่นนี้ หานมู่จื่อก็เอียงคอไปพูดกระซิบ: “ก็ไม่ถือว่าอยู่ด้วยกันสักทีเดียว”

พี่หลิน: “...ฉันเข้าใจแล้ว”

หล่อนพูดมาขนาดนี้แล้ว งั้นก็คงอยู่ด้วยกันจริงๆ

พี่หลินพูดขึ้นต่อ: “ฉันคิดไม่ถึงเลยว่า ตอนที่เขามารับตำแหน่งเป็นประธานคนใหม่ในช่วงแรก ฉันเห็นว่าเขาไม่มีใครในสายตาเลย หลีกเลี่ยงผู้หญิงราวกับงูพิษ ฉันยังคิดว่าไม่มีใครสามารถเข้าตาเขาได้ คงต้องโสดไปตลอดชีวิต คิดไม่ถึงเลย... ”

หล่อนพูดซุบซิบเล็กน้อย แต่เมื่อหันไปมองเวลา เห็นว่าพอสมควรแล้ว จึงไม่ได้พูดอะไรกับหานมู่จื่อต่อ รีบเก็บของและออกไปจากห้อง

หานมู่จื่อครุ่นคิดไปมา ก็เก็บของและออกจากห้องตามไปเช่นกัน

ก่อนที่จะออกไป หล่อนเดินไปดูที่ห้องทำงานเย่โม่เซิน จากนั้นหยิบมือถือออกมาดู

มีข้อความมาจากส้งอาน บอกว่าหล่อนจะถึงประมาณหนึ่งทุ่มตรง

หนึ่งทุ่มตรง...

หานมู่จื่อครุ่นคิดสักพัก จากนั้นหยิบมือถือลงไปชั้นล่างของตึก

หล่อนเดินไปตามเส้นทางเหมือนเคย ไม่นานนักรถของเย่โม่เซินก็มาจอดด้านข้างของหล่อน หานมู่จื่อรีบขึ้นรถอย่างรวดเร็ว

หลังจากขึ้นรถ หานมู่จื่อคาดเข็มขัดพลางมองเย่โม่เซินพลาง คิดลังเลว่าจะบอกเขาเรื่องไปรับคนที่สนามบินยังไงดี

“ครับ”

คนกลุ่มหนึ่งพูดคุยกันเสร็จก็จากไป

หลังจากที่คนกลุ่มนั้นออกไป สายตาของเย่โม่เซินจึงจะเหลือบมองไปที่พวกเขายืนอยู่เมื่อครู่ จ้องอย่างไม่ขยับไปไหน ทำให้ใครเห็นก็คงไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

จนกระทั่งเสียงดังขึ้น หานมู่จื่อเข้าไปในรถ จากนั้นลดกระจกลงมา

“คุณกำลังคิดอะไรอยู่? ขึ้นรถสิ”

เย่โม่เซินจึงจะตั้งสติกลับมาได้ และเดินขึ้นรถ

รถยนต์กลับมาแล่นบนถนนอีกครั้ง

หานมู่จื่อมองดูเวลาพลาง เปิดถุงพลาง จากนั้นหยิบเค้กเนยออกมาจากด้านใน

อันที่จริงเมื่อก่อนหล่อนไม่เคยชอบอาหารรสหวานจัดแบบนี้มาก่อน โดยเฉพาะพวกขนมเบเกอรี่

แต่เมื่อลูกชายของตัวเองชอบ และมักจะบังคับให้หล่อนกิน

บางครั้งหานมู่จื่อไม่อยากกิน เสี่ยวหมี่โต้วก็จะพูดตำหนิหล่อน “หม่ามี๊ ในผลไม้มีน้ำตาล ถ้าปกติหม่ามี๊ไม่กินผลไม้ก็ไม่เป็นไร แต่นี่ขนมหวานก็ไม่กิน หม่ามี๊จะเอาน้ำตาลจากที่ไหนมาเสริมสร้างร่างกายล่ะ?”

จากนั้นก็ยัดขนมหวานให้หล่อน

ผ่านไปนานสักพัก ดูเหมือนว่าหานมู่จื่อจะไม่ได้ไม่ชอบขนมหวานเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้กลับเป็นคนไปซื้อมากินเองด้วยซ้ำ

เป็นเพราะตัวเองไม่ค่อยกินผลไม้ และไม่มีน้ำตาลมาหล่อเลี้ยง ถ้าน้ำตาลตกแล้วเป็นอะไรขึ้นมาคงแย่แน่นอน

หานมู่จื่อกัดเค้กเนยเข้าไปหนึ่งคำ

เย่โมเซินที่ขับรถอยู่มองผ่านกระจกหลังเห็นริมฝีปากสีชมพูเลอะเค้ก จึงหรี่ตามองลง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่