ตอนที่637 ลูกอกตัญญูต่อหน้าวิญญาณ
ตอนนี้หลันเนี่ยนก็คุกเข่าไปข้างๆเขา และเคาะไปสามทีเช่นกัน
จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นประคองเป่หมิงเฟยหย่วนลุกขึ้น ตอนนี้ก็เห็นเป่หมิงเฟยหย่วนน้ำตาเต็มหน้า หน้าผากของเขามีเลือดเล็กน้อย
***
ตอนนี้เองเจียงฮุ่ยซินมองต่อไปไม่ได้ ยืนมือโบกไป “เฟยหย่วน อย่าทำอย่างนี้สิ”
เป่หมิงยันชักหน้าใส่เป่หมิงยี่เฟิง “ยังไม่รีบไปดึงพ่อกับแม่มาอีก”
เป่หมิงยี่เฟิงมองทุกคนในนั้น “ญาติและเพื่อนทุกท่าน ผมมีบางอย่างไม่รู้ว่าควรพูดหรือว่าไม่พูดดี พ่อผมเป่หมิงเฟยหย่วนเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเป่หมิง ตามมารยาทแล้ว ควรเป็นพ่อของผมที่อยู่หน้าสุดใช่หรือไม่”จากนั้นเขาก็เดินไปตรงข้างๆเป่หมิงโม่ ค่อยๆพูดอีกว่า “คิดอย่างนั้นไหมครับ อาสอง”
“นี่……”ทุกคนได้ยินก็มองหน้ากัน ถึงแม้เป่หมิงยี่เฟิงจะพูดไม่ผิด แต่ว่าตอนนี้เป่หมิงโม่คือหัวหน้าครอบครัว ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
เป่หมิงโม่มองเป่หมิงยี่เฟิง ตอนนี้เขาระงับความโกรธไว้ แต่ว่าวันนี้เป็นงานศพพ่อ ตอนที่ดวงจิตเขายังไม่ได้กลับไปพักใต้พื้นดินอย่างสงบสุข จะให้เห็นตระกูลเป่หมิงบาดหมางกันไม่ได้
เขาได้แต่ยิ้มอย่างเยือกเย็น “นายไปถามพ่อนายไป ว่าเขามีคุณสมบัติหรือไม่”
“อาสอง คนในนี้ใครไม่รู้บ้าง ตอนนี้คุณคือพี่ใหญ่ ใครจะกล้าขัดคุณ แต่ผมไม่ใช่แบบนั้น เห็นไม่ใช่ก็ต้องพูดออกมา”เป่หมิงยี่เฟิงพูดไปก็เตรียมยื่นมือไปหยิบรูปเหมือนของปู่ที่เฉิงเฉิงกอดไว้ในมือ
เป่หมิงโม่ยื่นมือไปจับข้อมือเขา จากนั้นก็สะบัดเบาๆไปด้านข้าง “มีอะไรก็เรียกพ่อนายมาพูด นายไม่มีคุณสมบัติที่นี่”
มือของเขามีแรงไม่น้อย เป่หมิงยี่เฟิงที่ถูกจับข้อมือก็ขมวดคิ้ว
หลันเนี่ยนเห็นลูกชายตัวเองกับเป่หมิงโม่ต่อสู้กัน ก็ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน รีบจับแขนสามีมาที่ข้างๆลูกชาย
“ยี่เฟิง พอแล้ว พวกเราอยู่ด้านหลังก็ได้”พูดไปเธอก็ยื่นมือไปดึงแขนของเป่หมิงยี่เฟิง
“แม่ เขารังแกครอบครัวเรานะ หรือว่ายังต้องกล้ำกลืนความเจ็บช้ำน้ำใจต่อไปอีกเหรอ”เป่หมิงยี่เฟิงพูดไปก็เอามือของตัวเองออกแรงสะบัดออก
“พอแล้ว!ยี่เฟิง ถ้าลูกไม่ฟัง งั้นพ่อกับแม่ลูกจะกลับไปนะ พ่อไม่มีหน้ามองวิญญาณของปู่ลูกที่อยู่บนสวรรค์ได้อีกแล้ว”เป่หมิงเฟยหย่วนพูดไปก็ลากหลันเนี่ยนออกไป
เป่หมิงโม่มองครอบครัวพวกเขา ยิ้มอย่างเยือกเย็น ยกมือเรียกฉิงฮัว
ฉิงฮัวยืนอยู่ด้านหน้าคนที่เรียกและถือโลงศพ ค่อยๆมาที่สุสาน
เป่หมิงยี่เฟิงโกรธจริงๆ เขามองพ่อของตัวเอง “พ่อ ทำไมพ่ออ่อนแอแบบนี้ล่ะ ชัดเจนมากว่าอาสองเขาจะกำจัดจุดอ่อนของพ่อน่ะ”
เป่หมิงเฟยหย่วนถอนหายใจ เหตุผลในนั้นมีแค่ในใจเขาเองที่ชัดเจนที่สุด
ทุกคนค่อยๆตามโลงศพมาที่พิธีฝังศพสุสานของเป่หมิงเจิ้งเทียน
รอบทิศทั้งสี่ด้านล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวขจี ด้านหน้าหลุมฝังศพ สามารถมองเห็นอาคารเป่หมิงท่ามกลางหมอกสีเทาได้อย่างรางๆไม่ค่อยชัดเจน
ข้างๆสุสานที่ฝังไว้ก็คือน้องสาวของเขาคุณป้าฟาง
ที่นี่คือสถานที่ที่เป่หมิงโม่ตั้งใจเลือกไว้
อย่างแรก เพราะว่าที่นี่สามารถให้พ่อมองเห็นบริษัทตระกูลเป่หมิงที่เขาสร้างมาเองกับมือได้
อย่างที่สอง ทุกคนต่างรู้เป่หมิงเจิ้งเทียนกับน้องสาวของเขาไม่ลงรอยกัน แต่ว่าความเป็นจริงแล้วระหว่างพวกเขายังมีความห่วงใยในใจต่อกันอยู่ แค่พอจากไปแล้วต่างยังไม่พูดออกมาให้ชัดเจน ในเมื่อตอนนี้ต่างก็จากไปกันหมดแล้ว งั้นก็ฝังพวกเขาไว้ด้วยกัน ถือซะว่าความปรารถนาที่มีมายาวนานของพวกเขาที่ยังไม่เป็นจริงก็สำเร็จลงแล้ว
อย่างที่สาม เป่หมิงโม่ไม่อยากให้พ่อของตัวเองกับแม่ของเป่หมิงเฟยหย่วนฝังไว้ด้วยกัน เพราะว่าเขาแค้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะแม่ของตัวเองหน้าเหมือนแม่ของเป่หมิงเฟยหย่วนล่ะก็ ก็คงไม่ถูกพ่อเข้ามายึดครอง ในเมื่อเขาคิดถึงแม่ของเป่หมิงเฟยหย่วนขนาดนั้น งั้นเขาก็จะไม่ให้พ่อกับเธอฝังไว้ด้วยกัน
***
ส่วนที่ตั้งของสุสานนั้น คนอื่นต่างรู้สึกว่ามีบางอย่างที่พูดออกไปไม่ได้ไม่ใช่ไม่รู้สึก
แต่ว่ามีแค่ในใจของเจียงฮุ่ยซินที่แอบดีใจ
เธอเป็นภรรยาคนที่สามของเป่หมิงเจิ้งเทียน อิจฉาแม่ของเป่หมิงเฟยหย่วนกับแม่ของเป่หมิงโม่มากๆ
เพราะว่าเป่หมิงเจิ้งเทียนต่างมีความรักให้กับพวกเธอมาก สำหรับตัวเองนั้นความรักระหว่างสามีภรรยากลับมีน้อย เหมือนแค่อยู่ด้วยกันไปวันๆมากกว่า
แบบนี้เธอเลยไม่ค่อยพอใจเป่หมิงเจิ้งเทียนตลอดมา แต่ก็กล้ำกลืนความเจ็บช้ำน้ำใจนั้นไว้
ตั้งแต่ที่เป่หมิงเฟยหย่วนยอมทิ้งอำนาจที่ลูกคนโตควรได้ทั้งหมดนั้นไป เป่หมิงยี่เฟิงก็เลยไม่หมดความหวังทุกอย่างกับพ่อของเขาแล้ว
ไม่น่าล่ะอาสองคอยเอาแต่รังแกพ่อ เพราะคิดว่าเขาโง่เกินไป ต่อไปดูเหมือนว่าเพื่อตำแหน่งของลูกพี่ตระกูลเป่หมิงที่จะกลับมานั้น ต้องได้แต่พึ่งตัวเองแล้ว
ทุกคนล้อมรอบหลุมศพ มองโลงของเป่หมิงเจิ้งเทียนที่ค่อยๆลงไป ตามด้วยเป่หมิงโม่กับเป่หมิงยันที่ถือพลั่วมา ค่อยๆเอาดินกลบ
ในใจทุกคนต่างซึมลงมาก
สักพักหนึ่ง หลุมศพหนึ่งก็ปรากฏออกมา
เป่หมิงโม่เอาแต่ยืนตรงหน้าหลุมศพ เอาแก้วเหล้าสองแก้วในมือฉิงฮัวเทใส่เหล้าจนเต็ม “พ่อ คิดไม่ถึงว่าพวกเรากินเหล้าด้วยกันกลับเป็นแบบนี้เนอะ ผมเริ่มก่อนละกันนะ”
พูดจบ เขาก็เงยหน้าดื่มเหล้าหมดแก้ว จากนั้นก็เอาอีกแก้วค่อยๆใส่ไปหน้าหลุมฝัง
ตอนนี้เห็นพ่อเข้าไป พวกเขาก็ดึงมือแม่ไปด้วย
กู้ฮอนก้มหน้ามองลูกชาย “ก็ก่อนคุณย่าเสียบอกพ่อเป็นพิเศษ กลัวพวกลูกจะเสียใจ เลยไม่ให้เขาบอกพวกลูก”
“ที่จริงผมกับหยางหยางคุยกันแล้ว ไม่กี่วันโรงเรียนปิดเทอม ให้แม่พาพวกเราไปเยี่ยมเธอ”เฉิงเฉิงพูดถึงตรงนี้ ตาก็แดงขึ้นมา
หยางหยางก็เช่นกัน ท่าทางดูเสียใจ
มองลูกทั้งสอง ในใจกู้ฮอนก็รู้สึกแย่ ที่จริงอยากปกปิดพวกเขาไปอีกนานแสนนาน แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้
เธอพาทั้งสองคน ยืนข้างๆเป่หมิงโม่ “คุณป้าฟาง ฉันพาลูกๆมาเยี่ยมค่ะ”
“คุณย่า ผมเฉิงเฉิงเอง ผมคิดถึงย่ามาตลอด จี้ที่ย่าให้ผมชอบมาก”เฉิงเฉิงพูดไป ก็แกะเชือกสีแดงที่ห้อยจี้ไว้ออกมาจากคอ ถือไว้ที่มือวางตรงหน้ารูปของคุณป้าฟาง
“คุณย่า ผมหยางหยางนะครับ ผมก็มีเช่นกัน ตอนนี้ย่าอยู่นี่ก็ไม่เหงาแล้ว ปู่จะอยู่กับย่าเอง”หยางหยางก็เอาของตัวเองออกมา วางตรงหน้าหลุมศพเหมือนเฉิงเฉิง
กู้ฮอนมองลูกทั้งสอง ในใจก็เสียใจจนพูดไม่ออก จนยื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาที่ไหล
เป่หมิงโม่ยืนอยู่ข้างๆหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าเสื้อตัวเอง ส่งให้กู้ฮอน
มีคนสองคนที่ยืนมองพวกเขาอยู่ไม่ไกล ไม่สบายใจเลยอย่างมาก
คนที่หนึ่งคือเจียงฮุ่ยซิน หลายครั้งที่เธออยากจะเข้าไปพุ่งใส่ แต่ว่าถูกเป่หมิงยันห้ามไว้ “แม่ครับ แม่ก็อย่างสร้างปัญหามากเลย ให้พวกเขาพูดกับป้าบ้าง”
เจียงฮุ่ยซินมองบนใส่ “พวกเขา?ลูกไปอยู่ข้างพวกเขาเมื่อไหร่?ลูกไม่รู้เหรอว่าแม่เกลียดผู้หญิงคนนั้นมาก”
“แม่ แม่ใจกว้างหน่อยได้ไหม ไม่รู้จริงๆว่าเธอทำอะไรให้แม่ถึงเกลียดเธอขนาดนี้”เป่หมิงยันเริ่มโมโหแล้ว
“เพราะว่าเธอโลภมากไม่รู้จักพอ และยังกล้าเอาหยางหยางไปเก็บไว้ตั้งหลายปี ลูกว่าแม่จะไม่รำคาญเธอได้เหรอ ยันเอ๋อถ้าลูกให้มันกลับมา แม่ไม่ปล่อยแน่”เจียงฮุ่ยซินพูดจบก็จ้องเป่หมิงยันเขม็ง
ที่จริงเรื่องของเป่หมิงโม่กับกู้ฮอนเขารู้มาไม่มาก “แม่ แม่พูดแบบนี้ก็ไม่ถูก ทำไมเอาแต่ความผิดไปให้เธอล่ะ ถ้าไม่ใช่ว่าตอนแรกแม่จ่ายเงินหาคนมาเหรอ แล้วเธอจะมาปรากฏได้ยังไงล่ะ อีกอย่างตอนแรกก็บอกว่าต้องการลูกคนเดียว พอเธอคลอดได้สองมันก็เป็นความสามารถของเธอ ……”
ยังไม่ทันรอเป่หมิงยันพูดจบ เจียงฮุ่ยซินก็ตีเขาไปด้วยความโกรธ “เจ้าเด็กบ้า เข้าข้างคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ในเมื่อลูกรู้ว่าแม่จ่ายเงินหาคนมาคลอดลูกให้โม่ ก็ควรรู้ไว้ซะทำแบบนี้ก็เพื่ออะไร”
“โอเค รู้แล้ว พอพูดเรื่องนี้ แม่ก็หาข้ออ้างมาตลอด และยังเอาคนอื่นมาเป็นข้ออ้างเรื่องที่แม่ทำนี้อีก”
***
พวกเขากำลังทะเลาะกันอยู่ข้างๆ ยืนอยู่ด้านหลังพวกเขาก็คือเฟยเอ๋อ ตอนนี้ในใจเธอก็รู้สึกเจ็บแปลบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ