“ข้างคุณทำไมอุ่นขนาดนี้?”เหยาเสินเหมือนกับสาววัยรุ่นแรกแย้ม ใบหน้าแดงก่ำ ภายใต้แสงระเรื่อของไฟนีออนในระยะไกลเธอมีเสน่ห์เป็นพิเศษ
“เพราะว่าผมเคยฝึกบู๊ คุณก็เคยเห็น”เซียวชุ่นตอบ
“คุณกำลังหลอกฉัน”
“นี่คุณมองออกด้วย?”เซียวชุ่นพูดล้อเล่น
เหยาเสินหยิกไปที่แขนเขาเบาๆ
“เกี่ยวกับการฝึกบู๊จริงๆ ผมสามารถควบคุมอุณหภูมิในร่างกายได้”เซียวชุ่นพูดอย่างจริงจัง
“เชื่อก็บ้าแล้ว”
ทั้งสองคนเล่นอยู่ที่สวนสาธารณะสักพัก ประมาณสามทุ่มจึงกลับไปที่รถเพื่อกลับบ้าน
ในรถอุ่นมาก เปิดเพลงเบาๆ เคลื่อนรถไปช้าๆ
“หัวหน้า คุณว่าเดทของพวกเราเมื่อกี๊ขาดอะไรไปไหม?”เซียวชุ่นถามอย่างอารมณ์ค้าง
“ขาด……ขาดอะไร?”จนตอนนี้อารมณ์ของเหยาเสินยังไม่สงบลง เธอพึมพำเสียงเบา
“คุณดูสิ พวกเรากอดกันแล้ว จูงมือแล้ว ต่อจากนี้ก็ยังมีกระบวนการอีกอย่างที่ยังทำไม่เสร็จ ไม่งั้นคุณก็จอดรถ แล้วเราก็ดำเนินการให้เสร็จสิ้นเป็นไง?”เขาพูดอย่างเคร่งขรึม
เอี๊ยด!
เหยาเสินหยุดรถทันที หันมามองเขา ยิ้มเล็กน้อย
ทันใดนั้นข้างในใจเขาก็ดีใจมาก ที่จริงเขาแค่พูดลอยๆ ไม่คิดจริงๆว่าจะมีโอกาสถึงขั้นนี้ และยังเป็นในรถด้วย ตื่นเต้นมาก
“แบบนี้ไม่สะดวก ไปที่เบาะหลัง”แววตาเหยาเสินเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
เซียวชุ่นกลืนน้ำลายดัง“อึก”รีบเปิดประตูรถกระโดดลงไป วิ่งลงไปที่ประตูหลังเหมือนเด็กน้อยเดิน แล้วเปิดประตู
ประตูล็อกเสียแล้ว
“หัวหน้า เปิดประตู”
“เปิดบ้าอะไรไอ้ผีหัวโต”เหยาเสินสบถ ไอ้ระยำนี่ได้คืบจะเอาศอก
“คุณเรียกรถกลับไปเองละกัน!”
เหยาเสินสตาร์ทรถขับออกไป ทิ้งเซียวชุ่นตะลึงงันอยู่ตรงนั้น
จนรถขับออกไปไหล เขาจึงได้สติคืนมา ตบหน้าผาก ถอนหายใจยาวๆ สุดท้ายก็ร้อนใจ
เขามองซ้ายขวา ถนนเส้นนี้ค่อนข้างห่างไกล เรียกรถได้ยาก ให้แต่เดินไปที่สี่แยกต่อไป
“คุณโม่ ตัวคุณหอมมาก ให้ผมดมหน่อยสิ”
“นักพรต คุณอย่าทำแบบนี้ ฉันรับปากคุณ ฉันจะนัดสาวๆ มาอยู่กับคุณตอนนี้เลย”
“ไม่ ผมชอบคุณ คุณแข็งแกร่งกว่าสาวๆ บนเขาของผมเป็นหมื่นเท่า ผมเห็นคุณก็หลงคุณทันที คืนนี้เอาคุณเนี่ยแหละ ไม่ต้องห่วง ผมจะทำให้มันเป็นคืนที่ไม่มีวันลืมเลย!”
“ถ้าคุณทำแบบนี้อีกฉันจะแจ้งความ”
“แจ้งความ?เชื่อผมนะ นั่นมีแต่จะทำให้คุณตายเร็วขึ้น!”
“……”
เซียวชุ่นมีประสาทสัมผัสทั้งห้า เพิ่งเดินออกไปได้ห้าร้อยเมตรก็ได้ยินบทสนทนาแบบนี้มาจากรถตู้สีดำที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน เขาลังเลอยู่แป๊บหนึ่ง เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว แล้วตบไปที่หน้าต่าง
“ใครน่ะ?อย่ารบกวนอารมณ์อันสุนทรีย์ของฉันสิ”
ในขณะเดียวกันเขาก็สังเกตเห็นว่านักพรตคนนี้เต็มไปด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณอันแข็งแกร่ง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นนักพรตที่ก้าวผ่านช่วงปฐมภูมิ
แต่สุดท้ายแล้วก็ยังแย่ นักพรตที่เติบโตอย่างแท้จริงสามารถทำได้ทั้งปล่อยและยับยั้ง ส่วนนักพรตตรงหน้านี้ อาจจะเหมือนคนอื่น ที่รู้แค่วิธีปล่อย แต่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ
โม่ยี่ไป๋ที่อยู่ในรถนั่งอยู่บนเบาะ ตัวสั่น ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเสียงนี้คุ้นๆ จึงขมวดคิ้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จำไม่ได้ว่าเป็นใคร
“ไอ้เด็กนี่ อยากตายหรือไง!”ยู่ซูจื่อพูดอย่างโกรธเคือง
ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยหมัดตรงไปที่เซียวชุ่น อย่าคิดว่านี่เป็นแค่หมัดธรรมดา
ถ้าหมัดตรงของคนทั่วไปต่อยไปที่หน้าอกอย่างมากก็ทำให้อีกฝ่ายถอยหลังไปสองสามก้าว แต่หมัดของยู่ซูจื่อต่อยลงไป แทบจะทำให้คนทั่วไปกระอักเลือดได้ตรงนั้นทันที และถึงกับพิการได้เลยด้วย
เซียวชุ่นยกมือขึ้นขวางไว้ที่หน้าอกอย่างไม่รีบร้อน หมัดของยู่ซูจื่อกระแทกไปที่ฝ่ามือเขาดัง“ปัง” แต่ไม่ขยับสักนิด!
สีหน้ายู่ซูจื่อหม่นลงไป เก็บหมัดคืน พูดอย่างเยือกเย็น:“มีความสามารถนี่ ไม่น่าล่ะถึงได้กล้าช่วยคน แต่ถือว่าวันนี้แกดวงไม่ดี ที่เจอฉัน!”
วัยรุ่นที่อยู่ตรงหน้าดูธรรมดา ไร้ร่องรอยของการฝึกบู๊ แต่กลับรับหมัดเขาได้อย่างตรงๆ ซึ่งทำให้เขาตกใจจริงๆ
แต่เขาเพิ่งใช้กำลังไปไม่ถึงสอง การรับมือกับนักบู๊ที่อาศัยกำลัง เขามั่นใจว่าง่ายพอๆ กับการบีบมด
“คุณก็โชคร้าย ที่เจอผม”เซียวชุ่นพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ
ในรถมีสาวสวยรออยู่ ยู่ซูจื่อโหยหามานานแล้ว ไม่อยากไร้สาระกับเขามากอีก สายตาดูเคร่งขรึม ฝ่ามือตบไปที่เซียวชุ่นทันที ตรงจุดมิ่งเหมิน
หมัดเร็วที่มาพร้อมชี่แท้อันดุร้ายและทรงพลัง ยู่ซูจื่อคาดว่าอีกฝ่ายรับหมัดนี้ไม่อยู่แน่
ร่างของเซียวชุ่นถอยไปกลางอากาศหลายสิบก้าวทันที โบกมืออย่างผ่อนคลาย หมัดที่มาเร็วและรุนแรงนั้นก็หายไป
สีหน้าของยู่ซูจื่อเปลี่ยนไปทันที จะเป็นไปได้ไง!
ที่อีกฝ่ายถอยไปกลางอากาศมีแค่นักบู๊ที่เข้าสู่ช่วงปฐมภูมิถึงจะสามารถแสดงออกมาได้ หมัดของตัวเองนั้นใช้พลังไปแค่หกสิบเปอร์เซนต์ของตัวเอง แต่ถูกอีกฝ่ายคลี่คลายไปอย่างง่ายดาย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...