เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 110

หงส์แดงเจียดรอยยิ้มออกมา แม่หนูคนนี้ช่างเปลี่ยนหน้าไวเหลือเกิน เธอจึงปรับตัวให้ทันไม่ได้อยู่ชั่วขณะ

“งั้นก็ขอขอบคุณคุณเซียว ขอขอบคุณคุณซ่งด้วยค่ะ”

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ฉันไม่มีพี่น้องเลยตั้งแต่เล็ก จากนี้ก็ถือว่าพี่เป็นพี่สาวของฉันแล้วกันนะ”

ซ่งหลิงเอ๋อร์ยึดติดจนเหมือนปลาสเตอร์หนังหมา ดวงตาเป็นรูปจันทร์เสี้ยว พูดพร้อมกับยิ้มหยี : “คืนนี้ฉันจะอยู่ค้างคืนที่นี่เป็นเพื่อนพี่สาวเอง”

“เธอไม่กลัวฉันฆ่าเธอแล้วเหรอ ?”

หงส์แดงเอ่ยถามพลันจ้องมองเธออย่างกึ่งล้อเล่นกึ่งจริงจัง

ซ่งหลิงเอ๋อร์เงยหน้าไปสบตาเธอทีหนึ่ง แล้วก็มองเซียวชุ่นอีกครั้ง

กะพริบตาลังเลอยู่เล็กน้อยสองสามที

ชีวิตน้อย ๆ สำคัญกว่า

จึงพูดโดยมองคนที่อยู่ทั้งสองข้างทันที : “ฉันลืมไปเลย เมื่อเช้าคุณปู่โทรมาหาให้ฉันกลับบ้านคืนนี้ ดูฉันสิ ช่วงนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ลืมเรื่องได้ง่ายดายเอาซะดื้อ ๆ เลย”

หงส์แดงเม้มปากหัวเราะ

เซียวชุ่นเหลือบมองเธอแวบหนึ่งด้วยใบหน้าหมดคำจะพูด แล้วก็มองหงส์แดงต่อพลันเอ่ย : “งั้นก็ได้ หลิงเอ๋อร์ส่งฉันกลับบ้าน เธอก็พักผ่อนเร็วหน่อย ที่นี่มีของทุกอย่างครบครัน”

หงส์แดงพยักหน้า

จากนั้นเซียวชุ่นก็พาซ่งหลิงเอ๋อร์ออกไปจากลานเล็ก

“อาจารย์ อาจารย์ตั้งใจจะให้พี่หงส์แดงทำอะไร ?”

หลังจากกลับถึงบนรถ ซ่งหลิงเอ๋อร์ก็เอ่ยถาม

“เธอคิดว่าไงล่ะ ?”

“ไม่งั้นให้เธออยู่ที่ในลานดีกว่า ตอนที่ฉันมาฝึกบู๊จะได้มีคนอยู่เป็นเพื่อนฉัน ไม่งั้นฉันตัวคนเดียวคงเซ็งแย่เลย”

เซียวชุ่นคิดอยู่เล็กน้อยจึงเอ่ย : “ไว้มีโอกาสจะหาคู่ซ้อมให้เธอสักคน ส่วนหงส์แดงฉันมีการจัดเตรียมอย่างอื่นไว้แล้ว”

พูดถึงการต่อยการเตะ ความต่างระหว่างหงส์แดงกับซ่งหลิงเอ๋อร์มีอยู่มาก คู่ซ้อมจำเป็นต้องมีกำลังสูสีกันถึงจะดี

ไม่ว่าเป็นตระกูลซือคงหรือว่าตระกูลเจิ้งก็ตาม พวกเขาจะไม่ยอมวางมือยุติเรื่องราวอย่างแน่นอน หากว่าพวกเขาลงมือกับเซียวชุ่น เขาก็หาได้กลัวไม่

กลัวก็แต่ว่าพวกเขาจะเบนความสนใจไปที่ตัวของเหยาเสินอีก

ที่เหยาเสินขาดคนที่สามารถคุ้มครองเธอได้ ตนนั้นไม่สามารถอยู่ข้างกายเธอได้ตลอดทั้งวันยี่สิบสี่ชั่วโมง

ฝีมือของมังกรสามไม่เลว จัดการพวกรับมือยากในโรงงาน ต่อกรพวกอันธพาลท้องถิ่นที่คอยก่อเหตุหาเรื่องในโรงงานก็ได้หมด แต่ว่าการจะจัดการนักฆ่าหรือไม่ก็นักบู๊ คงจะเหนือบ่ากว่าแรงสำหรับเขาไปหน่อย

ในฐานะที่หงส์แดงเป็นนักฆ่าคนหนึ่ง เธอจึงเข้าใจรูปแบบพฤติกรรมของนักฆ่าเป็นอย่างดี จึงเหมาะสมที่จะทำหน้าที่บทบาทนี้เป็นอย่างมาก รับผิดชอบหน้าที่คุ้มครองเหยาเสินในตอนที่ตัวเองไม่อยู่ได้

อีกอย่างเป็นผู้หญิงเหมือนกัน จะสะดวกมากกว่าหน่อย

ระหว่างทาง เขาหยิบมือถือกดโทรหาหมายเลขของมังกรสาม

“พี่เซียว มีเรื่องอะไรจะสั่งการหรือ ?”

ไม่นานนักก็มีเสียงของมังกรสามดังมาจากฝั่งตรงกันข้าม

“ตอนนี้ทีมรักษาความปลอดภัยนั่นของนายกำลังรับคนอยู่ไม่ใช่เหรอ ? ฉันจัดเตรียมไปให้นายหนึ่งคน……”

เขาคิดไปคิดมา เรื่องนี้ให้มังกรสามไปจัดการจะดีกว่า

เขาจะพาสาวสายอย่างหงส์แดงคนนี้กลับไปที่บริษัทเอง จากนั้นบอกเหยาเสินว่าหาบอดี้การ์ดข้างกายมาให้เธอหนึ่งคน ไม่รู้เลยว่าพวกผู้หญิงนั่นจะคิดยังไงกัน

ตอนที่เซียวชุ่นกลับถึงจิ่นซิ่วกั๋วจี้ก็จวนจะสองทุ่มแล้ว เวลาอาหารเย็นได้ผ่านไปแล้ว

เหยาเจี้ยนกั๋วขลุกตัวอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องหนังสือ ส่วนหลิวหยุนเซียงเมื่อก่อนตอนกลางเย็นมักจะออกไปคุยสัพเพเหระไม่ก็เล่นไพ่นกกระจอกสองรอบกับเพื่อนพวกนั้นของเธอ คราวนี้เพิ่งย้ายมา ไม่คุ้นเคยที่นี่ และก็ไม่มีเพื่อนที่สนิทเลยสักคน จึงทำได้แต่ขลุกอยู่ในบ้าน ดูโทรทัศน์ที่ห้องนอนบนตึก

เหยาเสินนั่งพิงอยู่บนโซฟาคนเดียวที่ห้องนั่งเล่นล่างตึก ในโทรทัศน์ฉายละครน้ำเน่าอยู่ เธอไถมือถืออย่างใจลอย ห้องนั่งเล่นที่ใหญ่มากดูเงียบเหงาอยู่หน่อย ๆ

เห็นเซียวชุ่นกลับมา เธอจึงเงยหน้ายิ้ม พรั่งพรูความรักระหว่างชายหญิงออกมา

“เก็บข้าวเย็นไว้ให้คุณน่ะ ฉันจะไปอุ่นให้คุณหน่อย”

หลังจากเธอลุกขึ้น ชุดนอนทรงหลวมกระจายออก เผยเส้นโค้งที่งดงามให้เห็นวับ ๆ แวม ๆ

ในใจของเซียวชุ่นพลันอบอุ่นขึ้น นี่จึงจะเรียกว่าการดูแลครอบครัวสินะ ?

สามปีมานี้ แม้ว่าจะมีอิฐมีกระเบื้องคอยบังลมกันฝน เวลาส่วนใหญ่หัวใจนั้นกลับหนาวเย็น

หวนนึกถึงสามปีนี้ที่ตนเองปฏิบัติต่อเขาอย่างไรนั้น คราวนี้ดูเหมือนจะไม่มีสิทธิ์อะไรไปเรียกร้องอะไรเขาได้ เขาได้ทำมากพอแล้ว

แม้ว่าจะปลอบใจตัวเองแบบนี้ ในใจยังคงเลี่ยงไม่ได้ที่ผิดหวัง

จึงถอนหายใจเฮือกหนึ่งเบา ๆ โดยไม่รู้ตัว

“ผู้ใดทำให้แม่หนูถอนหายใจกัน ? กระผมจะไปฟันมันให้เดี๋ยวนี้”

เซียวชุ่นได้ยินเสียงที่เธอถอนหายใจนั่น จึงเงยหน้าเอ่ยถาม

เหยาเสินชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง : “คุณผูกคอตายซะเถอะ”

พูดจบจึงลุกขึ้นไปล้างหน้าบ้วนปาก ทิ้งเซียวชุ่นมองแผ่นหลังงดงามนั่นของเธออย่างอึ้ง ๆ อยู่ตรงนั้น แม่หนูคนนี้ดุร้ายจังเลยนะ

……

ณ คฤหาสน์หลังเก่าตระกูลซือคง ในขณะเดียวกัน

ด้านบนของกลางห้องโถง มีแสงไฟสว่างไสว ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนี้ยังคงไล่บรรยากาศเศร้าโศกที่ตลบอบอวลไปทั่วห้องโถงไม่ได้อยู่ดี

ภาพถ่ายของซือคงเฉินวางไว้อยู่บนตรงกลางของโต๊ะไม้จันทน์แผ่นยาว การจัดงานศพครั้งนี้ทั้งตระกูลซือคงเต็มไปด้วยความคับข้องใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งซือคงอานหมิงพ่อของซือคงเฉิน ในเวลานี้ดวงตาทั้งสองข้างได้แดงก่ำตั้งนานแล้ว ในส่วนลึกของนัยน์ตาฝังไว้ด้วยความคับแค้นมหาศาล

“ไอ้สัตว์เดรัจฉานนั่นยังไม่ตาย อีกฝ่ายก็ล้มเหลวแล้ว”

ซือคงเจี๋ยพ่อของซือคงซิงยังคงกุมอำนาจไว้มากในตระกูล เรื่องเล็กน้อยจนเรื่องใหญ่โตในตระกูล ส่วนใหญ่แล้วเขาจะเป็นคนจัดการ ดังนั้นเรื่องการจ้างวานนักฆ่าเพื่อกำจัดเซียวชุ่น ซือคงซินหรงก็มอบให้เขาจัดการ

ซือคงซิงผู้เป็นลูกชายถูกเหยียดหยามและถูกลงโทษ จนเกือบจะพรากชีวิตน้อย ๆ ไปแล้ว เขาผู้ทำหน้าที่เป็นพ่อนี้จึงแค้นเคืองเซียวชุ่นเช่นกัน ดังนั้นการลงมือก็ย่อมไม่เหลือโอกาสไว้ให้อยู่แล้ว

สำนักเทพ ในสายตาของทั้งโลกนั้นเป็นองค์กรนักฆ่าที่จัดไว้อยู่อันดับต้น ๆ แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายก็สูงอย่างไม่มีเหตุผล

ในเมื่อเป็นแบบนี้พวกเขายังคงล้มเหลว ทว่าอีกฝ่ายก็บอก จะจัดการให้คนอื่นมาแต่โดยเร็ว

“ไอ้สวะ ! เป็นไอ้สวะกันหมด ! ไอ้สัตว์เดรัจฉานตัวกะเปี๊ยกนั่นเพียงแค่มีชีวิตเพิ่มอีกวันก็ถือความอัปยศของน้องเฉินตระกูลของเรา วิญญาณของน้องเฉินที่อยู่บนสวรรค์ก็ไม่สามารถที่จะสงบสุขได้ !” ซือคงอานหมิงกัดฟันพูดด้วยความเคียดแค้น

“ทำไมสมาคมบู๊โบราณยังไม่ลงมืออีก ? น้องเฉินเป็นสมาชิกของพวกเขา หรือว่าพวกเขาตั้งใจที่จะนิ่งดูดายอย่างงั้นเหรอ ? !” มีคนเอ่ยถาม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊