มีคนรู้จักเซียวชุ่น ก็เป็นธรรมดาที่จะมีคนไม่รู้จักเขา
สังเกตเห็นท่าทางคนของตระกูลซือคง ก็ถามอย่างอดอยากรู้ไม่ได้: “หนุ่มน้อยนี่เป็นใครกัน ทำไมคนของตระกูลซือคงมองเขาอย่างกับเห็นศัตรู? ”
“คงไม่ได้มาป่วนงานหรอกนะ? ”
“บัดซบ! มาป่วนงานตระกูลซือคง รนหาที่ตายหรือไง ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้ปรมาจารย์โจ๋วมาคุ้มกันตระกูลซือคง”
สองตาพราวระยับของซ่งหลิงเอ๋อร์จ้องมองเซียวชุ่นอย่างไม่เข้าใจ หัวใจดวงน้อยลอยถลำไปแล้วกว่าครึ่ง
ซ่อนตัวตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วล่ะ? ทำไมคุณกล้าปรากฎตัวอย่างวางมาดทำกร่างขนาดนี้?
ในใจที่เป็นห่วงกังวลขณะเดียวกันก็เกิดความรู้สึกเลื่อมใสศรัทธา นี่ไม่นับว่าเป็นวีรบุรุษในดวงใจเชียวหรือ?
จิตวิญญาณที่ไม่กลัวแม้มีศัตรูมากก็พร้อมต่อสู้ฟันฝ่า!
ซ่งชิงโจสับสนเป็นอย่างมาก
เขามาในภารกิจครั้งนี้ก็เพื่อเซียวชุ่น ตระกูลเฟิงก็ยอมคุ้มครองเขาเช่นกัน
ถ้าเขาอยากหนี ตระกูลเฟิงก็ให้ที่หลบภัยเขาได้ ทว่าวันนี้เขากลับเลือกที่จะเผชิญหน้ากับคนมียศมีตำแหน่งมีอำนาจและร่ำรวยเกือบทั้งเมืองเจียงไห่ บวกกับเจ้าสำนักสมาคมบู๊โบราณอย่างโจ๋วจือหยวน
เขาถอนหายใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ พ่อหนุ่มนี่มันปลุกปั่นสร้างปัญหาเก่งจริง ยิ่งไปกว่านั้นปัญหาทั้งหมดที่เขาก่อแม้แต่ตระกูลซ่งยังไม่กล้าทำ
“เขาก็คือเซียวชุ่น พ่อหนุ่มที่ซ้อมหย่งจางกับเหอชาน”
เจิ้งหย่งจางเหลือบไปเห็นเซียวชุ่น ก็หลุบตาต่ำรังสีสังหารที่ดุร้ายและเยือกเย็นอย่างไม่สิ้นสุดปรากฏขึ้น แล้วพูดกับฉู่จิ่งถงที่อยู่ข้างๆ
ฉู่จิ่งถงกำหมัดแน่น ขบกรามกรอด ขณะที่เขากำลังจะก้าวไปข้างหน้า ก็ถูกเจิ้งหย่งจางดึงตัวไว้
“ไม่ใช่ตอนนี้ สหายฉู่รอดูก่อนก็ไม่เสียหาย ดูว่าไอ้หนุ่มนี่จะมาไม้ไหน”
ฉู่จิ่งถงพยายามอดกลั้นความโกรธเกรี้ยวในใจ กำหมัดแน่นจนเกิดเสียงเปรี๊ยะ!
โกรธ กังวล อยากรู้ เฉยชา
เซียวชุ่นเผชิญหน้ากับสายตาหลากหลายระหว่างก้าวขึ้นบันได
“หยุด!”
ชายอายุเกือบครึ่งร้อยคนหนึ่ง รูปร่างอ้วนท้วนเล็กน้อยมาขวางหน้าเซียวชุ่น
เขาคือพ่อบ้านจาง
วันนั้นเขาไปกับซือคงซินหรงที่ใกล้ๆกับสตาร์ไลท์บีโอ ขับรถออกไปไม่นานเขาเกิดไม่สบายใจจึงขับรถกลับมา เห็นกับตาว่าซือคงซินหรงเดินเข้าไปในสตาร์ไลท์บีโอ
และสตาร์ไลท์บีโอคือบริษัทของเซียวชุ่น เขาเพียงไปหารือธุรกิจกับผู้บริหารที่เพิ่งได้เลื่อนตำแหน่งใหม่ท่านนี้ในฐานะผู้นำตระกูลของตน
ไม่คิดเลย พอตกกลางคืนก็มีข่าวส่งต่อมาว่าท่านผู้นำเสียชีวิต แม้ว่าผู้นำตระกูลคนปัจจุบันบอกว่าท่านผู้นำเสียชชีวิตเนื่องจากเลือดออกในสมองกะทันหัน แต่เขาคิดว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเซียวชุ่นแน่
เขาติดตามซือคงซินหรงมากว่าครึ่งชีวิต จงรักภักดีเสมอมา ตอนนี้ได้พบเซียวชุ่น ก็เหมือนกับได้พบศัตรูอย่างไรอย่างนั้น
“พวกแกบุกเข้ามาได้ยังไง? ที่นี่ไม่ต้อนรับแก เชิญออกไปซะเดี๋ยวนี้! ”
“ให้เขาเข้ามา ข้าเชิญเขามาเอง” โจ๋วจือหยวนกล่าว
“วันนี้เป็นวันที่อดีตผู้นำตระกูลเสียชีวิต มีบางเรื่องควรทำให้เสร็จสิ้น”
เมื่อสิ้นคำกล่าวของโจ๋วจือหยวน คนในตระกูลซือคงก็เข้าใจได้ในทันที เป็นไปได้ว่าปรมาจารย์โจ๋วต้องการสังหารศัตรูตัวร้ายทีหน้าห้องโถง เพื่อแก้แค้นให้ซือคงเฉิน
“พ่อบ้านจาง หลีกทาง ปล่อยเขาเข้ามา” ซือคงเจี๋ยกล่าว
พ่อบ้านจางหลีกทางให้อย่างขุ่นเคือง
พวกคนที่ไม่เข้าใจเรื่องบุญคุณความแค้นของเซียวชุ่นและตระกูลซือคงก็ล้วนสีหน้ากระอักกระอ่วนทำอะไรไม่ถูก
ดูพ่อหนุ่มนั่นอายุไม่น่าเกินยี่สิบสี่ยี่สิบห้า ดูหน้าตาไม่คุ้นเคย แล้วก็ดูไม่เหมือนคุณชายตระกูลไหน ทำไมกล้ายั่วยุให้ตระกูลซือคงและปรมาจารย์โจ๋วขุ่นเคืองนะ?
พละกำลังต่างกันมากเหลือเกิน ก็เหมือนมดกับช้าง มดสามารถยั่วยุให้ช้างขุ่นเคืองได้หรือ? เห็นได้ชัดว่าไม่ ต่อให้มดกัดช้างด้วยแรงน้อยนิดทั้งหมดที่มี ช้างก็ไม่ระคายเคืองสักนิด หรือถ้ากัดเจ็บจริงแค่เหยียบที่เดียวก็จบแล้ว
แต่พ่อหนุ่มตรงหน้านี่แทบจะไม่เหมือนมดตัวหนึ่งเลย จาบจ้วงตระกูลซือคงแล้วยังวางมาดทำกร่างมาแสดงความเสียใจ ทำให้ผู้คนไม่เข้าใจเอาเสียเลย
ทั้งสองพูดคุยถามตอบกันคนละประโยคกว่าสองนาทีเต็ม ผู้คนรอบๆมองกันไปมาอย่างกระอักกระอ่วน มองอย่างอึ้งกิมกี่
เมื่อเห็นคนตระกูลซือคงแทบอยากจะฉีกทึ้งร่างเขา ก็กังวลใจแทนพวกเขาเงียบๆ
“ขอโทษ ที่ปล่อยให้ทุกคนรอ” หลังจากวางสาย เซียวชุ่นกล่าวขอโทษยิ้มๆ
“เซียวชุ่น วันนี้เป็นวันแห่ศพของคุณปู่ฉัน แกจะมากำเริบเสิบสานอย่างนี้ไม่ได้” ซือคงซิงทนไม่ไหว ก้าวออกมาด้านหน้าสองก้าวตาจ้องเขม็งพร้อมกล่าวลั่น
เซียวชุ่นหันมองเขา : “เมื่อไม่กี่วันก่อนเพิ่งพูดว่ายินดีทำตามคำสั่งของฉัน ทำไมเปลี่ยนไปเร็วเช่นนี้ล่ะ? กล้าพูดแบบนี้กับฉัน? พวกคนตระกูลซือคงนี่คำที่พูดออกมาล้วนไม่ต่างจากผายลม”
ซือคงซิงหน้าแดงเรื่อ ชี้ที่เขาพร้อมกล่าวอย่างตะกุกตะกัก : “กะแก ที่พูดนั่นมันเพราะแกบังคับฉันหรอก จะเป็นจริงได้อย่าไร! ”
“เหลือเชื่อเจ้าหนุ่มนี่กล้าบีบบังคับคุณชายซือคง! ”
“สรุปเขาเป็นใครกันแน่? ไม่เพียงแต่บีบบังคับซือคงซิง ไม่น่าเชื่อว่ายังกล้าป่วนงานศพคนอื่นอย่างโจ่งครึ่ม”
บางคนที่ไม่รู้เรื่องราวภายในก็เกิดความโกลาหลขึ้นทันที
เซียวชุ่นยิ้มเย็น คร้านจะสนใจเขา ยังไงก็เป็นพวกคนใกล้ตายอยู่แล้ว เขาจุดธูปสามดอก ไหว้อย่างจริงใจ
จากนั้นหันกลับมาอย่างช้าๆ จ้องมองไปที่คนตระกูลซือคงทุกคน
สายตาแหลมคมเสียดกระดูก ราวกับปลายมีดเย็นเยียบแทงทะลุเสื้อผ้า ผิวหนัง ไปจนถึงกระดูก
“เอาล่ะ เอาเรื่องคนตายเป็นใหญ่ ฉันไหว้อดีตผู้นำตระกูลของพวกคุณแล้ว ตอนนี้ถึงตาพวกคุณแล้วล่ะ”
พูดจบเขายื่นมือไปทางหงส์แดง หงส์แดงเข้าใจทันที เอากล่องเก็บเถ้ากระดูกส่งให้เขา
เซียวชุ่นเอากล่องเก็บเถ้ากระดูกวางไว้หน้ารูปขาวดำของซือคงซินหรง
“แกหมายความว่าไง? ” ทุกคนในตระกูลซือคงมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่เข้าใจสถานการณ์ ซือคงซิงถามเสียงแข็ง
“ผู้นำตระกูลคนใหม่ของพวกคุณไม่เคยบอกพวกคุณหรือ? ”
เซียวชุ่นเอามือทั้งสองไพล่หลัง พูดอย่างสงบนิ่งว่า : “ซือคงซินหรงถูกฉันฆ่า เพราะเขาฆ่าสหายของฉัน ฉะนั้นเขาสมควรตาย พวกคุณคนตระกูลซือคงต้องใส่ชุดกระสอบไว้ทุกข์ และคุกเข่าขอโทษ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...