เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 108

คราวนี้หงส์แดงตกอยู่ในภวังค์ไปเลย หนังตาหนัก ค่อย ๆ หลับตาลง

เซียวชุ่นหยิบมือถือออกมากดโทรหาหมายเลขของซ่งหลิงเอ๋อร์

“หลิงเอ๋อร์ มาหาฉันที่อ้ายเก๋อ เอ็กซ์เพรสโฮเทล”

“โรงแรม……อาจารย์ นี่คงไม่ดีหรอกมั้ง ? เร็วเกินไปหน่อย……ฉันยังเตรียมตัวไม่พร้อม”

ซ่งหลิงเอ๋อร์ที่อยู่ด้านตรงข้ามใบหน้าร้อนฉ่า ตอบกลับมาอย่างอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ

เซียวชุ่นกุมขมับแล้วเอ่ย : “มารับฉันที่ปากประตู”

สมองของยัยหนูนี่วัน ๆ คิดเรื่องอะไรอยู่กันแน่ ? !

“อ้อ โอเค จะไปเดี๋ยวนี้”

หัวใจดวงน้อยของซ่งหลิงเอ๋อร์เต้น ตุบ ตุบ ไม่หยุด คราวนี้จึงจะทำให้เบาลงได้เล็กน้อย

ประมาณห้านาทีต่อมาปอร์เช่911 คันนั้นของซ่งหลิงเอ๋อร์จอดอยู่ที่ปากประตูอ้ายเก๋อ เอ็กซ์เพรสโฮเทลอย่างช้า ๆ

ไม่นานนักก็เห็นเซียวชุ่นเดินออกมาพร้อมกับแบกสาววัยเอ๊าะคนหนึ่ง ในมือหิ้วกระเป๋าหนังใบยาว

เขาเดินไปที่หน้ารถ เปิดประตูรถออก หลังจากยัดคนเข้าไปในรถ จึงนั่งอยู่ตำแหน่งข้างคนขับ

ดวงตากลมโตของซ่งหลิงเอ๋อร์มองเขาตะลึงตาค้าง เจ็บจี๊ดในใจ รู้สึกใจคอไม่ดี

จึงถามอย่างอดไม่ได้ : “อาจารย์ แม่หนูคนนี้เป็นใคร ?”

“นักฆ่า ที่มาฆ่าฉัน” เซียวชุ่นตอบอย่างไม่สนใจไยดี

“หา ?”

“ไปกัน หาสถานที่เงียบสงบสอบถามดูหน่อย ฉันอยากรู้เป็นใครที่อยากฆ่าฉัน”

เขาถูจมูกทีหนึ่ง เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง

“อ้อ ๆ ” ซ่งหลิงเอ๋อร์จึงจะตระหนักได้ว่าเขาเหมือนไม่ได้กำลังโกหกอยู่ จึงไตร่ตรองเล็กน้อย

“’งั้นก็ไปสถานที่ที่ฉันฝึกบู๊ตอนปกติไหม ?”

เซียวชุ่นพยักหน้า นั่นเป็นสถานที่ที่เหมาะสมจริง ๆ ลานเล็กประตูบานเดียว คนน้อยเงียบสงบ

แต่ไหนแต่ไรซ่งหลิงเอ๋อร์ขับรถเหมือนเป็นเครื่องบิน ดังนั้นเวลาครึ่งชั่วโมง ก็ถึงลานเล็กหมายเลข 24 ถนนติ้งโจวแล้ว

เซียวชุ่นแบกหงส์แดงพาเธอไปยังในห้องหนึ่งในนั้น แล้วโยนลงบนเตียงตามใจชอบ

“อาจารย์ เธอถูกอาจารย์ทำให้หมดสติเหรอ ?” ซ่งหลิงเอ๋อร์พูดด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ฉันผนึกจุดลมปราณของเธอไว้ เดี๋ยวก็ตื่นแล้ว” เซียวชุ่นลากเก้าอี้มาแล้วนั่งลงพลางกล่าวไปด้วย

“อ้อ อาจารย์เก่งจังเลย”

ดวงตาของซ่งหลิงเอ๋อร์โค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ยิ้มเอ่ยพร้อมกับมองเซียวชุ่นด้วยความเลื่อมใส

“รีบเก็บใบหน้าเคลิบเคลิ้มนั่นของเธอไปซะ ฉันเพิ่งจะเก่งขนาดนี้แค่วันนี้หรือไง ?” เซียวชุ่นเหลือบมองเธอแวบหนึ่งอย่างหมดคำจะพูด

ซ่งหลิงเอ๋อร์หัวเราะฮี่ ๆ ไม่นานนักก็นึกได้ว่าที่นอนอยู่บนเตียงคนนั้นเป็นถึงนักฆ่าคนหนึ่งเชียว จึงเอ่ยจริงจังทันที : “อาจารย์คิดว่าเป็นใครที่อยากฆ่าอาจารย์ ?”

“ยังจะมีใครได้ นอกเหนือจากตระกูลเจิ้งก็คือตระกูลซือคง” เซียวชุ่นเอ่ยราบเรียบ

“และอาจเป็นคนของสมาคมบู๊โบราณ อย่างไรเสียเราสองคนเพิ่งจะเอาชนะพวกเขาที่แท่นบู๊เงามืด เลยพาลโกรธก็พูดยากเช่นกัน”

ซ่งหลิงเอ๋อร์กะพริบดวงตากลมโตที่แวววาว เอ่ยวิเคราะห์อย่างละเอียด

“สมาคมบู๊โบราณอยากแก้แค้น ก็มาอย่างเปิดเผยบริสุทธิ์ได้ ไม่จำเป็นต้องว่าจ้างนักฆ่าหรอก”

“อื้ม ก็ถูก”

ซ่งหลิงเอ๋อร์เดินไปสังเกตผู้หญิงคนนั้นอย่างละเอียดที่ข้างเตียง

“อาจารย์ ว่าก็ว่านะ นักฆ่าคนนี้หน้าตาสวยอยู่นะ”

พูดเพิ่งจบ เธอก็กระโดดเอาตัวหลบอยู่ที่ข้างกายเซียวชุ่น ตะโกนด้วยความตกใจ : “แม่เจ้า ! ตื่นแล้ว !”

เซียวชุ่นกลอกตาใส่เธอทีหนึ่งอย่างจนปัญญา นี่ก็ตกใจเป็นกระต่ายตื่นตูม

“เขาสู้เธอไม่ได้หรอก ไม่ต้องกลัวเขาขนาดนี้”

พอซ่งหลิงเอ๋อร์ได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็นนักฆ่า อาชีพประเภทนี้จะได้เห็นก็แต่ในนิยายหรือไม่ก็ผลงานหนังละคร จึงตีตัวกลัวไปก่อนตามจิตใต้สำนึก

เธอเบะปาก เอ่ยยืนกราน : “ฉันไม่ได้กลัวเธอซะหน่อย”

เซียวชุ่นไม่ได้สนใจเธอ สองมือกอดอกพลันลุกขึ้นมองไปยังหงส์แดง

“ว่ามาเถอะ นายจ้างคือใคร ? ตระกูลเจิ้งหรือว่าตระกูลซือคง”

หงส์แดงยังคงรู้สึกออกแรงแม้เพียงน้อยนิดก็ยังไม่ไหว ทั่วทั้งร่างกายอ่อนแอและไร้พละกำลัง

เธอจึงถลึงตามองเซียวชุ่นอย่างหมดหนทางและเหี้ยมโหด : “อยากฆ่าก็ฆ่า ทำไมจะต้องเปลืองน้ำลายด้วย ในเมื่อคุณรู้ว่าฉันเป็นนักฆ่า ทำไมถึงได้ไม่รู้กฎข้อนี้ล่ะ”

คิ้วโก่งของซ่งหลิงเอ๋อร์ขมวดเป็นปม จ้องมองหงส์แดงพร้อมกับกล่าว

“ตอนนี้เธอยังขยับไม่ได้ ฉันไม่ฉวยโอกาสตอนคนอื่นตกที่นั่งลำบากหรอก รอให้เธอคืนสู่สภาพเดิมก่อนแล้วเรามาสู้สักตั้ง หากว่าฉันชนะเธอแล้ว ก็เรียกฉันว่าอาจารย์ กล้าหรือเปล่าล่ะ ?”

“หากว่าฉันชนะล่ะ ?”

“เธอชนะไม่ได้หรอก” ใบหน้าเรียวเล็กของซ่งหลิงเอ๋อร์เชิดขึ้น น้ำเสียงที่พูดจานั้นได้รับการถ่ายทอดมาจากเซียวชุ่นมาเต็ม ๆ

หงส์แดงที่ถูกพูดยอกย้อนไปต่อไม่เป็นเลยทีเดียว

คราวนี้ เซียวชุ่นพูดแล้ว : “เธอชนะแล้วฉันก็จะปล่อยเธอไป”

“แกพูดแล้ว รักษาคำพูดนะ?” หงส์แดงเชยนัยน์ตางดงามพร้อมกับกล่าว

“รักษาคำพูดอยู่แล้ว”

หงส์แดงลังเลเล็กน้อยแล้วเอ่ย : “ฉันแพ้แล้ว ฉันเรียกยัยหนูตัวกะเปี๊ยกนั่นว่าอาจารย์ได้ แต่ว่า ให้ฉันฝ่าฝืนหลักการ เปิดเผยข้อมูลผู้ว่าจ้าง ฉันทำไม่ได้หรอก”

“จิ๊ ! ยังไม่ทันได้เริ่มแข่ง เธอก็เล่นลูกไม้ละ ?”

ซ่งหลิงเอ๋อร์เอ่ยพร้อมกับมองเธออย่างกระฟัดกระเฟียด

“ไม่เป็นไร อย่างไรก็หนีไม่พ้นสองตระกูลนั่นหรอก ฉันจะตรวจสอบให้ชัดเจน” เซียวชุ่นยิ้มกล่าว

เขามองนาฬิกา เวลายังเช้าอยู่

เขาหยิบเข็มเงินออกมาเดินไปข้างหน้า แล้วแทงจุดลมปราณไม่กี่จุดบนร่างกายของหงส์แดงอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้น เธอก็รู้สึกได้ว่าความรู้สึกที่ไร้พละกำลังไปทั่วทั้งร่างกายนั้นได้หายจนเกือบหมด พลังก็ฟื้นฟูอย่างฉับไวเช่นกัน

ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะแอบอุทาน ทั่วหล้าถึงกับมีวิธีฝังเข็มที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ด้วย !

บวกกับประสบการณ์ที่เธอประมือกับเซียวชุ่นที่อยู่เบื้องหน้าเธอตอนนี้ ทำให้อดไม่ได้ที่จะมองสัตว์ประหลาดตัวนี้ที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่ทึ่ง และอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองอีกสองที

นี่เป็นสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่ ?

ครึ่งชั่วโมงต่อมา หงส์แดงรู้สึกได้ว่าพลังของตนเองฟื้นฟูได้แปดเก้าส่วนแล้ว จึงกระโดดลงมาจากบนเตียง

มองพวกเซียวชุ่นทั้งสองคนพร้อมกับเอ่ยอย่างเย็นชา : “เริ่มได้แล้ว”

“ที่นี่แสดงฝีมือออกมาได้ไม่เต็มที่หรอก ไปในลานกัน” ซ่งหลิงเอ๋อร์กล่าว

ทั้งสองคนเดินออกประตูห้องตาม ๆ กัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊