เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 955

บทที่ 955 ความทรงจำของเย่โม่เซิน (1)

ส้งอานคุยโทรศัพท์เสร็จจึงเดินกลับมา เห็นยู่ฉือจินมานั่งที่ของตัวเอง เธอเอามือกอดอกแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ที่ว่างเพราะฉันออกไปคุยโทรศัพท์ มานั่งที่ฉันทำไม”

ยู่ฉือจินที่โดนลูกสาวตำหนิ เอามือลูบจมูกด้วยท่าทางกระอักกระอ่วน จากนั้นเขาจึงลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเอง

เพราะว่าที่นั่งตรงนั้นเป็นของส้งอาน ถ้าส้งอานไม่ยินยอมให้เขานั่ง เขาก็ไม่กล้านั่งแน่นอน

เมื่อเห็นยู่ฉือจินกลับไปนั่งอย่างไม่มีปากไม่มีเสียง

ส้งอานรู้สึกตลกเล็กน้อย ถ้าเกิดมีคนที่ชอบคิดมากมาเห็นแล้วไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรคนนั้นคงจะคิดว่าลูกสาวอย่างเธอกำลังต่อว่าคนแก่

หึ ต่อว่าคนแก่แล้วมันจะเป็นอะไร?

ในปีนั้นเพราะว่าความดื้อรั้นและเรื่องที่เขาทำ มันเป็นสิ่งที่ทำให้พี่สาวของเธอตายโดยอ้อมๆ

สำหรับส้งอาน ยู่ฉิอจินคือฆาตกรที่ฆ่าส้งซินทางอ้อม

เพราะฉะนั้นเธอไม่ควรให้อภัยเขาง่ายๆ

การที่เธอมาที่นี่ในวันนี้ เพราะเห็นแก่หน้าของเสี่ยวหมี่โต้วและคนอื่น ไม่งั้นทั้งชีวิตนี้เธอไม่มีทางไปมาหาสู่กับยู่ฉือจินแน่นอน!

ส้งอานนั่งลงที่เดิม เมื่อได้เห็นเสี่ยวหมี่โต้ว ความน่ากลัวในแววตาของเธอก็ลดลงไปไม่น้อย เพราะเกรงว่าเด็กน้อยจะกลัว ดังนั้นเธอจึงสลัดความหงุดหงิดแล้วความน่ากลัวออกไป จากนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า “เมื่อกี้ย่าโทรหาพ่อของหนูแล้ว ”

“คุณพ่อรับสายหรือเปล่าครับ”

เมื่อถามคำถามนี้ ส้งอานสงสัยเล็กน้อย แต่ก็ตอบออกไปว่า “รับสิ พ่อของหนูบอกว่าให้หมอประจำตระกูลไปดูแลเสี่ยวเหยียนแล้ว เพราะฉะนั้นพวกเราก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว”

สิ่งที่เธอสงสัยก็คือ เธอโทรหาเย่โม่เซินสามรอบ แต่อีกฝ่ายไม่รับ จนเธอตัดสินใจโทรรอบที่สี่ ถ้าเขาไม่รับเธอจะโทรไปหามู่จื่อ

ใครจะไปรู้ว่าสุดท้ายก็มีคนรับสาย แต่ทว่าคนที่รับสายไม่ใช่เย่โม่เซิน แต่เป็นเซียวซู่ผู้ช่วยของเขา

ส้งอานถามเขาว่าทำไมเย่โม่เซินถึงไม่รับสาย

เซียวซู่ตอบด้วยเสียงเย็นชาว่า เย่โม่เซินกำลังอาบน้ำ ปิดเสียงมือถือจึงไม่ได้ยิน บังเอิญเขาเข้ามาพอดีเลยเห็นแล้วรับสายแทน จากนั้นเขาจึงถามเธอว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า อีกสักพักเขาจะบอกเย่โม่เซินให้

คำพูดพวกนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติ

เธอพูดความสงสัยของตัวเองออกมา เซียวซู่ เซียวซู่อธิบายว่าหานชิงมาที่บ้าน ห้องจึงไม่เพียงพอ พวกเขาจึงไม่นอนที่โรงแรม

เธอจึงคลายความสงสัย แต่เธอคิดไม่ถึงว่าพี่ชายของมู่จื่อจะมาด้วย นี่ก็เป็นครอบครัวใหญ่แล้วสินะ

เสี่ยวหมี่โต้วได้ยินสิ่งที่ส้งอานพูดก็ส่งเสียงถอนหายใจโล่งอกออกมา คนไม่ดีแบบพ่อก็ยังรู้จักดูแลแม่

ไม่นาน หลังจากที่ส้งอานรู้ว่าทุกคนไม่ได้มาที่นี่ เธอจึงหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วพูดว่า “ในเมื่อทุกคนไม่มา งั้นพวกเรากลับเถอะ”

พูดจบเธอก็ลุกขึ้นยืน

เมื่อได้ยินว่าเธอจะกลับ ยู่ฉือจินรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

“เพิ่งมาไม่ใช่เหรอ ยังไม่ได้ทานข้าวเลย”

“ไม่ต้องแล้วล่ะ ฉันกลับไปหาอะไรกินเองได้”

ทุกคนไม่ได้มาที่นี่ เธอก็ไม่มีกะจิตกะใจมากินข้าวกับชายชราคนนี้ ส้งอานกะว่าจะพาเสี่ยวหมี่โต้วกลับด้วย เสี่ยวหมี่โต้วเขย่ามือของเธอแล้วพูดว่า “คุณย่า อยู่ทานข้าวก่อนเถอะครับ”

ส้งอานอึ้งไป

หยูโปที่ยืนอยู่อีกด้านก็พูดขึ้นมาว่า “ใช่ครับคุณส้งอาน คนใช้เตรียมอาหารไว้พร้อมแล้ว ทานข้าวแค่ไม่กี่นาทีเองครับ ไหนๆ ก็มาแล้ว ทานข้าวก่อนแล้วค่อยกลับไม่น่าจะเป็นอะไรนะครับ”

ส้งอานก้มหน้ามองแววตาแห่งความคาดหวังของเสี่ยวหมี่โต้ว

จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าไม่สามารถปฏิเสธได้

เซียวซู่ประคองเย่โม่เซินขึ้นมา ใบหน้าหล่อเหลาของเย่โม่เซินซีดเผือดราวกับไม่มีลมหายใจแล้ว

“ให้เขานอนราบบนพื้น”

หลังจากที่วางเย่โม่เซินให้นอนราบบนพื้น เจสัน คุกเข่าแล้วปั๊มหัวใจช่วยชีวิตเขา

เซียวซู่คุกเข่าลงด้วยสีหน้าตึงเครียด

หนึ่งวิ สองวิ…

หลังจากเวลาผ่านไปราวๆ สิบวินาที ในที่สุดเย่โม่เซินก็รู้สึกตัว

เซียวซู่กับเจสันเห็นภาพตรงหน้าจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

วินาทีต่อมา เจสันซัดหมัดเข้าไปที่คางของเย่โม่เซิน ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาตรงกรามล่างของเขาจนทำให้คนที่เพิ่งฟื้นได้สติ เขาหรี่ตามองเจสัน

“บ้าไปแล้วเหรอ!” เมื่อเผชิญกับแววตาอันน่ากลัว เจสันไม่กลัวแม้แต่น้อย แถมยังตวาดใส่เขาอีก

เย่โม่เซินดูออกว่าแววตาของเพื่อนสนิทอย่าง เจสัน เต็มไปด้วยความเป็นห่วง

เดิมทีเขากำลังจะโวยวาย แต่เมื่อเห็นความเป็นห่วงของเพื่อน ความโกรธพลันหายไปบ้าง จากนั้นเขาจึงเม้มปากแล้วนั่งพิงกำแพง

เจสันมองสภาพของเขาแล้วแสยะยิ้มออกมา “ฉันไม่เคยเห็นใครไม่รักชีวิตของตัวเองเหมือนนายเลย นายไม่เห็นค่าของชีวิตตัวเองแล้วหรือไง ฉันจะบอกให้นะ ถ้าชีวิตมันบริจาคได้ ฉันให้นายบริจาคไปนานแล้ว ไม่มีทางให้นายเอาชีวิตของตัวเองมาเล่นแบบนี้หรอก”

เย่โม่เซินหลุบตาลง “ชีวิตสำคัญ แต่ความทรงจำก็ขาดหายไปไม่ได้เหมือนกัน”

คำพูดของเย่โม่เซินทำให้ เจสัน โกรธ “ถึงนายอยากฟื้นความทรงจำ นายก็ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ไม่ใช่หรือไง การวิจัยทางการแพทย์ไม่มีการรักษาที่ได้ผลอย่างรวดเร็ว ต้องอาศัยตัวนายค่อยๆ ฟื้นความทรงจำ แต่นี่นาย…”

เย่โม่เซินส่ายหน้า “ไม่ได้ ต้องให้เร็วที่สุด”

เขาจำเป็นต้องฟื้นคืนความทรงจำของตัวเองให้เร็วที่สุด ตอนที่ได้ยินคำพูดของเสี่ยวหมี่โต้ว เขารู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถรอต่อไปได้อีกแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่