“เพิ่งตื่นค่ะ พี่กลับประเทศมาแล้วเหรอ?”
“อื้อ เพิ่งลงจากเครื่อง เดี๋ยวเธอไปแจ้งให้กับทุกคนทราบหน่อยนะ ว่าให้เตรียมตัวให้พร้อม ช่วงเช้ามีประชุม”
“ได้ค่ะ พอพี่กลับมาก็สู้อย่างสุดชีวิตเลยเหรอ ไม่เจ็ตแล็กบ้างหรือไง?”
“นอนหลับบนเครื่องมาแล้ว พี่ไปเอากระเป๋าสัมภาระก่อน เดี๋ยวค่อยคุยกัน”
คริสถือว่าเป็นที่ปรึกษาในด้านการใช้ชีวิตของเธอ ความสัมพันธ์กับเขาถือว่าสนิทและเข้าใจกันอยู่บ้าง
ในตอนแรกเธอเป็นนักศึกษาของคณะจิตรกรรม เรียนเกี่ยวกับศิลปะมาโดยตลอด รู้จักกับเขาในงานนิทรรศการศิลปะ เขาถามเธอว่ามีความสนใจในด้านของการออกแบบเสื้อผ้าไหม
บังเอิญในตอนนั้นเธอขาดแคลนเงินพอดี จิตรกรที่ไม่ได้มีเชื่อเสียงโด่งดังนั้นยากที่จะลืมตาอ้าปาก ภาพที่วาดออกมาก็ขายได้ไม่เท่าไร ดังนั้นก็เลยเลือกเดินไปยังเส้นทางด้านการออกแบบเสื้อผ้าตามเขา
นอกจากเธอจะพอมีพื้นฐานด้านการวาดภาพอยู่บ้าง แต่อย่างอื่นถือว่าเป็นสิ่งที่คริสสอนเธอทุกขั้นทุกตอน
ตัวเขาเองก็เป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัย ดังนั้นจึงมีความอดทนใจเย็นในการสอนคนอย่างมาก การเรียนรู้กับเขาไม่ได้ทำให้รู้สึกว่ากดดัน แต่รู้สึกว่าเป็นเพื่อนที่ระบายความในใจออกมาได้คนหนึ่ง
เธอเองก็ถือว่าเป็นลูกศิษย์ที่เขาภาคภูมิใจเช่นกัน ดังนั้นจึงค่อนข้างให้ความสำคัญกับเธอมาโดยตลอด มันเลยทำให้คนที่สตูดิโอรู้สึกว่าเธอกับคริสแอบเป็นชู้กัน แต่ก็เป็นแค่การล้อเล่นกันเท่านั้น ได้ยินมาว่าเขามีแฟนแล้วที่ต่างประเทศ
พอเตรียมตัวเสร็จแล้วก็เดินทางมาถึงสตูดิโอ ตอนที่เข้าประตูมาก็เหลือบสายตามองไปยังพื้นที่ต้อนรับลูกค้าโดยสัญชาตญาณ ไม่มีใครแม้แต่คนเดียว
ดูเหมือนทุกคนจะรู้ว่าคริสจะกลับมาแล้ว ต่างก็กำลังพูดคุยถึงเรื่องนี้
พอพันดาวถึงแล้วก็ประกาศเรื่องประชุมเช้าทันที กลุ่มคนที่รวมตัวกันพูดคุยซุบซิบถึงได้กระจัดกระจายต่างคนต่างไปเตรียมตัวของตัวเอง
ช่วงเวลาเก้าโมงกว่า ประตูห้องทำงานของพันดาวก็ถูกเปิดออก พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นคริสเดินเข้ามา
พันดาวยิ้มให้กับเขา“มาถึงเร็วขนาดนี้เชียวเหรอคะ?”
“อื้อ เตรียมพร้อมถึงไหนแล้ว?”
“พอสมควรแล้วค่ะ” พันดาวลุกขึ้นมากดน้ำให้เขาหนึ่งแก้ว เขานั่งลงตรงข้ามโต๊ะทำงานของเธอ เอื้อมมือออกไปเปิดแบบร่างที่ถูกทิ้งอยู่บนโต๊ะทำงานของเธอ เดิมทีพันดาวคิดว่าเขาจะวิพากษ์วิจารณ์งานของเธอเสียอีก แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดขึ้น“พี่ได้ยินมิวบอกว่า มีผู้ชายกำลังไล่ตามจีบเธอเหรอ?”
“อย่าไปฟังเธอพูดจามั่วซั่วเลย ก็แค่ลูกค้าคนหนึ่ง ที่ระบุว่าจะให้ฉันออกแบบก็เท่านั้นเองค่ะ”
“อื้อ ดูเหมือนว่าจะเป็นคนของตระกูลเจริญภูมิ เธอบอกว่าพี่รู้จักค่ะ”
นีราเหรอ? ผู้หญิงของตระกูลเจริญภูมิเธอรู้จักแค่คนเดียวเท่านั้น
แต่ว่านีรามาหาเธอมีธุระอะไรงั้นเหรอ? เธอยังไม่ได้ไปคิดบัญชีกับเธอเลย
พอพันดาวเดินลงมาชั้นล่าง ก็เห็นนีรานั่งอยู่บนโซฟาที่อยู่ตรงมุม ในมือเปิดนิตยสารแฟชั่นอยู่หนึ่งเล่ม
“คุณนีรา? ได้ยินว่าคุณมาหาฉันเหรอ?” พันดาวเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้มสุภาพ นั่งลงบนโซฟาที่อยู่ตรงข้ามกับนีรา
นีราวางนิตยสารในมือลง มองสำรวจพันดาวหัวจรดเท้า สายตากับน้ำเสียงดูถูกเหยียดอยู่ไม่น้อย“เธอทำงานที่สถานที่แบบนี้เหรอ?”
“คุณนีรามีธุรอะไรก็พูดออกมาเลยดีกว่าค่ะ ฉันเชื่อว่าคุณก็ไม่ได้มาคุยเรื่องสัพเพเหระกับฉันแน่ๆ”
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่อ้อมค้อมกับเธอแล้วกัน” เธอพูดจบ ก็หยิบกระเป๋าแบรนด์เนมของเธอขึ้นมา หยิบรูปที่ล้างเสร็จแล้วออกมาจากข้างใน ก่อนจะยื่นให้กับเธอ“ดูสิ”
พันดาวรับรูปมาด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยน พลิกดูอยู่สักพัก เป็นรูปถ่ายที่เธอไปกินข้าวที่ร้านอาหารด้วยกันกับทิศเหนือเมื่อวาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหนือดาวยังมีเรา