ตอนที่472 ปริศนาตัวตนที่แท้จริง
“คุณคือ?”เธอมองหญิงสาวแล้วยิ้มตอบรับ ไม่ได้ยอมรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
หญิงสาวกัดริมฝีปาก “โทรศัพท์เครื่องนี้เป็นของป้าคนนั้นที่ทำตกโดยไม่ตั้งใจตอนเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ถ้าหากคุณเป็นคนในครอบครัวเธอ คืนให้กับคุณก็เหมือนกัน”พอพูด เธอก็เอาโทรศัพท์รุ่นเก่าเครื่องหนึ่งออกมาจากกระเป๋า แล้วยื่นให้กู้ฮอน
กู้ฮอนอึ้งไปพักหนึ่ง รับโทรศัพท์มา มองหญิงสาวคนนี้อย่างน่าสงสัย “ขอโทษนะคะ เช้าวันนี้คุณเป็นคนส่งข้อความมาหาฉันเหรอคะ?”
หญิงสาวขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าสงสัยกับคำถามของกู้ฮอน เธอส่ายหัว “ข้อความอะไรคะ?คุณคะ ก่อนหน้านี้เราไม่น่าจะเคยเจอกันนะคะ ฉันไม่รู้จักคุณเลยด้วยซ้ำ”
กู้ฮอนไม่เห็นวี่แววการโกหกในสายตาของหญิงสาว แล้วถามต่ออีกว่า “งั้นคุณสามารถบอกฉันได้ไหมคะ คุณกับผู้ป่วยเกี่ยวข้องกันยังไง?แล้วเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างไรอีกด้วย?”
“ฉันไม่รู้จักป้าคนนั้นด้วยซ้ำ!ตอนที่ฉันไปโรงเรียนในตอนเช้า ระหว่างทางได้ชนป้าคนนั้นโดยไม่ตั้งใจ ตอนนั้นเธอดูเร่งรีบ แม้แต่โทรศัพท์ตกก็ไม่รู้ เมื่อฉันเก็บโทรศัพท์ขึ้นมา หันมาพร้อมกับจะเอาโทรศัพท์ให้เธอ มีรถคันหนึ่งพุ่งมาจากข้างทางอย่างกะทันหัน และได้ชนเธอ......”หญิงสาวพูดถึงตรงนี้ สีหน้าดูกระวนกระวายได้ชัดเจน “ต่อมาได้มีคนโทรหา120 ส่งเธอมาโรงพยาบาล และเพราะว่าฉันยังเอาโทรศัพท์ของป้าไว้ ก็เลยตามมาดูสถานการณ์ อยากหาโอกาสคืนเธอหรือครอบครัวเธอ......ตอนนี้ของได้กลับสู่เจ้าของแล้ว ฉันก็ถึงเวลาไปแล้ว ลาก่อนค่ะ”
“รอเดี๋ยว!”กู้ฮอนรู้สึกว่าสีหน้าของหญิงสาวกระวนกระวายเล็กน้อย เธอเลิกคิ้ว เหมือนคิดอะไรได้ ถามต่อว่า “คุณได้เห็นอะไรหรือเปล่า?แล้วคนที่ขับที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุล่ะ?”
หญิงสาวหน้าซีดทันที รีบส่ายหัว “ไม่......ฉันไม่เห็นอะไรเลย......คนที่ขับชนได้หนีไปแล้ว......”ตำรวจจราจรได้เดินเข้ามา และจัดการราวกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ทั่วไป เรื่องอย่างอื่นคุณไปถามตำรวจเถอะ......
หญิงพูดพลางจะไป กู้ฮอนรู้สึกผิดปกติ รีบดึงข้อมือของหญิงสาวไว้ก่อน “ขอโทษนะคะ ช่วยบอกทุกอย่างที่คุณเห็นให้กับฉันหน่อยนะคะ ได้ไหม?เพราะว่าคนที่นอนอยู่ในห้องฉุกเฉินนั้น......อาจจะเป็นคุณแม่ของฉันค่ะ!”
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่แน่ใจ แต่ถ้าเป็นคุณแม่ของตัวเองจริงๆละก็......ขอบตากู้ฮอนก็แดงขึ้นมาทันที
หญิงสาวรู้สึกทำไมลงนิดๆ คิดไปสักพัก มองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง แล้วเข้ามากระซิบข้างหูของกู้ฮอนว่า “คุณคะ ฉันไม่อยากเดือดร้อน......พูดตามตรงเลย สีหน้าป้าคนนั้นดูเร่งรีบ ในตอนที่ชนฉัน โทรศัพท์ตกยังไม่ทันเก็บ ก็รีบเดินจากไปแล้ว......”
กู้ฮอนรู้สึกกังวล “ความหมายของคุณคือ เธอรู้ว่าโทรศัพท์ตัวเองตก แต่กลับไม่ได้เก็บขึ้นมา กลับเดินจากไป?”
“อืม”หญิงสาวพยักหน้า “ดูจากท่าทีของป้าแล้ว เหมือนกำลังหนีอะไรสักอย่าง......คอยมองมาข้างหลังตลอด เหมือนกลัวว่าถูกคนตามมา......แต่ใครจะรู้ว่า ในไม่นาน ป้าก็ถูกชนที่หน้าปากซอยแล้ว......”
สีหน้าขณะนี้ของกู้ฮอนซีดมาก กำมือของหญิงสาวแน่น “ความหมายของคุณคือ อุบัติเหตุทางรถยนต์มันไม่ได้เป็นแค่อุบัติเหตุ?”
“ไม่ๆๆ ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นนะ......ฉันก็แค่พูดตามสิ่งที่ฉันเห็น ส่วนอุบัติเหตุทางรถยนต์ใช่ไม่ใช่อุบัติเหตุนั้น คุณก็คงต้องไปเจรจากับฝั่งตำรวจเองแล้วล่ะ คุณคะ ทีนี้คุณปล่อยฉันได้หรือยังคะ?”
กู้ฮอนขมวดคิ้วแน่น สีหน้าตึงเครียด “งั้น คุณสามารถให้เบอร์ติดต่อของคุณกับฉันไว้ได้ไหมคะ?”
“อย่า อย่าเลย......”หญิงสาวได้ยินนั้นก็ตกใจอย่างมาก พยายามหลุดพ้นจากมือของกู้ฮอน พูดว่า “ฉัน ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น คุณอย่ามาหาฉันเลย......ฉันไม่หาเรื่องใส่ตัว......แค่นี้แหละ ขอให้คุณและป้าโชคดี บ๊ายบาย......”
“เห้ย สาวน้อย......”
กู้ฮอนยังพูดไม่จบ หญิงสาวก็หันตัวกลับรีบวิ่งหนีหายไปแล้ว......
อุบัติทางรถยนต์เป็นอุบัติเหตุหรือคนทำ?ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้
ไม่ว่าคนที่คนอยู่ในนั้นใช่แม่ของตัวเองหรือเปล่า เธอหวังอย่างจริงใจว่าผู้บาดเจ็บจะหายดี
กู้ฮอนมองโทรศัพท์ใบเก่าในมือตัวเอง ว่าจะเปิดดู ว่ามีอะไร......
ในตอนนี้ ไฟในห้องฉุกเฉินก็ดับลง
มีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากข้างใน: “ใครเป็นครอบครัวของผู้ป่วยครับ?”
“ฉันค่ะ......”กู้ฮอนไม่มีวิธีอื่น ก็เลยตอบไป “ไม่ทราบว่าอาการเธอเป็นยังไงบ้างคะ?”
คุณหมอถอดหน้ากากออก ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าตึงเครียด: “เนื่องจากถูกกระทบอย่างรุนแรง ร่างกายของผู้ป่วยได้หักไปสี่ที่ และเครื่องในในหนึ่งส่วนสามก็ฉีกขาด”
ในใจของกู้ฮอนไป‘ตึง’ทีนึง
คุณหมอพูดต่ออีกว่า “แต่ว่าการผ่าตัดผ่านไปด้วยดี ตอนนี้เธอพ้นจากขีดอันตรายแล้ว แต่ยังคงต้องย้ายไปที่แผนกผู้ป่วยหนักเป็นเวลา 72 ชั่วโมงเพื่อสังเกตอาการ เชิญคุณตอนนี้ไปจัดการเรื่องการเข้าโรงพยาบาลหน่อยครับ”
กู้ฮอนกำลังจะพูด โทรศัพท์ตัวเองก็ดังขึ้น
คุณหมอพยักหน้ากำลังจะจากไป เธอรีบถามต่อว่า “คุณหมอคะ ฉันสามารถเข้าไปดูเธอหน่อยได้ไหมคะ?”
“ผมว่าตอนนี้อย่าเพิ่งครับ รออาการเธอคงที่ก่อนค่อยว่ากัน”
เสียงริงโทนของโทรศัพท์ในกระเป๋าดังมาก แต่เธอไม่สามารถสนใจอะไรได้มากขนาดนั้น รีบถามคุณหมอต่อว่า “แล้วในอนาคตเธอจะได้รับผลกระทบอะไรไหมคะ?”
คุณหมอขมวดคิ้ว “ผมพูดได้แค่ว่า ยังดีที่ตอนนั้นเธอรีบเอามือมาบังหัวเอาไว้ สมองก็ไม่ได้ถูกกระทบหนัก แต่ว่าจะมากจะน้อยสมองก็คงถูกกระเทือนบ้าง อาการอื่นต้องรอเธอฟื้นก่อนค่อยว่ากันอีกทีครับ”
“......ขอบคุณค่ะ คุณหมอ”
กู้ฮอนรู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย แล้วค่อยหยิบโทรศัพท์ที่ดังตั้งนานขึ้นมา
สายเรียกเข้าจากเป่หมิงโม่——
มือเธอสั่นนิดๆ “ฮัลโหล......”
“ยังยุ่งอยู่เหรอ?”น้ำเสียงที่ทุ่มต่ำของเขา ปนไปด้วยความสงบและอ่อนโยน
เข้าสู่ใจที่แน่นตึงของเธอทันที
“อืม......”เสียงของเธอกดต่ำนิดๆ เมื่อหันกลับมา เห็นว่าประตูห้องฉุกเฉินเปิดทันที พยาบาลทั้งสามก็เข็นผู้ป่วยออกมา เธอรีบพูดในสายว่า “ตอนนี้ฉันยุ่งอยู่นิดๆ รอฉันกลับไปค่อยคุยนะ นายดูแลลูกๆดีๆล่ะ”
ตู๊ดๆๆๆ
เธอรีบวางโทรศัพท์
เดินขึ้นมาข้างหน้า มองคนที่นอนบนรถเข็น ทั้งตัวพันแน่นไปหมด ดูไม่ออกเลยว่าสภาพเดิมเป็นยังไง
ผ่านไปสามนาที หยินปู้ฝันรีบโผล่มาที่ห้องฉุกเฉิน!
กู้ฮอนนั่งที่เก้าอี้ตรงระเบียง ใบหน้าซีดขาว
“ปู้ฝัน......”เธอมองชุดผู้ป่วยบนตัวหยินปู้ฝันอย่างอึ้งๆ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยรอยช้ำ เห็นได้ชัดเลยว่า เมื่อคืนถูกเป่หมิงโม่ต่อยหนักไม่เบาเลย......
เธอนึกถึงคำพูดที่หยินปู้ฝันพูดในสายตอนเช้านั้น เขาจะมีเรื่องยุ่งอะไรกัน?เขาอยู่ในโรงพยาบาลชัดๆ! “ขอโทษ......”
คำว่าขอโทษนี้ เธอพูดแทนเธอ และพูดแทนเป่หมิงโม่ด้วย
“ยัยเด็กโง่ คุณไม่มีอะไรต้องขอโทษผมหรอก!”หยินปู้ฝันหายใจหอบ กวาดตามองไปที่ห้องฉุกเฉินทีหนึ่ง: “สถานการณ์ของคุณน้าลู่ในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”
“เพิ่งส่งไปที่แผนกผู้ป่วยหนัก ยังต้องรอดูอาการต่อไป......”ตาใสของเธอจ้องมองหยินปู้ฝัน: “บอกฉันที เธอเป็นใครกันแน่?”
หยินปู้ฝันถอนหายใจ ส่ายหัวแล้วพูด “เรื่องนี้พูดแล้วมันยาว ผมก็เพิ่งรู้จักเธอไม่นานมานี้ ผมรู้แค่ว่าเธอชื่อลู่ลู่......”
หลังจากที่หยินปู้ฝันและกู้ฮอนได้ไปจัดการเรื่องการเข้าโรงพยาบาลของลู่ลู่ ทั้งสองก็ได้หาที่นั่งสักแห่งในโรงพยาบาลนั่งลง
“ตอนนี้ พวกเรามานั่งลงคุยกันดีๆเรื่องของคุณน้าลู่ คุณรู้ได้ไงว่าเธอเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์?อีกอย่าง โทรศัพท์ของเธอทำไมอยู่ในมือคุณ?”
กู้ฮอนกัดริมฝีปาก สีหน้าหนักใจ “เช้านี้ฉันได้รับข้อความที่ไม่คุ้นเคย ก็เลยรีบมา......”
พลางพูด เธอก็เปิดข้อความในมือถือ ยื่นให้หยินปู้ฝันดู แล้วพูดต่อว่า “จากนั้น มีหญิงสาวคนหนึ่งคิดว่าฉันเป็นครอบครัวของลู่ลู่ แล้วบอกว่าเก็บโทรศัพท์ของเธอได้ เลยเอาให้ฉัน ยังพูดอีกว่าไม่อยากให้ตำรวจแตกตื่น เพราะเธอรู้สึกว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์ของลู่ลู่เหมือนไม่ได้ง่ายเป็นแค่อุบัติเหตุอย่างเดียว......”
“ไม่ใช่อุบัติเหตุ?”หลังจากที่หยินปู้ฝันอ่านข้อความเสร็จ สมองก็เกิดสงสัย “แปลกนะ คนที่ส่งข้อความให้คุณนี้ไม่เพียงแต่รู้ว่าตัวตนของคุณ ยังรู้ตัวตนของลู่ลู่อีกด้วย ยิ่งรู้อีกว่าลู่ลู่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์!”
“......”สีหน้ากู้ฮอนเริ่มตึง ถามอย่างระมัดระวังว่า “ปู้ฝัน ลู่ลู่คนนั้นเป็นเหมือนในข้อความพูดหรือเปล่า เธอคือ......แม่ของฉันหรือเปล่า?”
ลำคอเธอก้ำกึ่งทันที เกิดมายี่สิบปี เพิ่งมารู้ว่าคนที่ตัวเองคอยปรนนิบัติเลี้ยงมาตลอดกลับไม่ใช่แม่แท้ๆของตัวเอง เคยเจ็บหนักมาก่อน เธอไม่รู้ว่าตัวเองยังจะมีความกล้าที่จะเผชิญอีกครั้งหรือเปล่า
หยินปู้ฝันตบมือเธอเบาๆ “อย่ากังวลไปเลย คำถามนี้คุณน้าลู่ก็อยากรู้เหมือนกัน ฉะนั้นก็เลยขอให้ผมช่วย ดูตอนนี้แล้ว พวกคุณต้องรีบทำการตรวจDNAให้เร็วที่สุด ค่อยแน่ใจความสัมพันธ์ของพวกคุณ”
“งั้นพวกเราไปตรวจตอนนี้เลย ดีไหม?”สำหรับเรื่องนี้แล้ว เธอรีบมากรอไม่ได้เลย
“อืม งั้นเดี๋ยวผมไปบอกกับคุณหมอแป๊บ ให้พวกเขาเอาเส้นผมของลู่ลู่มาตรวจ ความแม่นยำสามารถสูงถึง99.9999%”
ทั้งวันนี้ กู้ฮอนและหยินปู้ฝันเฝ้าที่โรงพยาบาลตลอด
และพ่อลูกท่านโม่ทั้งสามเล่นในเมืองSอย่างมั่วซั่ว
ตั้งแต่ที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแล้ว หลังจากที่กู้ฮอนวางสายเป่หมิงโม่ไป เขาก็หน้าบึ้งตึงมาตลอด
เมื่อนึกถึงฉากที่เธอกับหยินปู้ฝันทำงานด้วยกัน เขาก็รู้สึกไม่สบายไปทั้งตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ