ตอนที่635 เป็นคนตระกูลเป่หมิงอย่างแท้จริง
เขาก้มหน้าลงมองที่หน้าจอรถ ปรากฏเบอร์ของชายสวมหมวกเบสบอลนั่นพอดี
เขาปิดกระจกรถขึ้น ทันใดนั้นในรถก็เงียบลง จากนั้นก็สตาร์ทรถแล้วกดบลูทูธรับสาย
“ฮัลโหล เรื่องอะไรรีบพูดมา”
วันนี้อารมณ์ของชายสวมหมวกเบสบอลดีมาก ที่สำคัญคือเขารู้แล้วว่าเป่หมิงโม่แพ้คดีวันนี้
ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่บนยอดเขา ใต้เท้าของเขาส่องแสงสว่างไสวอยู่ที่เมือง A
“เหอะเหอะคุณชายเป่หมิงทำไมผมฟังจากเสียงคุณแล้วดูอารมณ์แย่จัง หรือว่าวันนี้เป่หมิงโม่แพ้คดีแล้วยังไม่คุ้มค่าที่จะดีใจเหรอ?”
“เขาจะชนะหรือแพ้คดี สำหรับผมแล้วไม่มีความหมายอะไรทั้งนั้น” เป่หมิงยี่เฟิงขับรถ ไปยังสถานที่พักของตัวเอง
“คุณชายเป่หมิงคุณพูดไม่ผิด คุณไม่เห็นเขาในสายตา ขณะเดียวกันพวกเขาตระกูลเป่หมิงก็ไม่เห็นคุณเป็นครอบครัว”
เป่หมิงยี่เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณหมายความว่าไง?”
ถึงแม้เขาจะเห็นด้วยกับคนนอกร่วมมือกันจัดการเป่หมิงโม่ ก็แค่ต่อต้านเขาคนเดียว รอวันที่ทำให้เขาล้มลง ตัวเองก็จะ สามารถเข้าสู่ตระกูลเป่หมิงได้อีกครั้ง
***
ชายสวมหมวกเบสบอลหัวเราะ “ผมว่าคุณคงยังไม่รู้สินะ พรุ่งนี้เป็นวันที่ฝังศพปู่ของคุณ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่แจ้งคุณเลย หรือว่ายังมองคุณเป็นคนนอกนะ โอเค เรื่องอื่นผมไม่พูดมากแล้ว เรื่องของตระกูลพวกคุณ ผมเป็นคนนอกไม่ยุ่งแล้ว”
เป่หมิงยี่เฟิงหรี่ตาลงเล็กน้อย “เรื่องของตระกูลเป่หมิง ยุ่งให้น้อยลงหน่อยได้ไหม ตอนนี้ผมไม่ว่างมาคุยกับคุณหรอกนะ เงินของพ่อผมจะรีบคืนให้พวกคุณเลย เรื่องอื่น ผมว่าคุณอย่ามายุ่งดีกว่า”
“เหอะเหอะ ในเมื่อคุณชายเป่หมิงพูดแล้ว งั้นผมก็จะไม่ยุ่งแล้ว”ชายสวมหมวกเบสบอลพูดจบก็วางสาย เป่หมิงยี่เฟิง คุณยังคิดว่าตัวเองใหญ่จากไหน ถึงตอนนั้นเดี๋ยวก็ต้องรีบมาหาพวกเรา
แววตาของชายสวมหมวกเบสบอลมีความเยือกเย็น
*
เป่หมิงยี่เฟิงวางสาย หมุนพวงมาลัย ขับออกไปที่ทาวน์เฮาส์บ้านตัวเอง
แป๊บหนึ่ง รถของเป่หมิงยี่เฟิงก็จอดตรงหน้าประตูทาวน์เฮาส์
เขาเข้าประตูไป หลันเนี่ยนก็เข้ามาต้อนรับ“ยี่เฟิงกลับมาแล้ว ดูสิกลับมาก็ไม่บอกเลย แม่ไม่ได้เตรียมอะไรให้ลูกเลย ตอนนี้ยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม?
“แม่ ผมกินระหว่างทางแล้วครับ วันนี้กลับมาเพราะมีเรื่องจะคุยกับพวกแม่”พูดถึงตรงนี้ เขาก็ถามออกมา “พ่อผมล่ะ?”
พอพูดถึงเป่หมิงเฟยหย่วน หลันเนี่ยนก็มใบหน้าเศร้า เธอยื่นมือชี้ไปที่ห้องทำงานชั้นหนึ่ง “ช่วงนี้พ่อลูก อยู่ห้องทำงานตั้งแต่เช้ายันดึก ออกมาแค่เวลากินข้าวเท่านั้น”
เป่หมิงยี่เฟิงตบไหล่แม่ “แม่ แม่ไม่ต้องห่วงพ่อ บางทีช่วงนี้พ่ออาจจะหดหู่หน่อย เดี๋ยวผมเรียกพ่อออกมาเอง ผมมีเรื่องต้องคุยกับพ่อแม่”
เขาพูดไป ก็หมุนตัวเดินออกไปที่ห้องทำงาน ยื่นมือไปจับประตูแล้วผลักออก เห็นเป่หมิงเฟยหย่วนกำลังนั่งที่โซฟาข้างๆตู้หนังสือ ในมือถืออัลบั้มสองสามอัน
เขากำลังพลิกดูทีละภาพ
“พ่อ ”เป่หมิงยี่เฟิงยืนตรงประตูแล้วพูดออกมา
เป่หมิงเฟยหย่วนเงยหน้าขึ้น เห็นลูกชายยืนหน้าประตู ก็โบกมือให้เขา “ยี่เฟิงเข้ามาสิลูก”
เป่หมิงยี่เฟิงเดินไปในห้องทำงาน ปิดประตูลง เขามาตรงหน้าพ่อ “พ่อ ได้ยินแม่พูด ช่วงนี้พ่อเอาแต่อยู่ในนี้ อยู่ในห้องบ่อยๆ ไม่ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์บ้างเป็นผลเสียต่อร่างกายนะ”
เป่หมิงเฟยหย่วนไม่พูดอะไร ได้แต่เอาอัลบั้มให้ลูกชายดู “ยี่เฟิงดูสิ นี่เป็นตอนเด็กคุณปู่พาลูกถ่ายรูป”
เป่หมิงยี่เฟิงก้มหน้ามองลงไป พ่อชี้ให้เขาดูถ่านตอนที่เขาสี่ขวบ ตัวเองตอนนั้นยืนข้างๆปู่ ยิ้มอย่างมีความสุข
“วันเวลาพวกนี้ พ่อมักจะฝันถึงคุณปู่ ดังนั้นทุกวันพ่อเลยอยู่แต่ในนี้ดูรูปที่เกี่ยวกับเขา ไม่รู้ว่าตอนนี้อาการเขาเป็นไงบ้างแล้ว”
ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่เป่หมิงเฟยหย่วนถูกเป่หมิงโม่ทำร้ายจนบาดเจ็บที่โรงพยาบาล ก็ไม่เคยไปอีกเลย ที่จริงเขาก็โทษตัวเองมาก กลัวว่าอาการป่วยของพ่อจะกำเริบหนักขึ้น
ตั้งแต่นั้นเขากับภรรยาก็อยู่ที่นี่ ไม่ดูทีวีอีก และก็อ่านหนังสือพิมพ์อีกด้วย กลัวว่าดูแล้วจะรู้ข่าวแย่ๆของพ่อ
ดังนั้น จนถึงตอนนี้ ข่าวโลกภายนอกทุกอย่างพวกเขาต่างไม่รู้
เป่หมิงยี่เฟิงได้ยิน ในใจก็สั่น
คิดไม่ถึงว่าตอนนี้พ่อจะกลายเป็นแบบนี้ พรุ่งนี้ก็เป็นวันเผาของคุณปู่แล้ว ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกหรือเหตุผลก็ตามก็ต้องบอกพวกเขา ไม่เพียงแค่นั้น ยังต้องพาพวกเขาเข้าร่วมงานศพด้วยความน่าไว้วางใจและความบริสุทธิ์ใจ
แค่เพราะว่า ตระกูลพวกเขาเป็นคนตระกูลเป่หมิงอย่างแท้จริง
***
เป่หมิงยี่เฟิงทำลายความคิด เขาเอาอัลบั้มในมือของพ่อมาอยู่ข้างๆ “พ่อครับ พ่อออกมาหน่อย ผมมีเรื่องต้องพูดกับพ่อและแม่”
เป่หมิงเฟยหย่วนมองหน้าลูกชายที่หน้าซีเรียส พยักหน้าแล้วค่อยๆยืนขึ้นตามลูกชายออกไปจากห้อง
เป่หมิงเฟยหย่วนตามลูกชายไปที่ห้องรับแขก
“แม่ แม่ก็มานี่หน่อย ผมมีเรื่องต้องคุยกับทั้งสอง”
ที่จริงหลันเนี่ยนดูออกว่าเหมือนลูกชายจะมีเรื่องในใจ ตั้งแต่ที่เป่หมิงยี่เฟิงเข้ามาแล้ว
เธอวางของในมือแล้วไปที่ห้องรับแขก “ยี่เฟิง มีอะไรก็พูดเถอะลูก”
“ใช่ยี่เฟิง ถึงแม้ตอนนี้ตระกูลเป่หมิงจะเป็นของอาสองลูก อย่างน้อยก็ยังเป็นตระกูลเป่หมิง รีบบอกพวกเรามาว่าเกิดอะไรขึ้น”
เป่หมิงยี่เฟิงยื่นมือไปจับมือพวกเขาที่โซฟา “พ่อกับแม่วางใจเถอะครับ ผมรู้ว่าอะไรควร ผมคือคนของตระกูลเป่หมิง และก็ไม่ให้อุตสาหกรรมของตัวเองตกไปอยู่ในมือของคนนอก แค่ผมต้องเอาของที่เคยเป็นของผมทั้งหมดคืนกลับมา และต้องได้รับผลตอบแทนอีกเท่า”
เป่หมิงเฟยหย่วนกับหลันเนี่ยนมองหน้ากัน ไม่ว่าความสามารถหรือความกล้าหาญของยี่เฟิง ต่างแข็งแกร่งกว่าพวกเขาสองสามีภรรยาหลายร้อยเท่า แต่พวกเขายังคงกังวลมาก ยังไงซะที่ลูกชายเผชิญหน้าอยู่ก็ไม่ใช่คนนอก แต่เป็นเป่หมิงโม่ ลูกชายที่พ่อชื่นชมมากที่สุด
*
กู้ฮอนอยู่เป็นเพื่อนแม่ในห้องคนไข้ จนสุดท้ายหมอเข้าเวรถึงเชิญกู้ฮอนออกไป
ระหว่างทางกลับบ้าน กู้ฮอนคิดมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรุ่งนี้เธอจะไปร่วมงามศพของท่านปู่เป่หมิงแทนแม่ พอคิดขึ้นมา คิ้วของเธอก็ขมวดเล็กน้อย
ถึงแม้แม่จะแสดงออกโดยพูดไปว่าแสดงน้ำใจแทนเธอ แต่ว่าเหมือนเธอจะมองบางอย่างที่แปลกไปในสายตาแม่ออก
พรุ่งนี้เจอท่านนางเป่หมิง และเฟยเอ๋อ เธอจะไปเผชิญหน้ากับพวกเธอได้ยังไงนะ?พอคิดถึงตรงนี้ กู้ฮอนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
*
วันถัดมา เป็นวันที่ฝังศพของเป่หมิงเจิ้งเทียน
เดิมที่เป่หมิงโม่ที่จะจัดการสักหน่อย ตอนเช้าเขาก็เปิดผ้าม่านที่หน้าต่างห้องนอนเล็กน้อย มองลงไปก็เห็นที่หน้าประตูใหญ่ของบ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิง มีนักข่าวจำนวนไม่น้อยรวมตัวกันที่นี่แล้ว
คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย ตอนที่หมุนตัวเตรียมออกไป
ประตูห้องนอนถูกเคาะสองครั้ง
“เข้ามา”เป่หมิงโม่พูดเสียงต่ำ
ประตูห้องนอนเปิดออก ฉิงฮัวเดินเข้ามา เขาสวมชุดสูทสีดำ ดูท่าทางเคร่งขรึม
เขาเดินไปที่ด้านหน้าเป่หมิงโม่ “เจ้านาย ดูหนังสือพิมพ์วันนี้สิครับ”พูดจบ เขาหยิบหนังสือพิมพ์ออกมา
เป่หมิงโม่หยิบมาดู ด้านบนพาดหัวข่าวว่า《ประธานตระกูลเป่หมิงแพ้คดี หนีไปอย่างอึดอัดใจ》
รับเข้ามา ด้านล่างยังมีอีกหัวข้อว่า《ประธานคนก่อนตระกูลเป่หมิงฝังศพวันนี้ เกรงว่าจะทะเลาะกันภายในครอบครัว》
ฉิงฮัวคิดไม่ถึง เป่หมิงโม่ดูจบก็ทิ้งหนังสือพิมพ์ไปข้างๆ จากนั้นเดินไปที่หน้าตู้เสื้อผ้า เลือกสูทสีดำมา
แป๊บหนึ่ง ฉิงฮัวตามอยู่ด้านหลังเป่หมิงโม่ ออกมาจากห้องนอน พวกเขาเจอเฟยเอ๋อที่หน้าบันได
“โม่”วันนี้เฟยเอ๋อก็สวมชุดดำทั้งตัว ในของเธอไม่เคยนิ่งลง รู้สึกเสมอว่ามีดวงตาคู่หนึ่งจ้องเขม็งตัวเองอยู่ด้านหลัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ